งานส่งเสริมความร่วมมือด้านการค้าและเศรษฐกิจ ระหว่างประเทศจีน (กานซู) - ประเทศไทย (China (Gansu) - Thailand Economic and Trade Cooperation Promotion and match-Marking Conference)

สร้างเมื่อ 04/12/2567 15:01

วันที่ 4 ธันวาคม 2567 เวลา 16.00 น. ที่ หอประชุมกวงฮัว อาคารหอการค้าไทย-จีน กรุงเทพมหานคร นายแพทย์สมฤกษ์ จึงสมาน อธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก พร้อมด้วย นายแพทย์กุลธนิต วนรัตน์ ผู้อำนวยการสถาบันการแพทย์ทางเลือก ผู้บริหาร และบุคลากรกรมฯ เข้าร่วมงานส่งเสริมความร่วมมือด้านการค้าและเศรษฐกิจ ระหว่างประเทศจีน (กานซู) – ประเทศไทย (China (Gansu) – Thailand Economic and Trade Cooperation Promotion and match-Marking Conference) พร้อมร่วมเป็นสักขีพยานในพิธีลงนามบันทึกความเข้าใจว่าด้วยการเป็นบ้านพี่เมืองน้อง ระหว่าง มณฑลกานซูแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน กับ จังหวัดระยอง โดยมี นายอรัญ เอี่ยมสุรีย์ คณะที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ นายเหริน เจิ้นเหอ ผู้ว่าการมณฑลกานซู และนายเจียง เหว่ย อุปทูตฝ่ายเศรษฐกิจของสถานเอกอัครราชทูตจีนประจำประเทศไทย ร่วมเป็นผู้กล่าวเปิดงาน นอกจากนี้ยังมี ผู้บริหารส่วนราชการ ผู้แทนสภาการค้าจีนในประเทศไทย ผู้แทนจากสมาคมการค้า องค์กรธุรกิจ สถาบันต่างๆ ในประเทศไทย ผู้แทนรัฐบาลมณฑลกานซู และผู้แทนจากสถานทูตจีนประจำประเทศไทย เข้าร่วมงาน
โดยกระทรวงสาธารณสุข ได้มีนโยบายในการส่งเสริมภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทย สมุนไพรไทยและผลิตภัณฑ์จากสมุนไพรไทย เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจ รวมถึงมีบทบาทในการพัฒนาศาสตร์การแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือกให้มีคุณภาพและมาตรฐาน บูรณาการผสานภูมิปัญญาการแพทย์ตะวันออกและการแพทย์ตะวันตก ขับเคลื่อนเข้าสู่ระบบบริการสุขภาพไทยทั้งภาครัฐและเอกชน เพื่อดูแลสุขภาพของประชาชน อีกทั้งยังมีการประสานความร่วมมือด้านการแพทย์แผนจีนซึ่งเป็นหนึ่งในการแพทย์ทางเลือกกับสาธารณรัฐประชาชนจีน ทั้งในด้านการแลกเปลี่ยนทางวิชาการ เทคโนโลยี การวิจัย และการพัฒนาบุคลากรระหว่างประเทศ
ซึ่งการร่วมงานในครั้งนี้ เป็นโอกาสที่ดีในการร่วมกันส่งเสริมการใช้ศาสตร์การแพทย์แผนไทยในการดูแลสุขภาพของประชาชนที่ยั่งยืน ส่งเสริม สนับสนุนให้มีการจัดบริการการแพทย์แผนไทยในโรงพยาบาลของสาธารณรัฐประชาชนจีนเป็นครั้งแรก ผ่านการสร้างเครือข่ายและความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการค้าระหว่างประเทศ เพื่อเพิ่มการเข้าถึงบริการแพทย์แผนไทยและสมุนไพรไทย รวมถึงการแสวงหาโอกาสและช่องทางใหม่ ๆ ในการส่งออกผลิตภัณฑ์และบริการทางการแพทย์แผนไทยไปยังตลาดโลก ในอันที่จะช่วยเสริมสร้างเศรษฐกิจของประเทศให้มีความเข้มแข็งและก้าวหน้ายิ่งขึ้น ต่อไป