Page 161 - J Trad Med 21-1-2566
P. 161

J Thai Trad Alt Med                                    Vol. 21  No. 1  Jan-Apr  2023  141




            หรือ มะเร็งคุดราด เป็นลักษณะของโรคที่แสดงออก  สกัดตัวยาให้เข้มข้นรูปแบบหนึ่งในการบริหารยา
            มาทางผิวหนัง ฟกบวมแตก มีแผลเปื่อยเน่ามีน�้า      จากต�ารับยาขนานต่าง ๆ ในการรักษาโรค

            หนองและโลหิตไหลออกมาซึ่งต่างจากความหมายของ   ผิวหนังทั้งจากจารึกและต�ารายาพื้นบ้าน มักปรากฏ
            “มะเร็ง’’ ในปัจจุบันที่หมายถึง  เนื้องอกชนิดร้าย เกิด  การใช้เครื่องยาสมุนไพรที่เรียกว่า  ก�ามะถัน (Sul-
            ขึ้นเพราะเซลล์แบ่งตัวอย่างรวดเร็ว ควบคุมไม่ได้ แล้ว  phur) หรือ ก�ามะถันเหลือง สุพรรณถัน ลางต�าราเรียก

            แทรกไปตามเนื้อเยื่อข้างเคียง และสามารถหลุดจาก  มาด มาดเหลือง เป็นแร่ธาตุที่เกิดขึ้นในธรรมชาติ มีสี
            แหล่งเริ่มต้นไปแบ่งตัวเพิ่มจ�านวนที่บริเวณอื่น ๆ ได้    เหลืองนวล มีสรรพคุณรสเมา ฝืดคอ ขับลมในกระดูก
                         [10]
            รักษาไม่ค่อยหาย  ซึ่งค�าว่า “มะเร็ง’’ หรือ “บะเฮง’’   แก้น�้าเหลืองเสีย แก้ประดง ฆ่าพยาธิทั้งภายนอกและ
            ในต�ารายาล้านนาหมายถึงโรคผิวหนังไม่ร้ายแรง มี  ภายใน แก้จุกเสียดในโรคป่วง แก้โรคผิวหนัง ผื่นคัน
                                                                                          [28]
            หลายชนิด เช่น มะเร็งไข่ปลา ลักษณะเป็นตุ่มใส    พุพอง ท�าเป็นยาขี้ผึ้งก�ามะถัน ใช้ทาแก้หิด  และ
            เม็ดเล็ก ๆ คล้ายไข่ปลา ขึ้นเป็นผื่นมีอาการคัน ถ้าเก่า  ปรากฏในต�ารับยาพื้นบ้านหลายขนานด้วยกัน ใช้

            จะตุ่มแตก มีน�้าเหลืองออกมา จะรู้สึกทั้งแสบและคัน   เป็นส่วนประกอบทั้งยากินและยาทา เช่น ยาต้มแก้
            หากเป็นที่บริเวณอื่น ๆ จะไม่อันตรายแต่ถ้าเป็นที่คอ  คุดทะราด ท่านให้เอา ข้าวเย็นทั้ง 2 ขันทองพยาบาท

            ปล่อยให้ลุกลามรอบล�าคอ ก็อาจถึงตายได้ [26]  ซังข้าวโพด ก�ามะถันเหลือง สิ่งละ 2 ต�าลึง 2 บาท ใส่
                 การรักษา ในคัมภีร์สรรพคุณยา ใช้สมุนไพร 2   หม้อต้มรับประทานครั้งละ 1 ถ้วยช้า  ก่อนอาหารเช้า
            ชนิด คือดองดึง และ ข้าวเย็นโคกข้าว มีสรรพคุณใน  เย็นแก้ คุดทะราด กลาก เกลื้อน มะเร็งผิวหนัง หิดด้าน

                                                                         [29]
            การรักษาโรคผิวหนัง เป็นส่วนประกอบในการรักษา   หิดเปื่อย หายดีนักแล  และต�ารับยาทา เช่น ยาแก้
            ระบุว่า “...ดองดึงนั้นแก้โรคเรื้อน มะเรง แลคชราชแล  โรคผิวหนัง ท่านให้เอาก�ามะถัน น�้าประสานทองสะตุ

            บาดแผล...และยาข้าวเย็นโคกขาว ดอก ใช้แก้มะเรง  สีเสียดอย่างละ 4 กรัม น�้ามันขี้ผึ้งขาว 30 กรัม บด
                       [17]
            แลคชราช...’’  ส่วนในต�ารายาพื้นบ้านล้านนา ได้  ผสมเข้าด้วยกันใช้ความร้อนอุ่น ๆ ใส่แก้หิดแก้แผล
            บอกถึงต�ารับยา ความว่า “ซะมะเร็ง พาก 1 เป็นยา  เปื่อยต่าง ๆ ดีนักแล  ซึ่งก�ามะถันถือว่าเป็นเครื่อง
                                                                        [29]
            ซะมะเรง จับร้อนไหม้นัก หือเอารากผักก้นเถิง ราก  ยาส�าคัญในการประกอบการรักษาโรคผิวหนังตั้งแต่
            ปอบ้าน รากผักหวานบ้าน หัวถั่วพลู น�้าข้าวเจ้าฝนขุ้น   อดีตจนปัจจุบันก็ยังปรากฏการใช้อยู่ในรูปแบบขี้ผึ้ง
            ทา หายแท้แล ฝีฟกฝีสานออกยัง’’  จากลักษณะ    ชนิดต่าง ๆ เช่น ขี้ผึ้งก�ามะถัน รักษาหิด ในสูตรต�ารับ
                                        [27]
            ต�ารายายังกล่าว “มะเร็ง’’ เป็นโรคผิวหนังชนิดหนึ่ง   ประกอบด้วยตัวยาส�าคัญ คือ Sublimed Sulphur
            ท�าให้ผิวหนังมีความร้อนมีลักษณะคล้ายฝี และเป็น   10%w/w [30]
            แผลเปื่อยเน่า ต�ารับยารักษาดังที่ปรากฏในจารึกวัด        1.5  ล�าโหด ค�าว่า “ล�าโหด’’ หรือ “ล�าโหก’’

            ราชโอรสาราม และในคัมภีร์ปฐมจินดา จึงเป็นต�ารับ  พบในจารึกแผ่นที่ 19 แผนปลิงหงาย ในจารึกต�ารายา
            ยาทาหุงด้วยน�้ามัน และหากเป็นยารับประทานจะ  วัดราชโอรสาราม เป็นการเรียกบริเวณจุดต�าแหน่งที่

            เป็นยาที่มีความเข้มข้นสูงดังจากต�ารับยาในจารึกวัด   เกิดพยาธิสภาพของโรค ค�าว่า “แก้ลมล�าโฮก 9 ตัว’’
            ราชโอรสารามที่ใช้ส่วนประกอบของตัวยาต้องใช้วิธีน�า  ซึ่งมีต�าแหน่งที่ตรงกันกับคัมภีร์แผนนวด (แผนปลิง)
            ไปท�าเป็นยาดองเหล้า และใช้วิธีต้ม 3 เอา 1 ซึ่งเป็นการ  ในต�าราเวชศาสตร์ฉบับหลวงสมัยรัชกาลที่ 5 เรียกว่า
   156   157   158   159   160   161   162   163   164   165   166