Page 164 - J Trad Med 21-1-2566
P. 164

144 วารสารการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ ทางเลือก       ปีที่ 21  ฉบับที่ 1  มกราคม-เมษายน 2566




           ที่ว่า “สิทธิการิยะ พระอาจารย์เจ้า ท่านกล่าวถึงต้อทั้ง  ระหว่างชนชั้นปกครอง ซึ่งสอดคล้องกับประวัติศาสตร์
           ปวงให้จักษุมืด ฟาง แฉะ เปียก มัว หมอก ดังมีราย  น�าศาสนาพุทธนิกายลังกาวงศ์เก่าเข้าสู่ล้านนา ของพระ

           ชื่อของต้อดังนี้ ต้อเนื้อ ต้อสายโลหิต ต้อแดงด้วงใหญ่    มหาสุมนเถระตามค�าทูลขอของพระเจ้ากือนากษัตริย์
           ต้อดำา ต้อกระจก...’’ [23]                   แห่งอาณาจักรล้านนาในปีพุทธศักราช 1912 ท�าให้
                อย่างไรก็ดี กลุ่มโรคที่ปรากฏในจารึกค�า  ศิลปวิทยาการและตัวอักษรในสมัยสุโขทัยได้แพร่ไป

           อธิษฐาน ทั้ง 3 กลุ่มโรค เป็นกลุ่มโรคที่ก่อให้เกิด  ยังอาณาจักรล้านนาดังปรากฏหลักฐานในจารึกหลัก
           ความทุกข์ทรมาน ซึ่งส่วนมากเป็นกลุ่มโรคผิวหนัง   ที่ 62 จารึกวัดพระยืน พุทธศักราช 1913 [33]
           ทางการแพทย์แผนไทยโรคและอาการเจ็บป่วยที่แสดง     ด้วยเหตุนี้ จารึกค�าอธิษฐานจึงถือเป็นจารึกที่

           พยาธิสภาพที่ผิวหนัง มีลักษณะของโรคและอาการ  ปรากฏชื่อโรคที่เก่าที่สุดของไทย และมีเนื้อหาบางส่วน
           เกิดที่รุนแรง ซับซ้อนแตกต่างกันไปตามสาเหตุของ  ของค�าอธิษฐานเกี่ยวกับอาการเจ็บป่วยซึ่งเป็นโรคร้าย
           การเกิดโรค จึงท�าให้อาการที่แสดงออกทางผิวหนังมี  แรงที่ไม่พึงปรารถนา ดังปรากฏในวรรณกรรมไตรภูมิ

           ลักษณะที่แตกต่างกันในแต่ละรูปแบบ และระยะการ  กถา กล่าวถึงโรคที่ไม่พบเจอในชาวอุตกกุรุทวีปเลย
           เกิดโรค เพราะผิวหนังสามารถมองเห็นได้ชัดเจนเมื่อ  เพราะคนในอุตกกุรุทวีป เป็นคนมีบุญมีวาสนามาก

           มีลักษณะผิดปกติ ส่วนกลุ่มโรคกล้ามเนื้อและกระดูก  แสดงถึงวัฒนธรรมความเชื่อเกี่ยวกับวิถีชีวิตหรือ
           และดวงตาและการมองเห็นนั้น เป็นกลุ่มโรคที่แสดง  ชีวทัศน์ของสังคมไทยสมัยสุโขทัย กล่าวคือการมอง
           ถึงความผิดปกติของอวัยวะในร่างกาย และชื่อโรค  ว่าการโอยทานเป็นความสุขในการด�าเนินวิถีชีวิต และ

           และอาการที่ปรากฏเป็นชื่อสมมุติเรียกของโรคเพื่อใช้  การมีโรคภัยต่าง ๆ เป็นความทุกข์ของการด�าเนิน
           เป็นการแบ่งแยกและจ�าแนกลักษณะโรคและอาการที่  ชีวิต เมื่อพบว่าโรคภัยต่าง ๆ ที่พบเห็นในปัจจุบันเป็น

                                                               [34]
           ปรากฏเพื่อง่ายต่อการดูแลรักษาและเป็นที่รับรู้เข้าใจ  ทุกขภาวะ  การท�าดีท�าบุญจะท�าให้ปราศจากการ
           ของผู้คนในสังคม                             เป็นโรคร้าย และคติการรับรู้เกี่ยวกับโรคร้ายต่าง ๆ
                                                       เหล่านี้ ปรากฏพบอยู่ในหมู่คนไทยทั้งในสุโขทัย ล้าน
                         อภิปร�ยผล                     นา และล้านช้าง แสดงถึงความสัมพันธ์ของผู้คนและ

                จารึกค�าอธิษฐาน ซึ่งเนื้อหาเป็นการอธิษฐานของ  การด�าเนินชีวิตของคนในสมัยโบราณที่ยังยึดมั่นใน
           สตรีชั้นสูงที่ปรากฏชื่อโรค ในสมัยนั้น ซึ่งศาสตราจารย์   การท�าความดี การปฏิบัติตนตามแนวทางพุทธศาสนา

           นิยดา เหล่าสุนทร ราชบัณฑิต  เสนอว่า “ไข้เจ็บเล็บ  และในคัมภีร์พระไตรปิฎกอรรถกถา และ คัมภีร์ลลิต
           เหนื่อยเมลื่อยห้านคร้านอิด เป็นหิดเป็นฝี’’ เป็นการ  วิสตระ ซึ่งเป็นคัมภีร์ทางพุทธศาสนา ยังปรากฏชื่อโรค
           ใช้ส�านวนภาษาในจารึกแสดงถึงการใช้ภาษาร้อยแก้ว  และอาการเหล่านี้อยู่ เช่น กลุ่มโรคที่เกี่ยวกับผิวหนัง

           ที่มีจังหวะและสัมผัส ซึ่งความเรียบง่ายเป็นลักษณะ  หรือโรคที่ติดเชื้อท�าให้มีตุ่มที่ผิวหนัง เช่น โรคกลาก
                                 [32]
           หนึ่งของภาษาในสมัยสุโขทัย  จารึกหลักนี้จึงแสดง  เกลื้อน โรคผิวหนัง โรคพุพอง โรคฝีดาษ โรคผดผื่น
                                                                [35]
           ถึงประจักษ์พยาน การใช้ตัวอักษรสุโขทัย ส�านวน  คัน โรคหิด  ซึ่งโรคเหล่านี้เป็นโรคที่เกิดขึ้นในสมัย
           ภาษาสุโขทัย ในล้านนา ผ่านทางอิทธิผลทางศาสนา  พุทธกาลหลายโรคหลายอาการยังคงเป็นปัญหาต่อ
           และวรรณกรรม ร่วมถึงการส่งสมณทูต หรือการสมรส  สุขภาพที่เกิดขึ้นของผู้คนในสมัยต่อ ๆ มา เป็นโรคเจ้า
   159   160   161   162   163   164   165   166   167   168   169