Page 113 - วารสารการแพทย์แผนไทย ปีที่ 20 ฉบับที่ 3 กันยายน-ธันวาคม 2565
P. 113

J Thai Trad Alt Med                                    Vol. 20  No. 3  Sep-Dec  2022  527




                 2.6 กำรทดสอบควำมสำมำรถในกำรก�ำจัด      ความเข้มข้น 0.3125, 0.625, 1.25, 2.5 และ 5% w/w
            อนุมูลอิสระ ABTS assay [2,2’-azino-bis-(3-  ปริมาตร 50 µL กับสารละลาย ABTS ปริมาตร 100

            ethyl-benzothiazoline-6-sulfonic acid)] เตรียม  µL ใน 96 well Plate ตั้งทิ้งไว้เป็นเวลา 15 นาที เพื่อ
            สารละลาย ABTS ผสมกับสารละลายโพแทสเซียม      ให้เกิดปฏิกิริยา วัดค่าการดูดกลืนแสงที่ 734 nm ด้วย
            เปอร์ซัลเฟต (K 2SO 4) ละลายในน�้ากลั่น แล้วตั้งทิ้งไว้  เครื่อง Microplate reader โดยใช้โทรลอกซ์ (Trolox)

            ที่อุณหภูมิห้องในที่มืดเป็นเวลา 12-16 ชั่วโมง ท�าการ  เป็นสารมาตรฐาน จากนั้นน�าค่าการดูดกลืนแสงที่
            ทดสอบสารตัวอย่าง โดยผสมยาต้มแก้ไข้ตัวร้อน   ได้มาค�านวนหาเปอร์เซ็นต์การยับยั้งอนุมูลอิสระ (%

                                                                          [15]
            ต�ารับหมอเมืองล้านนา น�ามาเจือจางด้วยน�้ากลั่นให้ได้  Radical Scavenging)  จากสมการ
                                       (Abscontrol – Abssample)
                 % inhibition ABTH   =                    5 100
                                  *+
                                          (Abscontrol)
                 โดย  Abscontrol คือค่าดูดกลืนแสงของ ABTH  ที่ไม่ได้ใส่ยาต้มแก้ไข้ตัวร้อนต�ารับหมอเมืองล้านนา
                                                     *+
                     Abssample คือค่าดูดกลืนแสงของ ABTH  ที่ใส่ยาต้มแก้ไข้ตัวร้อนต�ารับหมอเมืองล้านนา
                                                     *+



                 2.7 กำรวิเครำะห์ข้อมูลทำงสถิติ         ก�าหนดความเชื่อมั่น 95% ระดับนัยส�าคัญที่ p < 0.05
                 ในการทดสอบฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระและหา

            ปริมาณสารประกอบฟีนอลรวม ปริมาณฟลาโวนอยด์                  ผลก�รศึกษ�
            รวม และความคงตัวทางกายภาพของยาต้มแก้ไข้

            ต�ารับหมอเมืองล้านนาจะท�าการทดสอบ 3 ซ�้า น�าผลที่  1. ผลก�รทดสอบคว�มคงตัวของย�ต้มแก้ไข้
            ได้คิดค่าเฉลี่ยและหาค่าความคลาดเคลื่อนมาตรฐาน  ตำ�รับหมอเมืองล้�นน�

            ของการวัด (Standard Deviation: S.D.) โดยจะ       ผลการทดสอบความคงตัวของยาต้มแก้ไข้ต�ารับ
            แสดงผลเป็นค่าเฉลี่ยความเข้มข้นที่ให้ฤทธิ์ต้านอนุมูล  หมอเมืองล้านนาที่สภาวะอุณหภูมิ 4, 25 และ 40˚ซ.
            อิสระร้อยละ 50 (inhibition concentration; IC50)   ความชื้นสัมพัทธ์ร้อยละ 75%RH เป็นระยะเวลา 0-7

            และค่าเฉลี่ยของปริมาณสารประกอบฟีนอลิกรวม    วัน ดังนี้

            (mg GAE/g extract) และปริมาณฟลาโวนอยด์รวม        1) ค่าความเป็นกรด-ด่าง (pH) พบว่าที่อุณหภูมิ
            (mg QE/g extract) ตามล�าดับส่วน ศึกษาความแตก  4˚ซ. ค่า pH มีค่า 6.77-6.90 ที่อุณหภูมิ 25˚ซ. ค่า pH
            ต่างของฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ ปริมาณสารประกอบ   มีค่า 6.20-6.87 ในขณะที่อุณหภูมิ 40˚ซ. ค่า pH มีค่า

            ฟีนอลิกรวมและปริมาณฟลาโวนอยด์รวมและ         5.37-6.88 โดยพบว่าที่อุณหภูมิ 4˚ซ. ค่า pH คงที่มาก
            ลักษณะทางกายภาพ ในวันที่ 0-7 วิเคราะห์สถิติโดย  ที่สุด และที่อุณหภูมิ 40˚ซ. ค่า pH เปลี่ยนแปลงเป็น

            ใช้ one-way ANOVA และความคงตัวทางกายภาพ     กรดอ่อน ๆ มากที่สุด (ตารางที่ 1)
            ก่อนและหลังวิเคราะห์สถิติโดยใช้ paired t-test โดย
   108   109   110   111   112   113   114   115   116   117   118