Page 147 - วารสารกรมการแพทย์แผนไทยฯ ปีที่ 17 ฉบับที่ 3
P. 147

J Thai Trad Alt Med                                    Vol. 17  No. 3  Sep-Dec 2019  497




            ทุกอย่างจะถือเป็นความลับและนำามาใช้ในการวิจัย  ก่อนทดลองมีค่าเฉลี่ย 2.52 คะแนน (ปานกลาง) และ
            ครั้งนี้เท่านั้น การวิเคราะห์ข้อมูลทั่วไป วิเคราะห์ด้วย  หลังทดลองมีค่าคะแนนเฉลี่ย 3.38 คะแนน (ระดับสูง)

            สถิติเชิงพรรณนา (descriptive statistics) และใช้  (ตารางที่ 2)
            สถิติ paired t-test ในการวิเคราะห์เพื่อเปรียบเทียบ     คะแนนเฉลี่ยทักษะการแก้ปัญหารายข้อหลังได้
            คะแนนเฉลี่ยก่อนและหลังได้รับโปรแกรม และอธิบาย  รับโปรแกรมสูงกว่าก่อนได้รับโปรแกรมทุกข้อโดยราย

            วิธีการนำาภูมิปัญญาไปใช้ในการแก้ปัญหาสุขภาพ  ข้อที่มีคะแนนสูงที่สุดสามอันดันอับแรก คือ รับฟัง
            ชุมชนโดยใช้การบรรยายเนื้อหา                 ความคิดเห็นของประชาชนรู้จักวิธีค้นหาภูมิปัญญาที่
                                                        ชาวบ้านใช้ในการแก้ปัญหาสุขภาพ เลือกใช้ภูมิปัญญา
                          ผลก�รศึกษ�                    ท้องถิ่นในการแก้ปัญหาสุขภาพได้สอดคล้องกับวิถี

                 การศึกษาในครั้งนี้ มีกลุ่มตัวอย่างเป็นนักศึกษา  ชีวิต และส่งเสริมให้บุคคล กลุ่มคนหรือชุมชนให้มี
            พยาบาลศาสตรบัณฑิต ชั้นปี 4 จำานวน 56 คน เพศ  ส่วนร่วมในการแก้ปัญหาสุขภาพชุมชนเช่น อสม. และ

            หญิง จำานวน 53 คน และเพศชาย จำานวน 3 คน หลัง  ผู้นำาชุมชน เป็นต้น (3.60, 3.46, 3.46 และ 3.44 ตาม
            จากได้รับโปรแกรมการจัดการเรียนแบบโครงงาน    ลำาดับ) ข้อที่ได้คะแนนน้อยที่สุด คือ สืบค้นวิธีการแก้

            เป็นฐานต่อทักษะการแก้ปัญหาและการประยุกต์    ปัญหาสุขภาพจากรายงานวิจัยและแนวปฏิบัติ การ
            ภูมิปัญญาไปใช้ดูแลผู้ป่วยโรคเรื้อรังในชุมชน พบว่า   ค้นหาปัญหาสุขภาพของชุมชน และประเมินคุณภาพ
            ในระยะที่ 1 นักศึกษาได้เครื่องมือภูมิปัญญาท้องถิ่น  ของข้อมูลโดยใช้เหตุผล (3.23, 3.26 และ 3.32 ตาม

            จากการฝึกการสืบค้นและวิเคราะห์ข้อมูล ดังนี้ (1)   ลำาดับ) (ตารางที่ 3)
            สวดมนต์นับลูกประคำา (2) เหยียบรางไม้ไผ่และนวด     คะแนนเฉลี่ยทักษะการแก้ปัญหารายข้อหลัง

            กะลา (3) รำาไม้พลอง (4) ฤาษีดัดตน (5) ลูกประคบ  ได้รับโปรแกรมสูงกว่าก่อนได้รับโปรแกรมทุกข้อ
            สมุนไพร และ (6) การใช้ยางยืด ในระยะที่ 2 ภาย  โดยรายข้อที่มีคะแนนสูงที่สุดสามอันดันอับแรก
            หลังนำาข้อค้นพบซึ่งเป็นภูมิปัญญาท้องถิ่นไปประยุกต์  คือ รับฟังความคิดเห็นของประชาชนรู้จักวิธีค้นหา

            ใช้บริการสุขภาพเพื่อสังคมในการฝึกภาคปฏิบัติใน  ภูมิปัญญาที่ชาวบ้านใช้ในการแก้ปัญหาสุขภาพ เลือก
            ชุมชน พบว่า นักศึกษามีค่าคะแนนเฉลี่ยของทักษะ  ใช้ภูมิปัญญาท้องถิ่นในการแก้ปัญหาสุขภาพได้
            การแก้ปัญหาหลังได้โปรแกรมสูงกว่าก่อนได้รับ  สอดคล้องกับวิถีชีวิต และส่งเสริมให้บุคคล กลุ่มคน

            โปรแกรมอย่างมีนัยสำาคัญทางสถิติ (p < 0.01) โดย  หรือชุมชนให้มีส่วนร่วมในการแก้ปัญหาสุขภาพชุมชน


            ตารางที่ 2 การเปรียบเทียบความแตกต่างของคะแนนทักษะการแก้ปัญหาของนักศึกษาก่อนและหลังการได้รับโปรแกรมฯ

                                       ทักษะการแก้ปัญหา
                                                                      df         t          p
                                    Mean              SD.

             ก่อนทดลอง               2.52             0.47           55        13.29      0.001
             หลังทดลอง               3.38             0.34

            p < 0.01
   142   143   144   145   146   147   148   149   150   151   152