Page 144 - journal-14-proceeding
P. 144

บทคัดยอประกวดผลงานวิชาการประจําปการแพทยแผนไทย การแพทยพื้นบาน และการแพทยทางเลือกแหงชาติ ครั้งที่ 14


                                   PP60G0037 ฤทธิ์ตานอนุมูลอิสระและฤทธิ์ยับยั้งเอนไซมไทโรซิเนสของสารสกัด

                                   จากเงาะพันธุสีชมพูในหลอดทดลอง


                                                                                               1
                                                          1
                                                                          1
                                            1
                            1
               รัตติกาล รักแกว , วรัญู สิริศาสตรกุล , ชุมศิลป วงษนิกร , ธนากร ถาวรอภิชาติ , สุฑามาศ กาณจนวงศวณิช ,
                          1
               รัตติญา บุญใบ , กรวินทวิชญ บุญพิสุทธินันท 1
               1 วิทยาลัยการแพทยแผนไทย มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี

               หลักการและเหตุผล ในปจจุบันเครื่องสําอางเปนสิ่งหนึ่งที่มีความจําเปน เพราะในปจจุบันผูคนสวนมากให
               ความสําคัญกับเรื่องความสวยความงาม เนื่องจากคนในปจจุบันหันมาสนใจผลิตภัณฑเครื่องสําอางที่มีสวนผสม
               ของธรรมชาติมากขึ้น ซึ่งโดยสวนมากมักจะทําการศึกษาฤทธิ์ตานออกซิเดชันและยับยั้งเอนไซมไทโรซิเนสเพื่อ
               ประเมินถึงความเปนไปไดของสารสกัดที่มาจากธรรมชาติเพื่อพัฒนาไปเปนผลิตภัณฑเครื่องสําอางเพื่อผิวขาว
               และชะลอวัย เงาะสีชมพูเปนพันธุเงาะที่หาไดยากเปนพืชใกลสูญพันธและพบไดที่จังหวัดจันทบุรีเทานั้น

               เนื่องจากไมเปนที่นิยมรับประทานและไมมีชาวสวนปลูกเพราะมีราคาต่ํา นอกจากนี้ยังไมมีงานวิจัยดานฤทธิ์
               ทางชีวภาพที่เกี่ยวของกับเครื่องสําอางมากอน ดังนั้นทางคณะผูวิจัยจึงจัดทําโครงงานวิจัยนี้เพื่อหาฤทธิ์ตาน
               อนุมูลอิสระและฤทธิ์ยับยั้งเอนไซมไทโรซิเนสของสารสกัดจากเงาะสีชมพูเพื่อประเมินความเปนไปไดที่จะนํา

               สารสกัดจากเงาะสีชมพูมาใชเปนวัตถุดิบทางเครื่องสําอาง

               วัตถุประสงค เพื่อศึกษาฤทธิ์ตานอนุมูลอิสระและฤทธิ์ยับยั้งเอนไซมไทโรซิเนสของสารสกัดจากเงาะสีชมพู
               สําหรับประยุกตใชเปนวัตถุดิบทางเครื่องสําอาง


               วิธีดําเนินการ ในงานวิจัยนี้เริ่มตนไดทําการเตรียมและสกัดสวนตางๆของเงาะพันธสีชมพู ดวยวิธีการ Soxhlet
               extraction กับเอทิลแอลกอฮอล วิธีการ Maceration กับเอทิลแอลกอฮอล และวิธีการดวยวิธีการตมดวยน้ํา
               กลั่น จากนั้นนําสารสกัดที่ไดมาทดสอบฤทธิ์ตานอนุมูลอิสระหรือฤทธิ์ตานปฏิกิริยาออกซิเดชันดวยวิธี DPPH

               (1,1-diphenyl-2-picrylhydrazyl) และฤทธิ์ตานเอนไซมไทโรซิเนสดวยวิธี Modified dopachrome จากนั้น
               นํามาคํานวณคารอยละของการตานมูลอิสระและการยับยั้งเอนไซมไทโรซิเนส

               ผลการศึกษา จากการศึกษาพบวาสารสกัดจากเงาะพันธุสีชมพูทั้งหมดมีฤทธิ์ตานอนุมูลอิสระ (SC ) จาก
                                                                                                   50
               เปลือกผลแกของเงาะพันธุสีชมพู โดยใหฤทธิ์สูงที่สุด (SC  เทากับ 0.006 ± 0.00 mg/ml) ซึ่งมากกวาสาร
                                                              50
               มาตรฐาน L-ascorbic acid ประมาณ 5 เทา (p< 0.05) ในขณะที่สารสกัดจากการใช Soxhlet จากเปลือกผล
               ออนของเงาะพันธุสีชมพูใหฤทธิ์ยับยั้งเอนไซมไทโรซิเนสสูงที่สุด (IC   เทากับ 0.04  ±  0.02  mg/ml.)  ซึ่ง
                                                                       50
               เทียบเทาสารมาตรฐานกรดโคจิก (p< 0.05) และนําสารสกัดจากเงาะพันธุสีชมพูที่ไดมาพัฒนาเปนผลิตภัณฑ
               เครื่องสําอาง

               ขอสรุป จากการศึกษาพบวาสารสกัดของเปลือกเงาะมีฤทธิ์ตานสารอนุมูลอิสระและมีฤทธิ์ตานเอมไซม
               ไทโรซิเนส ซึ่งสามารถนําไปตอยอดเปนวัตถุดิบสําหรับผลิตภัณฑเครื่องสําอางได ทั้งนี้เปนการอนุรักษเงาะพันธุ

               สีชมพู เปนการเพิ่มมูลคาและเพิ่มชองทางรายไดใหกับชาวสวนที่ปลูกเงาะพันธุสีชมพู





                                                         142
   139   140   141   142   143   144   145   146   147   148   149