Page 209 - Acrobat J Trad-21-3-2566
P. 209

692 วารสารการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ ทางเลือก       ปีที่ 21  ฉบับที่ 3  กันยายน-ธันวาคม 2566




           ได้แก่                                      สกัด ไม่ใช้อุณหภูมิสูง ช่วยป้องกันการสลายตัวของ
                    (1)  การสกัดด้วยตัวท�าละลาย (solvent   สารที่ไม่ทนต่อความร้อน การแช่สกัดเป็นวิธีที่ง่ายที่สุด

           extraction) น�าตัวท�าละลายอินทรีย์เติมลงไปใน  แต่ใช้เวลานาน และสิ้นเปลืองตัวท�าละลาย [4]
           ตัวอย่างสมุนไพร สารจากสมุนไพรจะละลายออกมา           (2)  การชง (infusion) เหมาะส�าหรับชิ้น
           อยู่ในตัวท�าละลาย การสกัดด้วยวิธีนี้จะใช้ความร้อน  ส่วนสมุนไพรที่ไม่แข็งมาก เช่น กลีบดอก ดอก ใบ โดย

           ช่วยหรือไม่ก็ได้                            แช่สมุนไพรในตัวท�าละลายซึ่งมักจะเป็นน�้า ตั้งบนอ่าง
                    (2)  การสกัดโดยไม่ใช้ตัวท�าละลาย (non-  น�้าร้อนเป็นเวลา 15 นาที (แช่สมุนไพรในน�้าร้อน) และ
           solvent extraction) เช่น การบีบ ซึ่งอาจใช้ความร้อน  ตั้งไว้ให้อุณหภูมิเย็นลงเท่าอุณหภูมิห้อง ประสิทธิภาพ

           ช่วยได้เช่นกัน                              ในการสกัดขึ้นกับชนิดของตัวท�าละลายที่ใช้ ระยะเวลา
                2.3   แบ่งตามวัฏภาคที่ใช้สกัด ได้แก่   อุณหภูมิที่ใช้สกัด และเนื้อเยื่อสมุนไพร [5]
                       (1)  การสกัดด้วยของเหลว (liquid-liquid          (3)  การต้ม (decoction) โดยเติมน�้าลง

           extraction)                                 ในสมุนไพร แล้วน�าไปตั้งบนอ่างน�้าร้อนอุณหภูมิ
                       (2)  การสกัดด้วยตัวดูดซับของแข็ง (solid   65-70˚ซ หรือจนตัวท�าละลายเดือด นาน 30 นาที-2

           phase extraction)                           ชั่วโมง แล้วกรองแยกเอาเฉพาะสารละลายส่วนใส
                                                       ไปใช้ เมื่อเปรียบเทียบกับการแช่สกัดแล้ว การต้มจะ
           3. วิธีก�รสกัดส�รจ�กสมุนไพร                 มีความร้อนช่วยเพิ่มการละลายของสารส�าคัญบาง

                บทความนี้ขอจ�าแนกวิธีการสกัดสารจาก     ประเภทจากสมุนไพร นอกจากนี้ความร้อนยังยับยั้ง
           สมุนไพร ออกเป็น 3 กลุ่ม ได้แก่ วิธีสกัดแบบดั้งเดิม   การท�างานของเอนไซม์กลูคิวโรนิเดส (glucuroni-

           (conventional method) วิธีสกัดแบบสมัยใหม่ (in-  dase) จึงมีส่วนช่วยป้องกันการสลายตัวของสารกลุ่ม
                                                                              [5]
           novative method) และวิธีสกัดเพื่อเตรียมตัวอย่าง  กลัยโคซัยด์ไปเป็นอะกลัยโคน  วิธีสกัดนี้เหมาะกับ
           วิเคราะห์ (sample preparation)              สารที่ทนต่ออุณหภูมิสูง ส่วนสารกลุ่มที่ไม่เหมาะกับ

                3.1   วิธีการสกัดแบบดั้งเดิม           วิธีนี้ ได้แก่ สารที่ไวหรือสลายตัวเมื่อถูกความร้อน
                    (1)  การแช่สกัด (maceration) โดยเติมตัว  น�้ามันระเหยง่าย และวิธีนี้ยังมีข้อจ�ากัดคือจะได้สารที่
           ท�าละลายให้ท่วมสมุนไพรในภาชนะปิดเพื่อป้องกันไม่  ไม่ต้องการหรือสารเจือปนออกมาในปริมาณมากด้วย

           ให้ตัวท�าละลายระเหย คนเป็นระยะ ๆ มักจะตั้งภาชนะ         (4)  เปอร์โคเลชัน (percolation) ประกอบ
           แช่สกัดไว้ที่อุณหภูมิห้อง ที่ความดันบรรยากาศ ใช้  ด้วย 3 ขั้นตอนหลัก ได้แก่ ท�าให้เปียก (wet) แช่
           ระยะเวลาในการสกัด 3-7 วัน จากนั้นเทของเหลวที่  (soak) และปล่อยให้ไหลซึมผ่าน (percolate) โดย

           ได้จากการสกัดออกมา น�าไปกรองเพื่อก�าจัดชิ้นส่วน  การท�าให้ผงสมุนไพรเปียกด้วยตัวท�าละลาย ซึ่งจะ
           สมุนไพรที่ปนมา ส่วนกากสมุนไพรให้น�าไปบีบเอา  ท�าให้เนื้อเยื่อสมุนไพรเกิดการพองตัว จากนั้นน�าไป

                               [3]
           ของเหลวออกให้มากที่สุด  โดยทั่วไปนิยมแช่สกัด  บรรจุในเปอร์โคเลเตอร์ (percolator) แล้วเทตัวท�า
           ครั้งละ 2-3 วัน ที่อุณหภูมิห้อง (20-25˚ซ) และสกัด  ละลายให้ท่วมสมุนไพร ตั้งไว้นาน 24-48 ชั่วโมง จึง
           กากซ�้า สามารถใช้น�้าหรือตัวท�าละลายอินทรีย์เป็นตัว  ไขสารละลายที่สกัดได้ออกจากเปอร์โคเลเตอร์ ซึ่งจะ
   204   205   206   207   208   209   210   211   212   213   214