Page 70 - วารสารการแพทย์แผนไทย ปีที่ 21 ฉบับที่ 2
P. 70

286 วารสารการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ ทางเลือก      ปีที่ 21  ฉบับที่ 2  พฤษภาคม-สิงหาคม 2566




                กำรวิเครำะห์ข้อมูล                     ข้อมูลพื้นฐ�น
                การวิเคราะห์ข้อมูลทั่วไปของกลุ่มตัวอย่างใช้     ผู้เข้าร่วมวิจัยกลุ่มทดลองและกลุ่มควบคุม

           สถิติเชิงพรรณนา โดยวิธีแจกแจงความถี่และร้อย  มีอายุเฉลี่ย 58.03 ± 9.09 และ 52.15 ± 7.49 ปี ตาม
           ละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และใช้สถิติเชิง  ล�าดับ ส่วนใหญ่เป็นเพศชายร้อยละ 78.12 และ 84.62
           อนุมานเพื่อเปรียบเทียบผลการรักษาระหว่างกลุ่ม   ตามล�าดับ ดัชนีมวลกายที่ 22.07 ± 4.27 และ 22.57

           เช่น t-test, Chi-square test หรือ Fisher’s exact   ± 2.81 กก./ตร.ม. ส่วนใหญ่ไม่มีประวัติการเป็นโรค
           test, Generalized Estimating Equations (GEE)   ตับร้อยละ 56.25 และ 76.92 ตามล�าดับ ผู้เข้าร่วมวิจัย
           หรือ Multi-level model (Mixed model) ส่วน   กลุ่มทดลองและกลุ่มควบคุมส่วนใหญ่มีประวัติการ

           การวิเคราะห์ Median survival time ระหว่างกลุ่ม  ดื่มแอลกอฮอล์ ร้อยละ 81.25 และ 69.23 ตามล�าดับ
           ทดลองที่ได้รับสารสกัดต�ารับยาเบญจอ�ามฤตย์รูป  เมื่อเปรียบเทียบข้อมูลทั่วไป สัญญาณชีพ และผล
           แบบแคปซูลและกลุ่มควบคุมที่ได้รับยาหลอก ใช้การ  ทางห้องปฏิบัติการของผู้เข้าร่วมวิจัยทั้งสองกลุ่ม พบ

           วิเคราะห์ระยะปลอดเหตุการณ์ (survival analysis)   ว่า ไม่มีความแตกต่างกันอย่างมีนัยส�าคัญทางสถิติ
           และ Kaplan-Meier method และใช้สถิติ log-rank   (p-value > 0.05) (Table 2)

           test ในการเปรียบเทียบความแตกต่างของอัตราการ     ลักษณะทางคลินิกพื้นฐานที่เกี่ยวข้องกับโรค
           รอดชีวิตในผู้ป่วยโรคมะเร็งทั้ง 2 กลุ่ม และใช้สถิติ   มะเร็งตับระหว่างกลุ่มทดลองและกลุ่มควบคุม เมื่อ
           Cox proportional hazard model เพื่อหาโอกาสของ  จ�าแนกตามอาการแสดงส�าคัญ สภาวะของผู้ป่วย

           การรอดชีวิตของกลุ่มทดลองเทียบกับกลุ่มควบคุม   [Eastern Cooperative Oncology Group (ECOG)
           โดยน�าเสนอค่า hazard ratio (HR) และช่วงเชื่อมั่น  score] ขนาดเนื้องอกตาม RECIST Criteria และ

           ที่ 95% โดยก�าหนดระดับนัยส�าคัญที่ p-value < 0.05   การเปลี่ยนแปลงของระดับ AFP พบว่า ส่วนใหญ่มี
           วิเคราะห์ข้อมูลแบบ intention to treat การวิเคราะห์  อาการท้องอืดร้อยละ 56.25 และ 61.54 ตามล�าดับ
           ข้อมูลทั้งหมดใช้โปรแกรม STATA version 14.0   มีระดับ VAS ที่ 2.59 ± 2.78 และ 2.23 ± 0.55 ตาม

                                                       ล�าดับ ขนาดเนื้องอก ส่วนใหญ่มีขนาดใหญ่มากกว่า
                         ผลก�รศึกษ�                    หรือเท่ากับ 5 ซม. ร้อยละ 50.00 และ 76.92 ตามล�าดับ

                การศึกษาครั้งนี้มีผู้ป่วยโรคมะเร็งเซลล์ตับที่  สารบ่งชี้มะเร็ง ทั้งสองกลุ่มมีระดับ AFP มากกว่า

           ร่วมโครงการ ทั้งหมด 81 ราย ถูกสุ่มแบ่งออกเป็นสอง  หรือเท่ากับ 400 ร้อยละ 46.88 และ 38.46 ตามล�าดับ
           กลุ่ม คือ กลุ่มทดลองที่ได้รับแคปซูลสารสกัดต�ารับยา  สภาวะของผู้ป่วย (ECOG score) กลุ่มทดลองส่วน
           เบญจอ�ามฤตย์ จ�านวน 54 ราย กลุ่มควบคุมที่ได้รับ  ใหญ่อยู่ในระดับ 1 (ผู้ป่วยปฏิบัติกิจกรรมได้ตาม

           ยาหลอก จ�านวน 27 ราย เมื่อสิ้นสุดการศึกษามีผู้ป่วย  ปกติ มีอาการแสดงของโรคเล็กน้อย) ร้อยละ 56.25
           โรคมะเร็งเซลล์ตับที่สามารถติดตามผลการรักษาได้  กลุ่มควบคุมส่วนใหญ่อยู่ในระดับ 0 (ผู้ป่วยสามารถ

           จ�านวนทั้งสิ้น 45 ราย โดยอยู่ในกลุ่มทดลอง จ�านวน   ปฏิบัติงานได้ตามปกติ ไม่มีอาการของโรค) ร้อยละ
           32 รายและกลุ่มควบคุม จ�านวน 13 ราย          69.23 เมื่อเปรียบเทียบลักษณะทางคลินิกพื้นฐานที่
                                                       เกี่ยวข้องกับโรคมะเร็งตับของผู้เข้าร่วมวิจัยทั้งสอง
   65   66   67   68   69   70   71   72   73   74   75