Page 112 - J Trad Med 21-1-2566
P. 112
92 วารสารการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ ทางเลือก ปีที่ 21 ฉบับที่ 1 มกราคม-เมษายน 2566
ของหน่วยงานไม่ว่าจะเป็นระดับจังหวัดและระดับ อีกทั้งขาดการติดตามหรือเยี่ยมบ้าน หลังการศึกษา
โรงพยาบาลที่เห็นด้วยและสนับสนุนการด�าเนินตาม พบว่า รูปแบบการดูแลรักษาผู้ป่วยมะเร็งระยะสุดท้าย
นโยบายดังกล่าว แต่พบว่าการด�าเนินการดูแลรักษาผู้ แบบประคับประคองด้วยการแพทย์แผนไทยและ
ป่วยมะเร็งระยะสุดท้ายด้วยการแพทย์แผนไทยถึงแม้ สมุนไพร โรงพยาบาลการแพทย์แผนไทย ประกอบ
มีนโยบาย แต่ก็ต้องใช้อ�านาจ ค�าสั่งจากผู้บังคับบัญชา ด้วยกระบวนการดูแล 5 ระยะ (ตารางที่ 1)
อาศัยระยะเวลา และงบประมาณเป็นจ�านวนมากเพื่อ
เห็นผลส�าเร็จการด�าเนินงาน ระยะที่ 3 การน�ารูปแบบไปทดลองใช้
“การที่มีนโยบายให้รับดูแลรักษาผู้ป่วย จากการน�ารูปแบบไปทดลองใช้ ทีมสหวิชาชีพ
มะเร็งจากกรมการแพทย์แผนไทยฯ นั้นดีมาก’’ ได้มองเห็นผลด้านบวก คือ เกิดการท�างานร่วมกัน
(ผู้ให้บริการ) ระหว่างแพทย์แผนไทยและทีมสหวิชาชีพอื่น ๆ และ
“ขึ้นอยู่กับนโยบายของผู้มีอ�านาจในการสั่ง มีความพยายามจะสื่อสารให้เข้าใจตรงกันมีแนวทาง
การ และการสั่งการด�าเนินงานจะเดินไปได้ คือ บาง ปฏิบัติที่ชัดเจนขึ้นและท�าให้การดูแลรักษาผู้ป่วยเป็น
เรื่องก็ต้องออกเป็นนโยบายที่มีตัวชี้วัด’’ (ผู้ให้บริการ) ไปในรูปแบบเดียวกัน มีการแลกเปลี่ยนข้อมูลการ
“การกรมแพทย์แผนไทยฯ มีนโยบายที่ให้ ดูแลรักษาระหว่างแพทย์แผนไทยและทีมสหวิชาชีพ
รักษาผู้ป่วยมะเร็งด้วยยาสมุนไพร มันดีมาก ก่อนมา และมีการให้ข้อมูลแก่ผู้ป่วยและผู้ดูแลได้ชัดเจนมาก
ที่นี้ไปมาหมดแล้ว ไปทุกที่ เห็นแม่ปวดทนดูไม่ได้’’ ขึ้น รวมทั้งมีการวางแผน
(ผู้ดูแลหลัก) การดูแลรักษาล่วงหน้า ส่งผลให้คุณภาพการ
ดูแลผู้ป่วยเพิ่มขึ้น ผู้ป่วยและทีมผู้ให้บริการมีความ
ระยะที่ 2 พัฒนารูปแบบการดูแลผู้ป่วยมะเร็ง พึงพอใจ รายละเอียด ดังนี้
ระยะสุดท้ายด้วยการแพทย์แผนไทยและสมุนไพร 1. ด้านผู้ให้บริการ กลุ่มตัวอย่างประกอบ
ผลการศึกษา พบว่า รูปแบบการให้บริการ ด้วยผู้ปฏิบัติงานจาก 4 วิชาชีพ จ�านวน 55 คน เป็น
ผู้ป่วยมะเร็งระยะสุดท้ายด้วยการแพทย์แผนไทยและ แพทย์ 9 คน (ร้อยละ 16.70) เภสัชกร 9 คน (ร้อยละ
สมุนไพรก่อนการศึกษาเป็นการให้บริการในรูปแบบ 16.70) พยาบาลวิชาชีพ 13 คน (ร้อยละ 23.30) และ
ผู้ป่วยนอก (OPD) ที่ไม่ได้มีการบูรณาการประยุกต์ แพทย์แผนไทย 24 คน (ร้อยละ 43.30) เป็นเพศหญิง
ใช้เครื่องมือวัด หรือแบบประเมินอาการผู้ป่วยที่เป็น 42 คน (ร้อยละ 76.40) เพศชายจ�านวน 13 คน (ร้อยละ
มาตรฐาน ขาดการบูรณาการวางแผนการรักษาร่วม 23.60) อายุ 30–39 ปี (33.4 ± 1.54) ระยะเวลาการ
กับทีมสหวิชาชีพ โดยการรักษาเป็นการใช้ยาสมุนไพร ท�างานที่เกี่ยวข้องกับการดูแลรักษาผู้ป่วย 2–9 ปี
และให้ค�าแนะน�าทั่วไปตามอาการและภาวะของผู้ป่วย (3.5 ± 3.03) ระดับการศึกษาปริญญาโท 20 คน