Page 64 - วารสารการแพทย์แผนไทย ปีที่ 20 ฉบับที่ 3 กันยายน-ธันวาคม 2565
P. 64

478 วารสารการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ ทางเลือก       ปีที่ 20  ฉบับที่ 3  กันยายน-ธันวาคม 2565




           7. กำรหำปริมำณสำรส�ำคัญในต�ำรับเจล F1       การศึกษานี้สนใจวิเคราะห์ปริมาณเคอร์คิวมินอยด์
              ด้วยวิธีโครมำโทกรำฟีของเหลวสมรรถนะสูง    ในสารสกัดขมิ้นชัน เนื่องจากเป็นสารออกฤทธิ์ที่

                ต�ารับเจลประกอบด้วยปริมาณสารเคอร์คิว-   ส�าคัญในการต้านอนุมูลอิสระที่โดดเด่นในขมิ้นชัน
           มินอยด์ร้อยละ 0.150 ± 0.004 โดยน�้าหนักประกอบ  ซึ่งสารในกลุ่มเคอร์คิวมินอยด์ทั้ง 3 ชนิดมีลักษณะ
           ด้วย curcumin, demethoxycurcumin bisde-     ของโครงสร้างที่เป็นหมู่พอลิฟีนอล (polyphenol

           methoxycurcumin ร้อยละ 0.074 ± 0.001, 0.001   groups) หมู่ไฮดรอกซี (hydroxyl groups) และ
           ± 0.000 และ 0.072 ± 0.001 โดยน�้าหนัก ตามล�าดับ   พันธะไฮโดรเจนซึ่งสามารถจ่ายออกได้ท�าให้สามารถ
           (ภาพที่ 3)                                  ก�าจัดอนุมูลอิสระ และลักษณะของโมเลกุลของเคอร์-

                                                       คิวมินอยด์ซึ่งมีหมู่คีโตน 2 ต�าแหน่ง ซึ่งมีลักษณะเป็น
                         อภิปรำยผล                     รูปแบบไดคีโต-อีนอล (diketo and enol forms) ส่ง

                การที่ขมิ้นชันเป็นพืชสมุนไพรไทยที่มีความ  ผลให้สามารถก�าจัดอนุมูลอิสระได้เช่นกัน และจาก

           โดดเด่นในการต้านอนุมูลอิสระและใช้รักษาโรคที่  พันธะไฮโดรเจนระหว่างโมเลกุล (intermolecular
           เกี่ยวข้องกับกระบวนการอักเสบ โรคปริทันต์รวมถึง  hydrogen bonds) ส่งผลต่อการก�าจัด reactive

                                                                    [28]
           โรคเหงือกอักเสบเป็นโรคที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการ  oxygen species ทั้งนี้การศึกษานี้ได้เห็นประโยชน์
           อักเสบของอวัยวะที่รองรับฟัน ส่วนประกอบที่ส�าคัญ  ส�าคัญของการใช้สารสกัดหยาบขมิ้นชันหรือสารสกัด
           ในการต้านการอักเสบของขมิ้นชันประกอบด้วยเคอร์-   ขมิ้นชันวิธีการแช่สกัดด้วยเอทานอล เนื่องด้วยสาร

           คิวมินอยด์ และน�้ามันหอมระเหย  การศึกษานี้ได้  สกัดขมิ้นชันดังกล่าวประกอบด้วยสารออกฤทธิ์ทาง
                                      [9]
           วิเคราะห์ปริมาณสารส�าคัญในกลุ่มเคอร์คิวมินอยด์  ชีวภาพในกลุ่มเคอร์คิวมินอยด์และน�้ามันหอมระเหย

           ของสารสกัดขมิ้นชันด้วยเอทานอล โดยขมิ้นชันที่ใช้  ที่ให้ผลลัพธ์ในด้านการรักษาและการป้องกันทาง
           ในการสกัดและตั้งต�ารับเจลนั้นมีแหล่งเพาะปลูกใน  คลินิก  ซึ่งแตกต่างจากการใช้เคอร์คิวมินบริสุทธิ์
                                                            [29]
           ประเทศไทย ผลการศึกษาพบว่าสารสกัดขมิ้นชันที่  เนื่องจากสารสกัดหยาบมีส่วนประกอบของน�้ามันหอม

           ใช้ประกอบไปด้วยเคอร์คิวมินอยด์ร้อยละ 16.582 ±   ระเหยซึ่งมีคุณสมบัติในการต้านอนุมูลอิสระและต้าน
           0.570 โดยน�้าหนัก ประกอบด้วย curcumin, deme-  การอักเสบร่วมด้วย [30-31]  นอกจากนี้กรรมวิธีในการ
           thoxycurcumin และ bisdemethoxycurcumin      สกัดสารส�าคัญจากขมิ้นชันด้วยวิธีการแช่สกัดด้วย

           ร้อยละ 5.694 ± 0.181, 3.521 ± 0.107, 7.368 ± 0.282   เอทานอลไม่ซับซ้อนและราคาไม่สูงเมื่อเทียบกับการ
           โดยน�้าหนักตามล�าดับ ซึ่งสอดคล้องกับการศึกษาของ   ใช้สารบริสุทธิ์ และการศึกษาของ Hayat S. และ
           Pothitirat W. และ Gritsanapan W. ในปี 2008   Sabri A.N. (2016) พบว่าการสกัดขมิ้นชันด้วย

           ซึ่งได้วิเคราะห์ปริมาณเคอร์คิวมินอยด์ในขมิ้นชัน   เอทานอลนั้นให้สารต้านอนุมูลอิสระกลุ่มฟีนอลิก
           ในแหล่งเพาะปลูกประเทศไทยด้วยวิธี HPLC พบ    (phenolic compound) ได้สูง [32]

           ว่าขมิ้นชันที่สกัดด้วยเอทานอลมีปริมาณเคอร์คิว-      ในขั้นตอนการพัฒนาต�ารับเจลสารสกัดขมิ้น
           มินอยด์ไม่ควรต�่ากว่าร้อยละ 16 โดยพบอยู่ในช่วง  ชันได้มีจุดประสงค์เพื่อพัฒนาสูตรต�ารับเจล เพื่อน�า
           ร้อยละ 14.14 ± 0.87 ถึง 26.76 ± 0.17 โดยน�้าหนัก [27]  ส่งสารสกัดขมิ้นชันซึ่งเป็นสารออกฤทธิ์จากสมุนไพร
   59   60   61   62   63   64   65   66   67   68   69