Page 208 - วารสารการแพทย์แผนไทย ปีที่ 20 ฉบับที่ 3 กันยายน-ธันวาคม 2565
P. 208
622 วารสารการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ ทางเลือก ปีที่ 20 ฉบับที่ 3 กันยายน-ธันวาคม 2565
ระเบียบวิธีศึกษ� และรับคืนแบบสอบถาม กลุ่มตัวอย่างได้รับการชี้แจง
การพิทักษ์สิทธิของการให้ข้อมูลของกลุ่มตัวอย่างด้วย
1. วิธีก�รศึกษ� เอกสารและผนึกซองก่อนคืนแบบสอบถามไปยังผู้
การศึกษาครั้งนี้เป็นงานวิจัยเชิงพรรณนาจาก รวบรวม ด�าเนินการรวบรวมข้อมูลในระหว่างวันที่ 10
บุคลากรโรงพยาบาลการแพทย์แผนไทยและการ มกราคม - 10 กุมภาพันธ์ 2565 แจกแบบสอบถาม
แพทย์ผสมผสานทั้งหมด ซึ่งประกอบด้วยแพทย์ จ�านวน 150 ฉบับ ได้รับแบบสอบถามคืนและผ่าน
แผนไทย ผู้ช่วยแพทย์แผนไทย แพทย์แผนจีน ผู้ช่วย การตรวจสอบจ�านวน 150 ฉบับ คิดเป็นร้อยละ 100
แพทย์แผนจีน ผู้ช่วยโครงการวิจัย ผู้ช่วยเหลือผู้ป่วย
2. ก�รวิเคร�ะห์ข้อมูล
เภสัชกร พยาบาลวิชาชีพ นักจัดการงานทั่วไป เจ้าหน้าที่
ธุรการจ�านวน 150 คน โดยเก็บข้อมูลประชากรทั้งหมด การศึกษาครั้งนี้ วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติเชิง
การศึกษานี้ผ่านคณะกรรมการพิจาณาการศึกษาวิจัย พรรณนา แจกแจงความถี่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วน
ในคน กระทรวงสาธารณสุข เอกสารเลขที่ 15/2564 เบี่ยงเบนมาตรฐาน วิเคราะห์ความสัมพันธ์ระหว่าง
เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษาใช้แนวทางการศึกษาปัจจัย ตัวแปรโดยใช้สถิติค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์เพียร์สัน
ที่มีความสัมพันธ์กับความพร้อมในการปฏิบัติงานการ (Pearson’s Correlation) และสถิติส�าหรับการเปรียบ
พัฒนาคุณภาพ (HA) โรงพยาบาลเขาย้อย จังหวัด เทียบค่าเฉลี่ยของกลุ่มตัวอย่าง 2 กลุ่ม (indepen-
เพชรบุรี (2557) ของนางอุษา เอี่ยมองอาจ โดยไม่ได้ dent t–test)
มีการดัดแปลง และน�ามาพิสูจน์ความเชื่อมั่นใหม่ใน
เรื่องความเที่ยงตรงทางเนื้อหา โดยผู้เชี่ยวชาญจาก ผลก�รศึกษ�
โรงพยาบาลการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ผสม
ผสาน 3 ท่าน ได้ค่าดัชนีความเที่ยงตรงตามเนื้อหา 1. ปัจจัยลักษณะส่วนบุคคลของกลุ่มตัวอย่�ง
0.9 เนื้อหาในแบบสอบถามมีทั้งหมด 5 ส่วน ส่วนที่ 1 พบว่ากลุ่มต�าแหน่งผู้ช่วยแพทย์แผนไทยมีจ�านวน
ข้อมูลส่วนบุคคล ส่วนที่ 2 การวัดความรู้เกี่ยวกับการ มากที่สุด ร้อยละ 38.7 รองลงมาคือกลุ่มแพทย์แผน
พัฒนาคุณภาพ (HA) ส่วนที่ 3 การวัดด้านเจตคติเกี่ยว ไทย ร้อยละ 21.3 บุคลากรได้รับข้อมูลข่าวสารเกี่ยว
กับงานพัฒนาคุณภาพ ส่วนที่ 4 การวัดแรงจูงใจในการ กับการพัฒนาคุณภาพ ร้อยละ 27.8 บุคลากรอยู่ใน
ท�างานพัฒนาคุณภาพ ส่วนที่ 5 วัดความพร้อมการ ระดับปฏิบัติงานเป็นส่วนใหญ่ ร้อยละ 92 ไม่ได้ร่วม
ปฏิบัติงานพัฒนาคุณภาพ และ แบ่งกลุ่มระดับคะแนน เป็นคณะกรรมการทีมพัฒนาคุณภาพโรงพยาบาล
อิงเกณฑ์ของ Bloom (1986) ใช้มาตราวัดแบบ ร้อยละ 80 และบุคลากรที่ยังไม่เคยได้รับการอบรม
[4]
[5]
ลิเคิต (Likert Scale) การเก็บรวบรวมข้อมูล โดย เกี่ยวกับการพัฒนาคุณภาพโรงพยาบาล สูงถึงร้อยละ
ท�าหนังสือขออนุญาตผู้อ�านวยการโรงพยาบาลในการ 93.3
เก็บข้อมูล และให้ผู้ช่วยวิจัยเป็นศูนย์กลางในการแจก