Page 213 - วารสารการแพทย์แผนไทย ปีที่ 20 ฉบับที่ 3 กันยายน-ธันวาคม 2565
P. 213
J Thai Trad Alt Med Vol. 20 No. 3 Sep-Dec 2022 627
และการพิจารณาเลื่อนขั้นเลื่อนต�าแหน่งขึ้นอยู่กับ ได้รับการอบรมเกี่ยวกับงานพัฒนาคุณภาพแล้วลาไป
การปฏิบัติงานอยู่ในระดับต�่า ซึ่งอาจเป็นปัจจัยส�าคัญ ศึกษาต่อต่างประเทศ ท�าให้บุคลากรส่วนนั้นไม่ได้ท�า
ที่มีผลต่อการปฏิบัติงานของบุคลากรในโรงพยาบาล แบบสอบถาม ท�าให้การประเมินคะแนนออกมาในส่วน
ของความรู้เกี่ยวกับงานพัฒนาคุณภาพอยู่ในระดับต�่า
ข้อสรุป ดังนั้นในการศึกษาครั้งต่อไปควรต้องให้ผู้ที่ผ่านการ
จากการศึกษาระดับความพร้อมของบุคลากร อบรมงานพัฒนาคุณภาพแล้ว ได้ท�าแบบสอบถามและ
ในการเข้าสู่การประเมินพัฒนาคุณภาพ พบว่า ส่วน ประเมินทุกคน
ใหญ่มีระดับความพร้อมอยู่ในระดับปานกลาง ร้อยละ
43.3 มีระดับความรู้เกี่ยวกับงานพัฒนาคุณภาพระดับ ข้อเสนอแนะในก�รนำ�ไปใช้ประโยชน์
ต�่า ร้อยละ 66 และมีระดับเจตคติ แรงจูงใจในการเข้า การศึกษานี้สามารถใช้เป็นแนวทางในการจัด
สู่การประเมินพัฒนาคุณภาพระดับปานกลาง ร้อยละ ท�าโครงการพัฒนาบุคลากร เพื่อเพิ่มความพร้อมของ
62.7 และ 20.6 ตามล�าดับ ปัจจัยลักษณะส่วนบุคคล บุคลากรให้เข้าสู่การประเมินคุณภาพได้อย่างมั่นใจ
พบว่าบุคลากรส่วนใหญ่เป็นกลุ่มต�าแหน่งผู้ช่วย จนกลายเป็นโรงพยาบาลด้านการแพทย์แผนไทยแห่ง
แพทย์แผนไทย ในระดับปฏิบัติการ ไม่ได้มีส่วนร่วม แรกที่ได้รับการรับรองคุณภาพได้ในที่สุด ตัวอย่างเช่น
ในการเป็นกรรมการทีมพัฒนาคุณภาพโรงพยาบาล ไม่ โครงการอบรมความรู้เกี่ยวกับการปฏิบัติงานพัฒนา
ได้รับข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับการพัฒนาคุณภาพ และ คุณภาพ โครงการเพิ่มสวัสดิการน�้าดื่ม อาหาร สถานที่
ยังไม่เคยได้รับการอบรมเกี่ยวกับการพัฒนาคุณภาพ สันทนาการให้กับบุคลากร และการแต่งตั้งให้บุคลากร
โรงพยาบาลมาก่อน ในโรงพยาบาลทุกคนเป็นหนึ่งในคณะกรรมการทีม
ผลการวิเคราะห์โดยใช้สถิติพบว่า หน้าที่ความรับ พัฒนาคุณภาพโรงพยาบาล
ผิดชอบ การได้รับข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับการพัฒนา
คุณภาพ (HA) การร่วมเป็นคณะกรรมการทีมพัฒนา ข้อเสนอแนะในก�รศึกษ�ครั้งต่อไป
คุณภาพโรงพยาบาล ความรู้ เจตคติ และแรงจูงใจ การศึกษาครั้งนี้เน้นการศึกษาไปที่บุคลากร ไม่
เป็นปัจจัยที่มีผลต่อระดับความพร้อมในการเข้าสู่ ได้เน้นที่โครงสร้างและทรัพยากรที่จะน�าไปต่อยอด
การประเมินพัฒนาคุณภาพ อย่างมีนัยส�าคัญทาง เพื่อพัฒนางานด้านคุณภาพ ดังนั้นจึงควรมีการศึกษา
สถิติ ซึ่งสามารถน�าผลการศึกษานี้ไปต่อยอดเพื่อใช้ ทั้งบุคลากร โครงสร้างองค์กร และทรัพยากรเป็นองค์
เป็นแนวทางในการพัฒนาบุคลากร เพิ่มความพร้อม รวมเพื่อน�าไปต่อยอดการพัฒนาคุณภาพโรงพยาบาล
ของบุคลากรให้พร้อมเข้าสู่การประเมินคุณภาพ ต่อไป
มากขึ้น จนกระทั่งสามารถผ่านการประเมินคุณภาพ
โรงพยาบาลได้ในที่สุด References
1. Institute of Traditional Medicine. Thai traditional medi-
ข้อจำ�กัดในก�รศึกษ� cine hospital accreditation guidelines. Nonthaburi: De-
partment of Thai Traditional and Alternative Medicine;
ในช่วงที่ด�าเนินการศึกษามีบุคลากรส่วนหนึ่งที่ 2018. (in Thai)