Page 203 - วารสารการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ ทางเลือก ปีที่ 19 ฉบับที่ 2 พฤษภาคม-สิงหาคม 2564
P. 203

J Thai Trad Alt Med                                   Vol. 19  No. 2  May-Aug  2021  433



                ้
                                                ้
            ลบนำาหนักโมเลกุลของธาตุโซเดียมออกจะได้นำาหนัก  สอบการปนปลอมของสมุนไพรได้ ในประเทศไทยยัง
            โมเลกุลของสารที่แยกได้ ประมาณ 270 ซึ่งสอดคล้อง  ไม่มีวิธีมาตรฐานสำาหรับการควบคุมคุณภาพของ

            กับสูตรโมเลกุล จากนั้นนำาไปเปรียบเทียบกับข้อมูล  สมุนไพรกระชาย การศึกษานี้จึงเป็นรายงานฉบับแรก
                                           [12]
            สเปกตรัมของสารที่เคยมีรายงานมาก่อน  ดังนั้นใน  ที่แสดงถึงวิธีการตรวจเอกลักษณ์ทางเคมีของกระชาย
            การศึกษานี้สามารถสรุปได้ว่า สารบริสุทธิ์ที่แยกได้  ด้วยวิธีรงคเลขผิวบางโดยมีสารเทียบ คือ พิโนสโตรบิน

            จากกระชาย คือ สารพิโนสโตรบิน                วิธีที่พัฒนาขึ้นใช้นำ้ายา natural products/poly-
                 นอกจากนี้ยังพบว่า สารพิโนสโตรบินที่แยกได้  ethylene glycol (NP/PEG หรือ natural product
            มีลักษณะเป็นผงสีขาวนวล ซึ่งเมื่อเปรียบเทียบความ  reagent) สำาหรับการตรวจวัดซึ่งเป็นนำ้ายาเฉพาะ

            คงตัว (stability) กับสารพิโนสโตรบินจากบริษัทผู้  สำาหรับการตรวจวัดสารกลุ่มเฟลโวนอยด์ ซึ่งเป็นองค์
            ผลิตมีแนวโน้มเป็นไปในทิศทางเดียวกัน แต่ก็พบว่า   ประกอบทางเคมีที่พบมากในกระชาย นอกจากนี้
            พิโนสโตรบินอาจตกผลึกได้ผลึกที่มีลักษณะเป็นแผ่น  พิโสโตรบินที่แยกได้สามารถนำาไปใช้เป็นสารมาตรฐาน

            บางใส ซึ่งจากการแยกสารนี้ซำ้าจากตัวอย่างกระชาย  สำาหรับการควบคุมคุณภาพสมุนไพรชนิดอื่นที่มี
            หลายตัวอย่าง พบลักษณะการตกผลึกดังกล่าวเพียง  พิโนสโตรบินเป็นองค์ประกอบทางเคมีเช่นกัน

            ครั้งเดียว ซึ่งสารพิโนสโตรบินในลักษณะแผ่นบางใส
            เมื่อเตรียมเป็นสารละลายในเมทานอลจะมีการ                     ข้อสรุป
            เปลี่ยนแปลงกายภาพภายในระยะเวลา 2 วัน โดยสาร      สารบริสุทธิ์ที่แยกได้จากกระชายเป็นสาร

            สะลายจะขุ่นเมื่อตั้งทิ้งไว้ที่อุณหภูมิห้อง กล่าวคือ    ทุติยภูมิในกลุ่มเฟลวาโนน (flavanone) มีชื่อว่า สาร
            พิโนสโตรบินที่พบจากการศึกษานี้ มี 2 ลักษณะ (form)   พิโนสโตรบิน (pinostrobin) มีสูตรโมเลกุล C H O
                                                                                          16 14 4
            คือ ลักษณะที่เป็นผงละเอียดสีขาวนวล ซึ่งจะมีความ  มีนำ้าหนักโมเลกุล เท่ากับ 270 โดยสารที่แยกได้นี้ มี
            คงตัวทางกายภาพดีกว่าพิโนสโตรบินที่มีลักษณะเป็น  ความบริสุทธิ์ร้อยละ 97.06 และร้อยละของผลผลิต
            แผ่นบางใส ซึ่งทั้ง 2 ลักษณะได้พิสูจน์ว่าเป็นสาร  0.86 ซึ่งในการศึกษานี้ได้พัฒนาวิธีตรวจเอกลักษณ์

            เดียวกันมีนำ้าหนักโมเลกุลเท่ากัน เมื่อวิเคราะห์ด้วย   ทางเคมีของกระชายด้วยวิธีรงคเลขผิวบาง โดย silica
            UPLC ในสภาวะเดียวกันจะปรากฏพีคที่ retention   gel 60 เป็นวัฏภาคคงที่ ส่วนผสมของไดคลอโรมีเทน
            time เดียวกัน พิจารณาจาก 3D-spectrum มีลักษณะ  และเมทานอล (อัตราส่วน 70:1) เป็นวัฏภาคเคลื่อนที่

            เหมือนกัน และเมื่อตรวจสอบด้วยวิธีรงคเลขผิวบาง  ตรวจวัดด้วยการทำาปฏิกิริยากับนำ้ายา NP/PEG และ
            ก็ให้ค่า R เท่ากัน                          สังเกตผลภายใต้แสงอัลตราไวโอเลตที่ความยาวคลื่น
                   f
                 การศึกษานี้ยังได้พัฒนาต่อยอดโดยการนำา   366 นาโนเมตร จะพบจุดสีของพิโนสโตรบินที่ค่า R  f

            พิโนสโตรบินที่แยกได้ไปใช้ในการตรวจเอกลักษณ์  เท่ากับ 0.95 วิธีนี้สามารถนำามาใช้ในการวิเคราะห์เชิง
            ทางเคมีของกระชาย ซึ่งเป็นการวิเคราะห์เชิงคุณภาพ  คุณภาพสมุนไพรชนิดนี้ต่อไปได้

            ที่จะบอกว่ากระชายที่จะนำามาเป็นวัตถุดิบสมุนไพรที่
            จะนำาไปผลิตยาหรือผลิตภัณฑ์เสริมสุขภาพนั้นเป็น          กิตติกรรมประก�ศ
            สมุนไพรที่มีคุณภาพหรือไม่ รวมถึงยังเป็นการตรวจ     ขอขอบคุณกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์
   198   199   200   201   202   203   204   205   206   207   208