Page 80 - วารสารกรมการแพทย์แผนไทยฯ ปีที่ 17 ฉบับที่ 2
P. 80
218 วารสารการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ ทางเลือก ปีที่ 17 ฉบับที่ 2 พฤษภาคม-สิงหาคม 2562
posttest design) ที่กำาลังศึกษาอยู่ในโรงเรียนวัด ตั้งชื่อท่าใหม่ ให้มีความสอดคล้องกับท่าทางของฤๅษี
โสมนัส ทั้งชายและหญิง ระหว่างเดือนสิงหาคมถึง ดัดตน และชื่อทั้ง 5 ชื่อมีความคล้องจองกัน เพื่อให้
เดือนกันยายน พ.ศ. 2561 ขนาดกลุ่มตัวอย่างคำานวณ ง่ายต่อการจดจำาได้แก่ ท่าอรุณเบิกฟ้า ดัดแปลงจาก
จากจำานวนเด็กที่มีภาวะสมาธิสั้นทั้งหมด 20 คน โดย ท่าแก้เกียจ ท่าสกุณาลู่ลม ดัดแปลงจากท่าแก้แน่น
ใช้สูตร Yamane (1973) โดยให้ความคลาดเคลื่อน หน้าอก ท่าเทพพนมทรงกาย ดัดแปลงจากท่าดำารง
[12]
ของการสุ่มตัวอย่าง e = 0.05 ในการศึกษาครั้งนี้จึง กายอายุยืน ท่าสบายอุรา ดัดแปลงจากท่าแก้ปวดท้อง
ใช้ขนาดกลุ่มตัวอย่าง 19 คน แต่มีผู้สนใจเข้าร่วม แก้สะบักจม ท่าราตรีสวัสดิ์ ดัดแปลงจากท่าแก้ลมใน
โครงการและได้รับการยินยอมจากผู้ปกครองเพียง อก เป็นการฝึกสมาธิแบบเคลื่อนไหวที่ทำาง่าย ทุกคน
4 คน คิดเป็นร้อยละ 21.05 และไม่สามารถหากลุ่ม สามารถทำาได้ด้วยตัวเอง มีความต่อเนื่องของท่าจาก
ตัวอย่างมาทดแทน เนื่องจากข้อจำากัดของผู้ปกครอง ท่ายืนเป็นท่านอน มีการเคลื่อนไหวจากท่าแรกถึงท่า
ที่ไม่ยินยอมให้เด็กเข้าร่วมโครงการทั้งในโรงเรียน สุดท้ายช้าลงเรื่อย ๆ เพื่อให้ผู้เข้าร่วมวิจัยมีอารมณ์ที่
อื่น ๆ และโรงเรียนวัดโสมนัส และทำาการคัดเลือกกลุ่ม เย็นลง พฤติกรรมค่อย ๆ นิ่งลง สามารถควบคุมตัวเอง
ตัวอย่างด้วยวิธีการเลือกแบบเจาะจง (purposive ได้มากขึ้นเรื่อย ๆ จนทำาให้เกิดมีสมาธิมากขึ้น ทำาการ
sampling) ในกลุ่มตัวอย่างจึงเป็นโรคสมาธิสั้นเพียง ทดลองเป็นระยะเวลา 6 สัปดาห์ ในผู้ที่มีภาวะสมาธิ
อย่างเดียว 1 คน เป็นโรคออทิสติกและโรคสมาธิสั้น สั้นตามเกณฑ์การวินิจฉัยของกุมารแพทย์ ที่มีอายุ
ร่วมด้วย 3 คน 7–8 ปี โดยติดตามภาวะสมาธิสั้น คือ ความไม่มีสมาธิ
1. กรอบแนวคิดการวิจัย ความหุนหันพลันแล่น และการอยู่ไม่นิ่ง และติดตาม
การศึกษาผลของการใช้โปรแกรมการฝึกท่า การเปลี่ยนแปลงของความดันโลหิตและอัตราการเต้น
ฤๅษีดัดตน เพื่อเพิ่มสมาธิในเด็กสมาธิสั้น จำานวน 5 ของหัวใจ ดังกรอบแนวคิดนี้
ท่า ซึ่งได้ดัดแปลงเพื่อให้เหมาะสมกับความสามารถ 2. การวิเคราะห์ข้อมูล
ของผู้เข้าร่วมวิจัย มีความง่ายของท่ามากขึ้น และการ 2.1 การพรรณนาเชิงคุณภาพ เพื่อบรรยาย
ภาพที่ 1 กรอบแนวคิดในการวิจัย