Page 79 - วารสารกรมการแพทย์แผนไทยฯ ปีที่ 17 ฉบับที่ 2
P. 79
J Thai Trad Alt Med Vol. 17 No. 2 May-Aug 2019 217
โรคสมาธิสั้นสามารถทำาได้โดยการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม ภาวะสมาธิสั้นของเด็กสมาธิสั้น โดยครูประจำาชั้นเป็น
โดยเฉพาะการฝึกควบคุมตนเองให้มีใจจดจ่อกับ ผู้สังเกตและบันทึกข้อมูล ประกอบไปด้วย 2 ส่วน
กิจกรรม และกิจกรรมนั้นต้องไม่ก่อให้เกิดความน่า คือ (1) ข้อมูลทั่วไป เป็นการสอบถามข้อมูลเกี่ยว
เบื่อ ด้วยหลักการดังกล่าวการวิจัยนี้นำาแนวคิดการ กับ เพศ อายุ ของกลุ่มตัวอย่าง (2) พฤติกรรมภาวะ
ทำาสมาธิแบบ TM เป็นแนวทางในการเพิ่มสมาธิในผู้ที่ สมาธิสั้น เป็นแบบสอบถามมาตราส่วนประเมินค่า
เป็นโรคสมาธิสั้นได้ เนื่องจากการทำาสมาธิวิธีนี้เป็นฝึก 4 ระดับ ได้แก่ ไม่เคย เล็กน้อย ค่อนข้างมาก บ่อย
สติให้รู้จักคิดก่อนทำา และให้รู้ตัวอยู่เสมอว่ากำาลังทำา มาก สอบถามข้อมูลเกี่ยวกับการปฏิบัติพฤติกรรมที่
อิริยาบถใด หรืออาจเรียกได้ว่าเป็นการทำาสมาธิแบบ เกี่ยวข้องกับภาวะสมาธิสั้น
เคลื่อนไหวร่างกาย ลักษณะนี้จึงสอดคล้องกับการ ชุดที่ 2 แบบรวบรวมข้อมูลภาวะสมาธิสั้น เป็น
ฝึกท่าบริหารฤๅษีดัดตน ซึ่งเป็นวิธีการบริหารร่างกาย เครื่องมือสำาหรับเก็บรวบรวมข้อมูลภาวะสมาธิสั้น
ตามหลักการแพทย์แผนไทย ที่ใช้ในสังคมไทยมาแต่ ของเด็กสมาธิสั้น โดยผู้วิจัยเป็นผู้สังเกตและบันทึก
โบราณ กล่าวคือ เป็นการบริหารร่างกายที่เน้นการฝึก ข้อมูลขณะดำาเนินกิจกรรม ประกอบไปด้วย 3 ส่วน
ลมหายใจและใช้สมาธิร่วมด้วย จึงเป็นทั้งการบริหาร คือ (1) ข้อมูลทั่วไป เป็นแบบสอบถามปลายปิด แบบ
ร่างกายและบริหารจิตไปพร้อมกัน [9–10] และได้ทำาการ ตรวจรายการ เป็นการสอบถามข้อมูลเกี่ยวกับ เพศ
ศึกษาผลของการนำาการฝึกท่าฤๅษีดัดตนมาประยุกต์ อายุ ของกลุ่มตัวอย่าง (2) พฤติกรรมภาวะสมาธิสั้น
ใช้ในการเพิ่มสมาธิให้กับผู้ที่สมาธิสั้นในวัยเด็ก ซึ่ง เป็นแบบสังเกตพฤติกรรมของเด็กสมาธิสั้น ประเภท
หากทำาให้ผู้ฝึกมีสมาธิเพิ่มมากขึ้นได้แล้ว อาจส่งเสริม มีโครงสร้าง โดยการสังเกตเกี่ยวกับความไม่มีสมาธิ
การนำาการบริหารร่างกายท่าฤๅษีดัดตนมาประยุกต์ใช้ ความหุนหันพลันแล่น และการอยู่ไม่นิ่ง และ (3)
ในการรักษาโรคสมาธิสั้นให้แพร่หลายมากขึ้น ข้อมูลสรีรวิทยา เป็นแบบบันทึกค่าของความดันโลหิต
และอัตราการเต้นของหัวใจ
ระเบียบวิธีศึกษ�
2. การพิทักษ์สิทธิของกลุ่มตัวอย่าง
วัสดุ การศึกษาครั้งนี้ผ่านการพิจารณาจากคณะ
1. เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูล ได้ กรรมการจริยธรรมการวิจัยในมนุษย์ มหาวิทยาลัย
ทำาการศึกษา และค้นคว้าวิธีการประเมินภาวะสมาธิสั้น เกษตรศาสตร์ ตามรหัสโครงการวิจัย KUREC-HS
ที่เป็นวิธีการมาตรฐาน และนำามาใช้อย่างแพร่หลายใน 61/017 กลุ่มตัวอย่างเข้าร่วมวิจัยด้วยความสมัครใจ
ทางการแพทย์ โดยนำาแบบประเมินพฤติกรรม SNAP- ของตนเองและได้รับความยินยอมจากผู้ปกครองแล้ว
IV (Short Form) มาดัดแปลง ซึ่งเป็นแบบสอบถาม
ที่พัฒนาขึ้นในปี 1992 โดย Swanson, Nolan และ วิธีก�รศึกษ�
[11]
Pelham แปลโดย ณัทธร ทิพยรัตนเสถียร มี 2 ชุด การศึกษาวิจัยนี้เป็นการศึกษาวิจัยแบบกึ่ง
ได้แก่ ทดลอง (quasi-experimental research design)
ชุดที่ 1 แบบรวบรวมข้อมูลภาวะสมาธิสั้น ดำาเนินการทดลองตามแบบแผนการวิจัยชนิดวัดผล
(สำาหรับครู) เป็นเครื่องมือสำาหรับเก็บรวบรวมข้อมูล ก่อน หลัง หนึ่งกลุ่มทดลอง (one group pretest-