Page 163 - Acrobat J Trad-21-3-2566
P. 163

646 วารสารการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ ทางเลือก       ปีที่ 21  ฉบับที่ 3  กันยายน-ธันวาคม 2566




           ผักปลังแดงมีค่า IC 50 เท่ากับ 7.22 ± 0.13 และ 7.67   ผักปลังขาวแบบสดประมาณ 3-6 เท่า เหมาะส�าหรับ
                       [20]
           ± 0.13 mg/mL  ซึ่งสอดคล้องกับการศึกษาในครั้ง  การน�าไปศึกษาต่อในอนาคต ดังนั้นจึงควรมีการ
           นี้ที่พบว่าสารสกัดหยาบจากผักปลังขาวมีฤทธิ์ความ  ศึกษาวิเคราะห์เพิ่มเติมเพื่อหาสารประกอบหลักหรือ
           เป็นพิษต่อเซลล์มะเร็งดีกว่าผักปลังแดง นอกจากนี้  สารประกอบบริสุทธิ์ที่ออกฤทธิ์ด้วยวิธีอื่น ๆ เช่น
           มีการศึกษาฤทธิ์ต้านมะเร็งในสัตว์ทดลองของ Kilari   VLC, CC และ HPLC เป็นต้นซึ่งสารประกอบหลัก

           et al. (2016) พบว่าสารสกัดชั้นน�้าของผักปลังแดง  หรือสารประกอบบริสุทธิ์ดังกล่าวอาจพบได้ในผักปลัง
           สามารถยับยั้งการกระจายของมะเร็งล�าไส้ใหญ่ได้โดย  แดงมากกว่าผักปลังขาว
                                      [30]
           การเหนี่ยวน�าให้เกิดการ apoptosis  และการศึกษา
           ของ Islam et al. (2018) ยังพบว่าสารสกัดชั้นน�้าจาก          ข้อสรุป
           ใบและเมล็ดของผักปลังขาวสามารถยับยั้งการเจริญ     ผลการศึกษาในครั้งนี้สรุปได้ว่าผักปลังแดงแบบ
           เติบโตของเซลล์มะเร็งตับชนิด Ehrlich ascites car-  สดที่สกัดด้วยเอทานอลร้อยละ 95 และท�าการแยก

           cinoma (EAC) cells มีร้อยละการยับยั้งเจริญเติบโต  สกัดต่อด้วยคลอโรฟอร์มมีศักยภาพในการต้านเซลล์
                                                 [22]
           ของเซลล์เท่ากับ 62.54 ± 2.41 และ 53.96 ± 2.34    มะเร็งโรคระบบทางเดินอาหารที่ดีที่สุด ในขณะที่สาร
           ตามล�าดับ ผลการศึกษาในครั้งนี้มีค่า IC 50 ดีกว่า  สกัดหยาบผักปลังขาวแบบสดที่สกัดด้วยเอทานอล
           งานวิจัยก่อนหน้านี้อาจเป็นเพราะใช้ตัวท�าละลายชั้น   ร้อยละ 95 มีศักยภาพในการต้านเซลล์มะเร็งในระบบ
           เอทานอลซึ่งสามารถสกัดสารกลุ่มฟลาโวนอยด์ได้  ทางเดินอาหาร ได้แก่ มะเร็งช่องปาก, มะเร็งกระเพาะ

           มากกว่าตัวท�าละลายชั้นน�้า  นอกจากนี้ยังมีการ  อาหาร, มะเร็งล�าไส้ใหญ่, มะเร็งตับและมะเร็งท่อน�้าดี
                                 [31]
           รายงานว่าผักปลังประกอบด้วยสารส�าคัญหลายชนิด   ได้ดีกว่าสารสกัดหยาบผักปลังแดง โดยฤทธิ์ที่แตก

           เช่น ฟีนอลิก ฟลาโวนอยด์ แคโรทีนอยด์ ซาโปนิน  ต่างกันอาจเนื่องจากสารส�าคัญที่เป็นองค์ประกอบ
           และอัลคาลอยด์ รวมถึงสารจ�าพวกไฟเบอร์ วิตามิน   ดังนั้นจึงควรมีการศึกษาสารส�าคัญที่ออกฤทธิ์ ผล
                                  [8-11]
           เกลือแร่และกรดอมิโนที่จ�าเป็น  ซึ่งมีหลายงานวิจัย  การศึกษาในครั้งนี้สนับสนุนข้อมูลพื้นฐานเกี่ยวกับ
           ระบุว่าสารกลุ่มนี้มีความสอดคล้องกับฤทธิ์ต้านมะเร็ง   ฤทธิ์ทางชีวภาพของผักปลังขาวและผักปลังแดง และ
           ฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ และฤทธิ์ต้านการอักเสบ [8,12-18]    สามารถน�าไปต่อยอดโดยการวิเคราะห์หาสารส�าคัญ
           แต่เมื่อท�าการสกัดแยกด้วยวิธี partition extrac-  การทดสอบในสัตว์ทดลอง และการทดสอบความเป็น

           tion พบว่าสารสกัดหยาบผักปลังแดงแบบสดที่หมัก  พิษเพื่อพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์ในอนาคต
           ด้วยเอทานอลร้อยละ 95 แล้วท�าการแยก fraction
           ด้วยคลอโรฟอร์มมีศักยภาพในการต้านเซลล์มะเร็ง            กิตติกรรมประก�ศ

           ในระบบทางเดินอาหาร 4 ชนิด ได้แก่ เซลล์ KATO      ขอขอบคุณคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัย
           III, SW480, LS 174T และ KKU-M156 ดีที่สุดซึ่ง  ธรรมศาสตร์ที่ให้การสนับสนุนทุนวิจัย

           มีศักยภาพมากกว่าสารสกัดหยาบชั้นเอทานอลของ
   158   159   160   161   162   163   164   165   166   167   168