Page 77 - วารสารการแพทย์แผนไทย ปีที่ 21 ฉบับที่ 2
P. 77

J Thai Trad Alt Med                                   Vol. 21  No. 2  May-Aug  2023  293




            ของระดับ AFP เปรียบเทียบผู้ป่วยมะเร็งเซลล์ตับทั้ง  มีอัตราเสี่ยงต่อการเสียชีวิตของโรคมะเร็งตับเป็น 0.25
            สองกลุ่ม หลังการเข้าร่วมโครงการวิจัยในวันที่ 28, วัน  เท่า เมื่อเทียบกับกลุ่มที่ได้รับยาหลอก ซึ่งหมายความ

            ที่ 56, วันที่ 84, วันที่ 112 และวันที่ 140 พบว่าสภาวะ  ว่าสารสกัดต�ารับยาเบญจอ�ามฤตย์เป็นปัจจัยป้องกัน
            ของผู้ป่วย (ECOG, p-value = 0.04) และขนาดเนื้อ  การเสียชีวิตของผู้ป่วยมะเร็งตับอย่างมีนัยส�าคัญ
            งอกตาม RECIST criteria (p-value = 0.02) มีความ  ทางสถิติ สอดคล้องกับรายงานการศึกษาของจีน

            แตกต่างระหว่างกลุ่มทดลองและกลุ่มควบคุมอย่างมี  และไต้หวัน [20-21]  ที่พบว่าต�ารับยาจีน (Traditional
            นัยส�าคัญทางสถิติ กล่าวคือกลุ่มทดลองมีสภาวะของ  Chinese Medicine: TCM) ที่ใช้ร่วมในการรักษา
            ผู้ป่วยและขนาดก้อนเนื้องอกลดลงอย่างมีนัยส�าคัญ  มะเร็งตับนั้น เป็นปัจจัยส�าคัญที่ช่วยลดการเสียชีวิต

            ทางสถิติ (Table 3) สอดคล้องกับรายงานการศึกษา  ของผู้ป่วยได้ (crude HR = 0.65, 95%CI: 0.64-0.66)
                                      [19]
            ของ Yapasert R และคณะ (2020)  พบว่า สารสกัด  และพบว่าต�ารับยาจีนเป็นปัจจัยส�าคัญที่ป้องกันการ
            แอลกอฮอล์ของต�ารับยาเบญจอ�ามฤตย์มีฤทธิ์ยับยั้ง  เสียชีวิตของผู้ป่วยมะเร็งตับในระยะ 5 ปี (adjusted

            เซลล์มะเร็งตับ (HepG2) ได้แบบ dose-dependent   HR = 0.46, 95%CI: 0.40-0.52, p-value < 0.0001)
            โดยสารสกัดแอลกอฮอล์ของต�ารับยาเบญจอ�ามฤตย์มี  อย่างไรก็ตามผลจากการศึกษาในครั้งนี้ ไม่พบความ

            ฤทธิ์เหนี่ยวน�า mitochondria-mediated apopto-  แตกต่างอย่างมีนัยส�าคัญทางสถิติของค่าคะแนน
            sis pathways และผลักดันให้เกิด ROS (Reactive   คุณภาพชีวิต (Table 5) แตกต่างจากผลการศึกษาของ
                                                                                 [22]
            Oxygen Species) generation และ endoplasmic   กุลสิริ ยศเสถียรและคณะ (2017)  ที่พบว่าภาพรวม
            reticulum stress-mediated apoptosis อีกด้วย  คะแนนค่าเฉลี่ยคุณภาพชีวิตที่ประเมินด้วย T-FLICT
                 ทั้งนี้เมื่อประเมินอัตราการรอดชีวิตของผู้เข้าร่วม  2 มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นทุกเดือน โดยมีการเพิ่มขึ้น

            วิจัยทั้งสองกลุ่มพบว่า กลุ่มทดลองมีระยะเวลาที่ผู้ป่วย  อย่างมีนัยส�าคัญทางสถิติเมื่อใช้ยาต่อเนื่องถึงเดือน
            ยังรอดชีวิตอยู่ร้อยละ 50 (median survival time)   ที่ 2 อย่างไรก็ตามหากวิเคราะห์ผลในรายละเอียดจะ
            เป็น 93 วัน ซึ่งน้อยกว่ากลุ่มควบคุมที่มีระยะเวลาที่   พบว่า กลุ่มทดลองเริ่มได้รับสารสกัดต�ารับยาเบญจ

            ผู้ป่วยยังรอดชีวิตอยู่ร้อยละ 50 เป็นระยะเวลา 103   อ�ามฤตย์จริงตั้งแต่วันที่ 29 ถึง วันที่ 112 ดังนั้นหาก
            วัน แต่แนวโน้มการรอดชีวิตตลอดช่วงเวลาการศึกษา  วิเคราะห์คะแนนเฉลี่ยการประเมินคุณภาพชีวิตด้วย
            ระหว่างกลุ่มทดลองและกลุ่มควบคุมนั้นไม่แตกต่าง  T-FLICT 2 นับจากวันที่ 28 จนถึงวันที่ 140 มีแนว

            กัน (p-value = 0.24) ทว่าเมื่อสิ้นสุด 1 ปีกลับพบว่า  โน้มของคะแนนเพิ่มสูงขึ้นทุกเดือน และสูงที่สุด ณ
            ผู้เข้าร่วมวิจัยในกลุ่มควบคุมเสียชีวิตทั้งหมด ขณะที่  วันที่ 140 (เดือนสุดท้ายที่ประเมิน)
            ผู้เข้าร่วมวิจัยกลุ่มทดลองยังมีชีวิตอยู่จ�านวน 5 ราย      การศึกษาในครั้งนี้ไม่พบรายงานอาการไม่พึง

            เมื่อวิเคราะห์ HR ด้วย Cox regression พบว่า ผู้ป่วย  ประสงค์ของการใช้สารสกัดต�ารับยาเบญจอ�ามฤตย์
            ทั้งสองกลุ่มมีอัตราการรอดชีวิตไม่แตกต่างกัน ขณะที่  สอดคล้องกับหลายรายงานที่ผ่านมา [11,22]  จึงเป็นการ

            เมื่อควบคุมปัจจัย เพศ อายุ ขนาดของเนื้องอก อาการ  ยืนยันไปในทิศทางเดียวกันว่า ต�ารับยาเบญอ�ามฤตย์
            แสดงส�าคัญ และระดับ AFP กลับพบว่า ผู้ป่วยโรค  ทั้งในรูปแบบบดผงและสารสกัด สามารถใช้ใน
            มะเร็งเซลล์ตับที่ได้รับสารสกัดต�ารับยาเบญจอ�ามฤตย์  ผู้ป่วยมะเร็งตับได้อย่างปลอดภัย ไม่พบอาการไม่พึง
   72   73   74   75   76   77   78   79   80   81   82