Page 142 - วารสารการแพทย์แผนไทย ปีที่ 21 ฉบับที่ 2
P. 142
358 วารสารการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ ทางเลือก ปีที่ 21 ฉบับที่ 2 พฤษภาคม-สิงหาคม 2566
บทนำ�และวัตถุประสงค์ สมุนไพรที่น�ามาใช้ในการรักษา คือ รสขมเย็น รสเมา
สิว เป็นโรคผิวหนังที่เกิดจากการอุดตันของต่อม เบื่อ รสฝาด รสจืด เมื่อวิเคราะห์ พบว่ายารสเย็นมี
ไขมันส่งผลให้เชื้อแบคทีเรีย Cutibacterium acnes สรรพคุณแก้ความผิดปกติของเตโชธาตุ (ธาตุไฟ) ลด
เจริญเติบโตขึ้นและกระตุ้นให้เกิดการอักเสบบริเวณรู ความร้อน แก้ไข้และแก้การอักเสบของร่างกาย ซึ่งมี
ขุมขนที่ผิวหนัง นอกจากนั้นบริเวณที่เป็นสิวยังพบการ ความสอดคล้องกับพยาธิสภาพและลักษณะอาการ
ติดเชื้อแบคทีเรียชนิดอื่น ๆ ได้แก่ Staphylococcus ของโรค โดยสมุนไพรที่นิยมน�ามาใช้ถอนพิษทั้งปวง
[5]
[1]
aureus และ Staphylococcus epidermidis ที่ แก้ไข้ แก้อักเสบ และแก้ปวดบวมได้แก่ รางจืด ซึ่งมีชื่อ
อาจท�าให้เกิดความรุนแรงของสิวและการอักเสบ วิทยาศาสตร์คือ Thunbergia laurifolia Lindl. ซึ่ง
มากขึ้นเนื่องจากเม็ดเลือดขาวจะสร้างสารที่กระตุ้น มีสรรพคุณแก้ไข้ แก้อักเสบ แก้ปวดบวม ถอนพิษทั้ง
กระบวนการอักเสบ เช่น ไนตริกออกไซด์, TNF-α, ปวง[6] รางจืดประกอบด้วยสารส�าคัญในกลุ่มฟีนอลิก
[2]
[7-8]
IL-1, IL-6 เป็นต้น ลักษณะทางคลินิกของสิว จะพบ หลายชนิด เช่น rosmarinic acid จากการศึกษาที่
อาการบวม แดง อักเสบ มีแผลบริเวณผิวหนังหรือรูขุม ผ่านมาพบว่าสารสกัดน�้าของใบรางจืดมีฤทธิ์ต้านการ
[9]
ขน โดยมักจะเป็นแผลประเภทตุ่มหนอง, ผื่นนูน, ตุ่ม อักเสบในสัตว์ทดลอง นอกจากนั้นสารสกัดเอทานอล
นูนขนาดใหญ่ นอกจากนั้นหากสิวมีการอักเสบรุนแรง ของใบรางจืดแห้งมีฤทธิ์ในการลดอาการอักเสบ
จะท�าให้เกิดเป็น สิวหัวช้าง ซึ่งระดับความรุนแรงของ บริเวณผิวหนังของกระต่ายที่มีการติดเชื้อ S. aureus
สิวในแต่ละบุคคลมีความแตกต่างกัน ท�าให้ส่งผลกระ โดยพบว่าครีมที่ผสมสารสกัดจากใบรางจืดช่วยยับยั้ง
ทบต่อคุณภาพชีวิตทั้งด้านอารมณ์ จิตใจ และสังคม การเจริญของเชื้อ ต้านอนุมูลอิสระและลดปริมาณ
ท�าให้สูญเสียความมั่นใจในตนเอง เกิดความเครียด ไซโตไคน์ที่กระตุ้นการอักเสบได้แก่ TGF-β, TNF-α
[3]
และวิตกกังวล การรักษาสิวในปัจจุบันจะมีการใช้ยา และ IFN- γ [10] และสามารถลดจ�านวนเชื้อแบคทีเรีย
[9]
หลายชนิดร่วมกัน เช่น ยาปฏิชีวนะ ยาในกลุ่มฮอร์โมน S. aureus ได้ จากการทบทวนวรรณกรรมจะเห็น
กรดซาลิไซลิก เป็นต้น นอกจากนั้นยังพบการใช้สาร ได้ว่าส่วนที่ใช้เป็นยาของรางจืดคือใบ โดยลักษณะ
จากธรรมชาติมาช่วยในการรักษาสิว เช่น น�้ามันจาก ใบที่น�ามาใช้มีทั้งใช้แบบใบสดและแบบใบแห้งที่น�า
[1]
ต้นทีทรี มาคั้นน�้าหรือต้มน�้า นอกจากนั้นยังมีการใช้เอทานอล
ตามหลักแนวคิดทางการแพทย์แผนไทย การ เป็นตัวท�าละลายที่ใช้ในการสกัด อย่างไรก็ตามยัง
เกิดการอักเสบบริเวณผิวหนัง มีสาเหตุจากกอง ไม่มีรายงานการวิจัยที่เปรียบเทียบฤทธิ์ของใบรางจืด
สมุฏฐานของธาตุไฟก�าเริบจากปัจจัยกระตุ้นทั้งภายใน แบบสดและแบบแห้ง รวมถึงชนิดของตัวท�าละลายที่
และภายนอกร่างกาย เช่น อาหาร อารมณ์ กิมิชาติ (เชื้อ เหมาะสม
โรค) เป็นต้น ท�าให้ความร้อนที่สะสมกระตุ้นธาตุลม การศึกษาในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาฤทธิ์
ให้ก�าเริบกระทบต่อธาตุน�้าและธาตุดินให้ เสียสมดุล ต้านเชื้อแบคทีเรียที่ก่อให้เกิดสิว ฤทธิ์ต้านการอักเสบ
เป็นพิษต่อเลือดและน�้าเหลือง ส่งผลให้ผิวหนังเป็น โดยศึกษาการยับยั้งการหลั่งไนตริกออกไซด์และ
แผล บวม แดง มีผื่น และแสบคัน ดังนั้นรสยาของ ปริมาณสารฟีนอลิกของสารสกัดจากใบรางจืด รวม
[4]