Page 144 - วารสารการแพทย์แผนไทย ปีที่ 21 ฉบับที่ 2
P. 144
360 วารสารการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ ทางเลือก ปีที่ 21 ฉบับที่ 2 พฤษภาคม-สิงหาคม 2566
เลี้ยงลงบนอาหารเลี้ยงเชื้อและบ่มที่อุณหภูมิที่สภาวะ การยับยั้งในแต่ละความเข้มข้นแล้วน�าค่าที่ได้ไปหาค่า
ที่เหมาะสมกับเชื้อดังกล่าวโดยค่าความเข้มข้นต�่าสุดที่ IC 50 โดยผลการทดลองจะถูกแสดงในรูปของค่าเฉลี่ย
ฆ่าเชื้อได้ หรือค่า MBC คือความเข้มข้นต�่าสุดที่ไม่มี ± ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน
การเจริญเติบโตของเชื้อ การทดสอบฤทธิ์ยับยั้งเชื้อจะ 2.4 การตรวจวัดปริมาณสารฟีนอลิก
ใช้ยา clindamycin เป็น positive control เตรียมสารสกัดรางจืดและสารมาตรฐาน gal-
2.3 การทดสอบฤทธิ์ต้านการอักเสบด้วยการ lic acid ที่ความเข้มข้น 1 มิลลิกรัมต่อมิลลิลิตร จาก
ศึกษาผลการยับยั้งการหลั่งไนตริกออกไซด์ [12] นั้นจึงท�าการเจือจางสารสกัดให้มีความเข้มข้น 500
การทดสอบฤทธิ์ต้านการอักเสบจะศึกษาการ ไมโครกรัมต่อมิลลิลิตรด้วยน�้า deionize water
ยับยั้งไนตริกออกไซด์ในเซลล์แมคโครฟาจของหนู ในขณะที่สารมาตรฐาน gallic acid จะถูกเจือจาง
(RAW 264.7) โดยเซลล์จะถูกเพาะเลี้ยงในอาหาร ให้มีความเข้มข้นเท่ากับ 100, 80, 40, 20 และ 5
DMEM ที่มีการเติม 10% FBS, 50 IU/mL เพนนิ- ไมโครกรัมต่อมิลลิลิตร ท�าการปิเปตสารตัวอย่าง
ซิลินและ 50 µg/mL สเตรปโตมัยซิน ท�าการเพาะ และสารมาตรฐานใส่ลงใน 96 well plate ปริมาตร
เลี้ยงในตู้บ่มเซลล์ที่อุณหภูมิ 37˚ซ ที่มีความเข้มข้น 20 ไมโครลิตรต่อหลุม แล้วท�าการเติมสาร Folin-
คาร์บอนไดออกไซด์ 5% จากนั้นน�าไปทดสอบโดยใส่ Ciocalteu’s 100 ไมโครลิตรต่อหลุม และสารละลาย
เซลล์ลงไปในเพลท 96 หลุมที่ความหนาแน่น 1 5 10 5 โซเดียมคาร์บอเนต ความเข้มข้น 0.7 โมลาร์ลงไป 80
เซลล์/หลุม บ่มเป็นเวลา 24 ชั่วโมง จากนั้นดูดอาหาร ไมโครลิตรต่อหลุม จากนั้นท�าการบ่มในที่มืดเป็นเวลา
เก่าออก แล้วท�าการกระตุ้นเซลล์ให้เกิดการอักเสบ 30 นาทีแล้วน�าไปวัดค่าการดูดกลืนแสงที่ 765 นาโน
ด้วยการเติม lipopolysaccharide จากนั้นเติมสาร เมตร ท�าการค�านวณปริมาณสารฟีนอลิกในสารสกัด
สกัดสมุนไพรลงไป บ่มต่อเป็นเวลา 24 ชั่วโมง เมื่อ รางจืดโดยเทียบกับกราฟมาตรฐานของ gallic acid
ครบตามเวลาที่ก�าหนดเซลล์ที่ผ่านการทดสอบกับ และรายงานผลในหน่วย มิลลิกรัมของ gallic acid ต่อ
สารสกัดจะน�าไปตรวจวัดการรอดชีวิตของเซลล์โดย กรัมของสารสกัด โดยสารสกัดทั้งหมดจะถูกทดสอบ
ใช้สาร MTT โดยสารสกัดที่ให้ผลการรอดชีวิตของ ซ�้า 3 ครั้งและผลการทดลองจะถูกแสดงในรูปของค่า
เซลล์ตั้งแต่ 70% ขึ้นไปจะถือว่าไม่มีความเป็นพิษต่อ เฉลี่ย ± ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน
เซลล์ แต่หากสารสกัดใดส่งผลให้มีการรอดชีวิตของ
เซลล์น้อยกว่า 70% สารสกัดนั้นจะไม่ถูกน�ามาตรวจ ผลก�รศึกษ�
วัดปริมาณไนตริกออกไซด์ ในส่วนของการตรวจ
วัดปริมาณไนตริกออกไซด์ให้ท�าการน�าส่วนใสไป 1. ก�รสกัดส�รจ�กใบร�งจืดสดและแห้ง
ตรวจวัดปริมาณไนตริกออกไซด์ โดยใช้สาร Griess จากการน�าใบรางจืดสดและใบรางจืดแห้งมา
reagent แล้วน�าไปวัดค่าการดูดกลืนแสงที่ 570 nm ท�าการสกัดด้วยการต้มน�้าและการแช่สกัดใน 95%
การทดสอบฤทธิ์ยับยั้งการหลั่งไนตริกออกไซด์จะใช้ เอทานอล พบว่าได้สารสกัดทั้งสิ้น 4 ชนิด ได้แก่ สาร
ยา betamethasone เป็น positive control โดยสาร สกัดเอทานอลของใบรางจืดสด (TLFE) สารสกัดน�้า
ทั้งหมดจะถูกทดสอบซ�้า 3 ครั้งแล้วค�านวณค่าร้อยละ ของใบรางจืดสด (TLFW) สารสกัดเอทานอลของใบ