Page 106 - J Trad Med 21-1-2566
P. 106
86 วารสารการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ ทางเลือก ปีที่ 21 ฉบับที่ 1 มกราคม-เมษายน 2566
บทนำ�และวัตถุประสงค์ ผ่าตัด การฉายรังสีรักษาและการให้ยา ทั้งเคมีบ�าบัด
โรคมะเร็งเป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับต้น ๆ ที่เป็นการใช้ยาตรงเป้าหมาย และวิธีการทางภูมิคุ้มกัน
ของคนทั่วโลก องค์การอนามัยโลกรายงานว่ามีผู้ป่วย มะเร็งวิทยาซึ่งการรักษาตามมาตรฐานทางการแพทย์
มะเร็งรายใหม่สูงถึง 18.1 ล้านคน และมีอัตราการเสีย แผนปัจจุบันในประเทศไทยมีประสิทธิผลสูง แต่ต้อง
[1]
ชีวิตจากโรคมะเร็งสูงถึง 9.6 ล้านคน ในปี 2561 ขณะ ใช้องค์ความรู้เทคโนโลยีทางการแพทย์และเวชภัณฑ์มี
ที่สถานการณ์ในประเทศไทยโรคมะเร็งเป็นสาเหตุการ ราคาสูงซึ่งต้องน�าเข้าจากต่างประเทศ และไม่สามารถ
เสียชีวิตอันดับ 1 คิดเป็นร้อยละ 16 ของเหตุการณ์เสีย ตอบสนองความต้องการของประชาชนในการรักษา
ชีวิตทั้งหมดซึ่งสูงกว่าอัตราการเสียชีวิตจากอุบัติเหตุ โรคเรื้อรังได้ครอบคลุมโรคที่ต้องใช้การดูแลรักษา
และโรคหัวใจเฉลี่ย 2-3 เท่า หรือมีอัตราการเสียชีวิต เป็นเวลานาน เช่น โรคมะเร็ง อีกทั้งยังไม่สอดคล้อง
[2]
จากโรคมะเร็งเฉลี่ย 8 รายต่อชั่วโมง จากสถิติชี้ให้ กับขนบธรรมเนียม ความคิด ความเชื่อเกี่ยวกับการ
เห็นว่าอัตราการป่วยและเสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งสูงขึ้น ดูแลสุขภาพของคนไทย ซึ่งแตกต่างไปจากวัฒนธรรม
และคาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ทางการแพทย์แผนปัจจุบัน [6]
โรคมะเร็งเมื่อเป็นแล้วมักพบปัญหาที่ส่งผลต่อ ทั้งนี้การดูแลผู้ป่วยมะเร็งระยะสุดท้ายต้อง
[7]
การด�าเนินชีวิตในทุก ๆ ด้าน ทั้งด้านกาย ได้แก่ การ อาศัยการดูแลแบบองค์รวม (holistic care) ที่
ท�างาน การเดิน การนอนหลับพักผ่อน และการปฏิบัติ ครอบคลุมทั้งกาย จิตใจ ปัญญาและสังคม ซึ่งใน
กิจวัตรประจ�าวัน ด้านจิตใจและอารมณ์ ได้แก่ สภาพ ปัจจุบันมีการบูรณาการการแพทย์แผนไทยกับการ
อารมณ์ ความสนุกสนาน/ความสุขในชีวิต ด้านสังคม แพทย์แผนปัจจุบัน แต่พบว่าการให้บริการดูแล
ได้แก่ สัมพันธภาพกับบุคคลอื่น และด้านจิตวิญญาณ ผู้ป่วยมะเร็งด้วยการแพทย์แผนไทยยังขาดข้อมูล
ได้แก่ การตั้งค�าถามตัวเองเกี่ยวกับความหมายของ ทางวิชาการสนับสนุน ยังต้องการการศึกษาวิจัยเชิง
[8]
[3]
ชีวิต การมีภาวะบีบคั้นทางจิตใจ (spiritual dis- ระบบและรูปแบบการจัดบริการการดูแลแบบประคับ
tress) จากความไม่แน่นอนของโรค และการเผชิญ ประคองที่เหมาะสม จึงศึกษารูปแบบการใช้องค์ความ
ความตายที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ ท�าให้มีความวิตก รู้ทางการแพทย์แผนไทยและสมุนไพรที่ครอบคลุมทั้ง
กังวล ท้อแท้ ซึมเศร้า หมดหวัง กลัวความตาย และ กาย จิตใจ ปัญญาและสังคม โดยการมีส่วนร่วมกับ
[4]
กลัวความพลัดพรากจากครอบครัว ส่งผลให้ช่วง ทีมสหวิชาชีพในการดูแลผู้ป่วยมะเร็งระยะสุดท้าย
สุดท้ายของชีวิตเป็นวาระแห่งความเศร้าโศก รวมทั้ง การศึกษานี้จึงมีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาสถานการณ์
[5]
ยังส่งผลต่อคุณภาพชีวิตของผู้ป่วยและครอบครัว จน พัฒนาและประเมินรูปแบบการดูแลผู้ป่วยมะเร็งระยะ
เป็นปัญหาทางสาธารณสุขที่ส�าคัญโรคหนึ่ง จึงมีความ สุดท้ายด้วยการแพทย์แผนไทยและสมุนไพร
จ�าเป็นอย่างยิ่งที่ต้องหารูปแบบในการเพิ่มคุณภาพ
ชีวิตของผู้ป่วยและครอบครัว และการเสียชีวิตอย่าง ระเบียบวิธีศึกษ�
สมศักดิ์ศรีของความเป็นมนุษย์ การวิจัยครั้งนี้เป็นการศึกษาในรูปแบบการวิจัย
การรักษาตามมาตรฐานทางการแพทย์แผน และพัฒนา (research and development) ของ
ปัจจุบันของโรคมะเร็งมีหลายวิธีด้วยกัน เช่น การ บอร์กและกอลล์ ร่วมกับการบูรณาการกรอบแนวคิด
[9]