Page 153 - วารสารการแพทย์แผนไทย ปีที่ 20 ฉบับที่ 3 กันยายน-ธันวาคม 2565
P. 153

J Thai Trad Alt Med                                    Vol. 20  No. 3  Sep-Dec  2022  567




            พื้นบ้านที่ใช้สมุนไพรในการรักษาเป็นหลัก จะมีการ  หมอพื้นบ้านเกิดจากลมและเลือดในร่างกายไหลเวียน
            ปลุกเสกหรือบริกรรมคาถาเครื่องยาก่อนให้ผู้ป่วยน�า  ไม่สะดวก ใช้ยารสสุขุมร้อนเป็นกลุ่มยาหลักในการ

            ไปต้มหรือรับประทาน เพื่อเป็นแรงเสริมในการรักษา  รักษา เพื่อช่วยในการกระจายลมที่ติดขัด ท�าให้ระบบ
            และเป็นการเสริมก�าลังใจให้ผู้ป่วย           ไหลเวียนโลหิตท�างานได้ดีขึ้น เช่นเดียวกับการศึกษา
                 หมอลินทร์ สิทธิพล มีการตรวจวินิจฉัยโรคจาก  ของเกศริน มณีนูนและคณะ  พบว่า ภูมิปัญญาการ
                                                                              [9]
            การสังเกตอาการและค�าบอกเล่าของผู้ป่วย ร่วมกับ  รักษาโรคโลหิตระดูสตรีของหมอพื้นบ้าน ซึ่งจัดอยู่

            การใช้ยาสมุนไพรเป็นหลักในการรักษากลุ่มโรคเลือด  ในกลุ่มของโรคเลือดโรคลม มีการใช้ยารสประธาน
            โรคลม ซึ่งจ�าแนกได้ 16 โรค/อาการ ได้แก่ โรคเลือด   รสร้อนในการบรรเทาอาการปวดและขับประจ�าเดือน
            (ประจ�าเดือนมาไม่ปกติ) โรคโลหิตจาง ไข้ทับระดู/ระดู  และใช้ยารสประธานรสสุขุม ส�าหรับการบ�ารุงโลหิต

            ทับไข้ ไข้หน้าไฟ/ไข้หลังไฟ โรคลม (อาการวัยทอง) ไข้  และปรับการท�างานของธาตุลมและธาตุไฟ จาก
            เพื่อเลือดเพื่อลม อาการตกขาว ไข้ตานซางในเด็ก ไข้  ข้อมูลข้างต้นแสดงให้เห็นถึงความสอดคล้องทาง

            ดีซ่าน อาการท้องผูก อาการท้องอืด ผื่นเม็ดแผลเปื่อย   ด้านภูมิปัญญาของหมอพื้นบ้านในการวิเคราะห์โรค
            ไฟลามทุ่ง ฟกช�้า หอบหืด และอาการอ่อนล้าจากการ  และการรักษาโรคด้วยสมุนไพร อีกทั้งมุมมองในการ

            ท�างาน โดยสาเหตุการเกิดโรคส่วนมากเกิดจากความ  เกิดโรคเลือดโรคลมตามแนวคิดของหมอพื้นบ้านยัง
            ผิดปกติหรือความไม่สมดุลของเลือดและลมภายใน   มีความสัมพันธ์กัน ถึงแม้จะอยู่ในพื้นที่ต่างกัน ซึ่งชี้

            ร่างกาย ในการรักษามักใช้ต�ารับยาต้มรับประทาน   ให้เห็นถึงรากฐานที่มั่นคงของภูมิปัญญาการแพทย์
            โดยพบต�ารับยาที่ใช้ในการรักษาโรคทั้งหมด 19 ต�ารับ   พื้นบ้านที่ยังคงมีการสืบต่อมาจนถึงปัจจุบัน และเป็น
            จ�าแนกตามชนิดของสมุนไพรได้จ�านวน 69 ชนิด หาก  พื้นฐานส�าคัญของการศึกษาหลักการและองค์ความรู้

            พิจารณาตามรสยาพบว่า รสประธานหลักของสมุนไพร  ทางการแพทย์แผนไทยในระบบการศึกษา

            ส่วนใหญ่เป็นรสร้อนและรสสุขุม ซึ่งภูมิปัญญาการใช้     จากการศึกษาเกี่ยวกับต�ารับยารักษาโรคของ
            ต�ารับยาของหมอลินทร์มีความสอดคล้องกับทฤษฎี  หมอลินทร์ สิทธิพล ทั้งหมด 19 ต�ารับ พบสมุนไพร
            สมุฏฐานการเกิดโรคเลือดโรคลมทางการแพทย์แผน   ที่ใช้ประกอบต�ารับยามากที่สุด คือ ยาด�า เนื้อในฝัก

            ไทยตามคัมภีร์ชวดาร กล่าวคือ เมื่อเลือดหรือโลหิต  ราชพฤกษ์ และแก่นจันทน์ทั้ง 2 พบการใช้ซ�้าจ�านวน
            กระท�าพิษ มักอาศัยก�าลังของลม ท�าให้เกิดความผิด   6 ต�ารับ รองลงมา คือ ใบมะกา และขมิ้นอ้อย พบ

            ปกติของธาตุทั้ง 2 กระทบต่อธาตุอื่นในร่างกาย ดังนั้น   การใช้ซ�้าจ�านวน 5 ต�ารับ และ กระพังโหม โกฐทั้ง
                                              [7]
            การรักษาควรใช้ยารสร้อนเพื่อช่วยในการกระจายลม  5 ข่า ขิง และไพล พบการใช้ซ�้าจ�านวน 4 ต�ารับ เมื่อ

            และโลหิต และรสสุขุมเพื่อควบคุมความร้อนของเลือด  พิจารณาตามสรรพคุณทางเภสัชกรรมไทย พบว่า
            และก�าลังของลมไม่ให้กระท�าโทษ อีกทั้งยังสอดคล้อง  ยาด�า มีสรรพคุณช่วยถ่ายลมเบื้องสูงให้ลงเบื้อง

            กับการศึกษาของสรวิศ เกสรมาศและคณะ  พบว่า    ต�่า ฟอกเสมหะและโลหิต เป็นยาแทรกส�าหรับ
                                              [8]
            กลุ่มโรคลมและโรคเลือดสตรีตามมุมมองของ       กระตุ้นการท�างานของลมในล�าไส้และระบบขับถ่าย [10]
   148   149   150   151   152   153   154   155   156   157   158