Page 149 - วารสารการแพทย์แผนไทย ปีที่ 20 ฉบับที่ 3 กันยายน-ธันวาคม 2565
P. 149
J Thai Trad Alt Med Vol. 20 No. 3 Sep-Dec 2022 563
ตารางที่ 2 ต�ารับยาและสมุนไพรที่ใช้รักษาโรคเลือดโรคลมของหมอลินทร์ สิทธิพล (ต่อ)
ต�ารับยารักษา สรรพคุณ สมุนไพร (ส่วนที่ใช้) ข้อบ่งใช้
6. ไข้เพื่อเลือด ช่วยขับลม จันทน์แดง (แก่น) / จันทน์ขาว (แก่น) / กระพังโหม (ใบ) / ต้มรับประทาน
เพื่อลม กระจายลม มะตูม (ผล) / มะขามป้อม (ผล) ครั้งละ 1 แก้วเป๊ก
ในร่างกาย หรือ 5 ช้อนโต๊ะ
ให้เป็นปกติ วันละ 2 ครั้ง
ก่อนอาหาร เช้า-เย็น
7. ไข้ตานซาง แก้ไข้ จันทน์แดง (แก่น) / จันทน์ขาว (แก่น) / มะลิ (ดอก) / ต้มรับประทาน
ในเด็ก ช่วยให้ขับถ่าย พิกุล (ดอก) / บุนนาค (ดอก) / สารภี (ดอก) / ครั้งละ 2-3 ช้อนชา
ขับลม บัวหลวง (เกสร) / ชะเอมเทศ (ราก) / กะเพราขาว (ทั้งต้น) / วันละ 2 ครั้ง
กะเพราแดง (ทั้งต้น) / ราชพฤกษ์ (เนื้อในฝัก) ก่อนอาหาร เช้า-เย็น
8. ไข้ดีซ่าน แก้ไข้ ขับถ่าย จันทน์แดง (แก่น) / จันทน์ขาว (แก่น) / แกแล (แก่น) / ต้มรับประทาน
ของเสีย กระพังโหม (ใบ) / มะกา (ใบ) / ราชพฤกษ์ (เนื้อในฝัก) / ครั้งละ 2 แก้วเป๊ก หรือ
ออกจาก ยาด�า (ยางแห้งจากใบของพืชในตระกูลว่านหางจระเข้) 10 ช้อนโต้ะ วันละ 2 ครั้ง
ร่างกาย ก่อนอาหาร เช้า-เย็น
9. อาการตกขาว รักษาอาการ ขิง (เหง้า) / ข่า (เหง้า) / ขมิ้นอ้อย (เหง้า) / ต้มรับประทาน
ตกขาว เถาวัลย์เปรียง (เถา) / เเสมสาร (แก่น) / แสมทะเล (แก่น) / ครั้งละครึ่งแก้วเป๊ก หรือ
ขี้เหล็ก (แก่น) / โกฐเชียง (รากใต้ดิน) / โกฐสอ (เหง้า) / ประมาณ 2-3 ช้อนโต๊ะ
โกฐหัวบัว (เหง้า) / โกฐเขมา (เหง้า) / โกฐจุฬาลัมพา วันละ 2 ครั้ง
(ทั้งต้น) / เทียนด�า (เมล็ด) / เทียนแดง (เมล็ด) / ก่อนอาหาร เช้า-เย็น
เทียนขาว (เมล็ด) / เทียนข้าวเปลือก (เมล็ด) /
เทียนตาตั๊กแตน (เมล็ด) / กันเกรา (แก่น)
10. อาการท้องผูก ช่วยให้ขับถ่าย ยาแก้ท้องผูกในผู้ใหญ่ ต้มรับประทาน
ขับลม มะขามแขก (ใบ) / ราชพฤกษ์ (เนื้อในฝัก) / ยาด�า ครึ่งแก้วเป๊ก หรือ
แก้ท้องอืด (ยางแห้งจากใบของพืชในตระกูลว่านหางจระเข้) / ประมาณ 2-3 ช้อนโต้ะ
มะกา (ใบ) / กระพังโหม (ใบ) เมื่อมีอาการ
ช่วยให้ขับถ่าย ยาแก้ท้องผูกในเด็ก เอาสมุนไพรมาต�าผสมกัน
ผายลมในเด็ก มะขาม (ใบ) / ยาด�า (ยางแห้งจากใบของพืชในตระกูล น�าไปวางพอก ไว้บน
ว่านหางจระเข้) กระหม่อมเด็ก โดยมีผ้ารอง
ไว้ หลังพอกยาเสร็จ
ให้หยดน�้าลงบนผ้าให้เปียก
แล้วค่อย ๆ ลอกออก เพราะ
หนังศีรษะตรงกระหม่อม
ของเด็ก ค่อนข้างบอบบาง