Page 140 - วารสารกรมการแพทย์แผนไทยฯ ปีที่ 20 ฉบับที่ 1
P. 140
120 วารสารการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ ทางเลือก ปีที่ 20 ฉบับที่ 1 มกราคม-เมษายน 2565
ถึง 59 ชนิด พืชน�้ามีสารอาหารที่จ�าเป็นต่อร่างกาย แบคทีเรียแกรมลบ Escherichia coli ซึ่งเป็นเชื้อ
[2]
สูง โดยเฉพาะวิตามิน เกลือแร่และเส้นใย และยังมี ก่อโรคอาหารเป็นพิษ ที่พบการปนเปื้อนเป็นอันดับ
สารทุติยภูมิอยู่ในปริมาณมาก ซึ่งสารเหล่านี้มีฤทธิ์ หนึ่งในอาหาร น�้าดื่มจากการส�ารวจในเขตสุขภาพที่
ทางชีวภาพที่ส�าคัญที่เป็นประโยชน์กับมนุษย์ ไม่ว่า 2 มะเขือพวง ยับยั้ง Salmonella typhimurium
[8]
[9]
จะเป็นฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ ฤทธิ์ต้านการอักเสบ ฤทธิ์ สาเหตุของโรคในระบบทางเดินอาหาร ล�าไส้อักเสบ
ต้านเชื้อจุลชีพก่อโรค เป็นต้น มีรายงานการศึกษาฤทธิ์ สารสกัดมะรุม ยับยั้งเชื้อ Staphylococcus pyo-
[10]
ต้านแบคทีเรียและองค์ประกอบทางเคมีของพืชน�้าใน genes ซึ่งเป็นแบคทีเรียแกรมบวก เป็นสาเหตุหลัก
ประเทศอินเดีย 5 ชนิด คือ Ludwigia adscendens, ของการเกิดอาการเจ็บคอ ท�าให้เกิดทอนซิลอักเสบ
Polygonum glabrum, Nagas marina, Hygraphila มีไข้สูง มีโอกาสที่จะพัฒนาไปเป็นไข้รูมาติกและไต
auriculata และ Lemna gibba ต่อเชื้อ Bacillus อักเสบเฉียบพลันได้ สารสกัดจากเปลือกไม้โกงกาง
[11]
subtilis, Bacillus cereus, Staphylococcus ยับยั้งแบคทีเรียแกรมบวก Streptococcus pneu-
aureus และ Proteus vulgaris โดยการสกัดส่วน moniae ซึ่งเป็นเชื้อฉวยโอกาส ก่อให้เกิดโรคติด
ต่าง ๆ ของพืชด้วยตัวท�าละลายหลายชนิด พบว่า เชื้อในระบบทางเดินหายใจ และสารสกัดมะหาด
[12]
เมทานอลเป็นตัวท�าละลายที่ดีที่สุด ได้สารสกัดที่มีฤทธิ์ ยับยั้ง Staphylococcus aureus สาเหตุของการ
ต้านแบคทีเรียสูงต่อแบคทีเรียหลายชนิด สารสกัด ติดเชื้อที่ผิวหนัง ก่อโรคอาหารเป็นพิษ มีรายงานที่
น�้าจากใบของ P. glabrum มีองค์ประกอบแทนนิน บ่งชี้ว่าพืชน�้ามีศักยภาพในการเป็นแหล่งของยาต้าน
ฟีโนลิก และอัลคาลอยด์ ส่วนสารสกัดเมทานอลของ แบคทีเรียที่ดีได้ ได้แก่ แพงพวยน�้า เปลือกและใบ
[13]
ล�าต้นและดอกของ H. auriculata มีอัลคาลอยด์ ต้นหัวลิง (Sarcolobus globosus) ซึ่งเป็นพืชน�้าใน
[3]
นอกจากนั้นมีรายงานถึงฤทธิ์ต้านออกซิเดชันของบัวสาย ป่าชายเลน พบว่าสารสกัดสามารถต้านเชื้อแบคทีเรีย
ซึ่งมีศักยภาพในการน�าไปใช้ในอุตสาหกรรมเครื่อง แกรมบวก (S. aureus) และแบคทีเรียแกรมลบได้
ส�าอาง พืชน�้าจึงนับได้ว่าเป็นแหล่งของวัตถุดิบใน (E. coli) แต่อย่างไรก็ตามการจะใช้ประโยชน์จาก
[4]
[14]
ธรรมชาติที่มีคุณค่า ในการที่จะน�ามาใช้บริโภค หรือ พืชน�้านั้น ยังมีข้อจ�ากัดเนื่องจากการศึกษาเกี่ยวกับ
สกัดสารหยาบ หรือ แม้กระทั่งเป็นแหล่งวัตถุดิบ ชนิดของสารออกฤทธิ์ รวมถึงฤทธิ์ทางชีวภาพในพืช
ในการผลิตสารเคมีที่มีฤทธิ์สูง ที่จะสามารถน�ามา น�้านั้น มีการศึกษาอยู่อย่างจ�ากัดเพียงพืชไม่กี่ชนิด
พัฒนาเป็นยารักษาโรค หรือใช้เป็นส่วนประกอบใน ส่วนใหญ่จะศึกษาพืชน�้าเดี่ยว ไม่ได้มีการเปรียบเทียบ
ผลิตภัณฑ์ทางด้านสุขภาพต่าง ๆ ได้ พืชหลายชนิดอย่างเป็นระบบ และ พื้นที่ในการศึกษา
ปัจจุบันพบว่าเชื้อแบคทีเรียดื้อต่อยาปฏิชีวนะ พืชน�้านั้นยังไม่หลากหลาย มีการศึกษาในพื้นที่บาง
เพิ่มขึ้น ท�าให้ต้องเร่งหาสารชนิดใหม่จากธรรมชาติ แห่งเท่านั้น
[5]
เพื่อน�ามาพัฒนาเป็นยาก�าจัดเชื้อแบคทีเรียก่อโรค การศึกษานี้จึงมีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาฤทธิ์
ทดแทนยาเดิมที่เชื้อดื้อไปแล้ว มีรายงานสารสกัด ต้านเชื้อแบคทีเรียก่อโรคในคน ของสารสกัดหยาบที่
จากพืชหลากหลายชนิดที่มีฤทธิ์ต้านเชื้อแบคทีเรียก่อ ได้จากพืชน�้าในจังหวัดพิษณุโลก จ�านวน 12 ชนิด
โรคในมนุษย์ สารสกัดจากกานพลู มีฤทธิ์ยับยั้ง
[7]
[6]