Page 153 - วารสารกรมการแพทย์แผนไทยฯ ปีที่ 18 ฉบับที่ 2
P. 153

J Thai Trad Alt Med                                   Vol. 18  No. 2  May-Aug  2020  375




            และเชิงคุณภาพ กล่าวคือ เชิงปริมาณใช้การสำารวจ  ลักษณะแบบสอบถามความรู้เป็นแบบเลือกตอบ ถูก
            โดยใช้แบบสอบถาม เชิงคุณภาพใช้กระบวนการ      ผิด ลักษณะแบบสอบถามเป็นมาตราส่วนประมาณ

            อภิปรายกลุ่มและการสัมมนาเชิงปฏิบัติการแบบมี   ค่า (rating scale) 2 ระดับ แบบสอบถามแต่ละ
            ส่วนร่วม แบ่งออกเป็น 2 ระยะ ดังนี้          ข้อมีคะแนนตั้งแต่ 0-1 คะแนน การแปลผล ระดับ
                 ระยะที่ 1 การสำารวจระดับความรู้และความ  ความรู้ดี คะแนนตั้งแต่ร้อยละ 80-100 ระดับความรู้

            ต้องการเสริมสร้างสุขภาพผู้สูงอายุด้วยภูมิปัญญาพื้น  ปานกลาง คะแนนตั้งแต่ร้อยละ 60-79 และระดับ
                                                               ่
            บ้านล้านนา ใช้วิธีการศึกษาวิจัยแบบภาคตัดขวาง ณ   ความรู้ตำา คะแนนน้อยกว่าร้อยละ 60 แบบสอบถาม
            เวลาใดเวลาหนึ่ง ตามขั้นตอน ดังนี้           มีค่าความเที่ยงจากการวิเคราะห์โดยวิธี KR ได้ค่า
                                                                                          21
                 ประชากรและกลุ่มตัวอย่าง เชิงปริมาณ การ  เฉลี่ยความเที่ยงเท่ากับ 0.81
                                                                             [8]
            คำานวณขนาดตัวอย่างใช้วิธีการคำานวณขนาดตัวอย่าง     ส่วนที่ 3 แบบสอบถามระดับความต้องการ
                                            [7]
            จากตารางเลขสุ่มของ Krejcie & Morgan  ได้ขนาด  การสร้างเสริมสุขภาพผู้สูงอายุด้วยภูมิปัญญา
            กลุ่มตัวอย่าง จำานวน 269 ครัวเรือน จากประชากร  พื้นบ้านล้านนา ลักษณะแบบสอบถามเป็นมาตราส่วน
                                                                                   [9]
            จำานวน 873 ครัวเรือน และคัดเลือกกลุ่มตัวอย่างใน  ประมาณค่า (rating scale) 3 ระดับ  การให้คะแนน
            ระดับหมู่บ้าน ร้อยละ 30 โดยวิธีการสุ่มอย่างง่าย   1.00-3.00 คะแนน การแปลผล 1.00-1.67 หมาย
                 เชิงคุณภาพ กลุ่มตัวอย่าง จำานวน 12 คน ได้แก่   ถึง ผู้สูงอายุมีความต้องการใช้ภูมิปัญญาพื้นบ้าน
            ตัวแทนผู้นำาชุมชน จำานวน 1 คน ตัวแทนพระสงฆ์   ล้านนาเพื่อการสร้างเสริมสุขภาพในระดับน้อย 1.68-

            จำานวน 1 รูป ตัวแทนจากองค์การบริหารส่วนตำาบล  2.32 หมายถึง ผู้สูงอายุมีความต้องการใช้ภูมิปัญญา
            สะลวง จำานวน 1 คน ตัวแทนประชาชนจำานวน 2 คน   พื้นบ้านล้านนาเพื่อการสร้างเสริมสุขภาพในระดับ

            ตัวแทนผู้สูงอายุ จำานวน 6 คน และตัวแทนจากนัก  ปานกลาง 2.33–3.00 หมายถึง ผู้สูงอายุมีความ
            วิชาการ จำานวน 1 คน                         ต้องการใช้ภูมิปัญญาพื้นบ้านล้านนาเพื่อการสร้าง
                                                        เสริมสุขภาพในระดับระดับมาก ทั้งนี้แบบสอบถาม
            เครื่องมือในก�รวิจัย                        ส่วนความต้องการมีค่าความเที่ยงเท่ากับ 0.78 [10]

                 การศึกษาเชิงปริมาณ เครื่องมือเป็นแบบสอบถาม
            ประกอบด้วย                                  ก�รวิเคร�ะห์ข้อมูล

                 ส่วนที่ 1 เป็นแบบสอบถามเกี่ยวกับข้อมูลทั่วไป     ข้อมูลปัจจัยส่วนบุคคลของผู้สูงอายุ ความรู้
            ของกลุ่มตัวอย่าง ซึ่งคณะผู้วิจัยได้ใช้ข้อมูลจากการ  และความต้องการใช้ภูมิปัญญาพื้นบ้านล้านนาเพื่อ
            ทบทวนวรรณกรรม และงานวิจัยที่เกี่ยวข้องนำามา   การสร้างเสริมสุขภาพ วิเคราะห์โดยสถิติเชิงพรรณนา

            สร้างแบบสอบถาม                              (descriptive statistics)
                  ส่วนที่ 2 ความรู้เกี่ยวกับการสร้างเสริมสุขภาพ     การศึกษาเชิงคุณภาพ เครื่องมือเป็นแบบ

            ผู้สูงอายุด้วยภูมิปัญญาพื้นบ้านล้านนาครอบคลุมการ  บันทึกประเด็นในการสนทนากลุ่มเกี่ยวกับความรู้
            สร้างเสริมสุขภาพกาย การสร้างเสริมสุขภาพจิต การ  ความต้องการ และปัจจัยเงื่อนไขที่เกี่ยวข้องกับการ
            ใช้สมุนไพรพื้นบ้าน และการบริโภคอาหารพื้นบ้าน   สร้างเสริมสุขภาพผู้สูงอายุด้วยภูมิปัญญาพื้นบ้าน
   148   149   150   151   152   153   154   155   156   157   158