Page 89 - วารสารกรมการแพทย์แผนไทยฯ ปีที่ 17 ฉบับที่ 3
P. 89

J Thai Trad Alt Med                                    Vol. 17  No. 3  Sep-Dec 2019  439




            ภายนอก โรคหนองใน และโรคผิวหนังต่าง ๆ [6-7]  มะเร็งที่เพาะเลี้ยงในหลอดทดลองได้หลายชนิด เช่น
                 เมื่อศึกษาฤทธิ์ทางชีวภาพของพืชสกุล Dip-  corosolic acid สามารถยับยั้งเซลล์มะเร็งตับ HepG2

            terocarpus พบว่าสารสกัดของใบและกิ่งของ D.   และเซลล์มะเร็งในระบบทางเดินอาหาร SNU-1 ได้
            tuberculatus สามารถยับยั้งการทำางานของ NF-κB   ส่วน betulonic acid สามารถยับยั้งเซลล์ HepG2
            และลดการ phosphorylation ของเอนไซม์ IKK     อีกทั้ง cinnamic acid สามารถยับยั้งเซลล์ P-388

                                              [3]
            และ Akt ซึ่งนำาไปสู่การยับยั้งการอักเสบได้  อีกทั้ง   รวมไปถึง dipterocarpol สามารถยับยั้งเซลล์มะเร็ง
            α-viniferin ที่แยกได้จาก D. verrucosus มีฤทธิ์  ผิวหนัง KB ได้ดี [2,12-13]  และเมื่อศึกษาฤทธิ์ต้านมะเร็ง
            ต้านอนุมูลอิสระสูงถึงร้อยละ 86.5 เมื่อทดสอบด้วย  ของสารสำาคัญที่พบในพืชสกุล Dipterocarpus ใน

            วิธี Thiobarbituric acid method นอกจากนี้สาร  กลไกการเหนี่ยวนำาการตายของเซลล์มะเร็งแบบ
            ดังกล่าวยังสามารถยับยั้งเชื้อแบคทีเรีย Staphylo-  อะพอพโทซิส พบว่าสารสำาคัญบางตัวอาทิ asiatic
            coccus aeureus, Salmonella paratyphi และ    acid, betulonic acid และ β-sitosterol สามารถ

                                                   [8]
            Escherichia coli ได้ดีเมื่อเทียบกับ streptomycin    เหนี่ยวนำาการตายแบบอะพอพโทซิสของเซลล์มะเร็ง
            และยังมีการศึกษาฤทธิ์ยับยั้งเอนไซม์ acetylcho-  ผ่านกลไก intrinsic pathway [14-16]  และ α-viniferin

            linesterase ที่เกี่ยวข้องกับโรคอัลไซเมอร์ โดยพบว่า   ก็เหนี่ยวนำาการตายของเซลล์มะเร็งเม็ดเลือดขาว
            dipterocarpol A และ hopeahainol A จากเนื้อไม้  K562 ผ่านกลไก intrinsic pathway ได้เช่นกัน [17]
            ของยางนาสามารถยับยั้งเอนไซม์ดังกล่าวได้ดีด้วยค่า   จะเห็นว่าในแต่ละส่วนของพืชสกุลยางมีรายงาน

                                      [9]
            IC  8.3 และ 11.3 µM ตามลำาดับ  สำาหรับการศึกษา  ฤทธิ์ทางชีวภาพและองค์ประกอบทางเคมีที่แตกต่าง
              50
            ฤทธิ์ต้านมะเร็งของสารสกัดเปลือกและใบของ D.   กัน เป็นผลให้มีการแสดงฤทธิ์ หรือความแรงที่
            turbinatus พบว่าสามารถยับยั้งเซลล์มะเร็งเต้านมที่  แตกต่างกันไป แต่ยังมีรายงานการศึกษาสำาหรับต้น
            เพาะเลี้ยงในหลอดทดลอง คือ เซลล์ MDA-MB-231   ยางนา ซึ่งเป็นพืชในพระราชดำาริอันดับที่ 9 น้อย และ
            ด้วยค่า IC  0.27 และ 0.008 mg/ml ตามลำาดับ    เพื่อเป็นการส่งเสริมและเพิ่มมูลค่าของพืชอันเนื่องมา
                                                  [10]
                     50
            องค์ประกอบทางเคมีของพืชสกุลยางพบสารสำาคัญ   จากพระราชดำาริ พืชอันดับที่ 9 ดังนั้นในการศึกษานี้
            หลายชนิด เช่น sesquiterpenes, triterpenes,   จึงมีจุดมุ่งหมายเพื่อทดสอบฤทธิ์ต้านมะเร็งและฤทธิ์
                                                   [2]
            flavonoids และ resveratrol (oligostilbenoids)    ต้านเชื้อราของสารสกัดยางนาจากส่วน ใบ เปลือก
            จากการศึกษาที่มีรายงานมาก่อนว่าพบ เปลือกของ D.   และกิ่ง รวมถึงศึกษาองค์ประกอบจำาพวกสารกลุ่ม
            hasseltii, D. intricatus, D. confertus, D. retusus   ฟีนอลิกด้วยเทคนิค HPLC
            และ D. elongates มีสารออกฤทธิ์ทางชีวภาพใน

            กลุ่ม oligostilbenoids ที่สามารถยับยั้งเซลล์มะเร็ง      ระเบียบวิธีศึกษ�
            ที่เพาะเลี้ยงในหลอดทดลองคือ murine leukaemia

            P-388  และสารสกัดจากลำาต้นของ D. obtusifolius   1. ก�รเตรียมและก�รสกัดตัวอย่�ง
                 [11]
                                     ้
            เปลือกของ D. confertus และนำายางของ D. alatus      ใบ เปลือก และกิ่งของต้นยางนาเก็บใน
            พบสารในกลุ่ม triterpenes ที่มีสารออกฤทธิ์ต้าน  มหาวิทยาลัยขอนแก่นในช่วงเดือนมิถุนายน พ.ศ.
   84   85   86   87   88   89   90   91   92   93   94