Page 90 - วารสารกรมการแพทย์แผนไทยฯ ปีที่ 17 ฉบับที่ 3
P. 90

440 วารสารการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ ทางเลือก       ปีที่ 17  ฉบับที่ 3  กันยายน-ธันวาคม 2562




           2557 ซึ่งตัวอย่างยางนา (No. PSKKF03682) ถูก  red ความเข้มข้น 50 µg/ml แล้วบ่มอีก 2 ชั่วโมง เมื่อ
           นำามาตรวจสอบลักษณะทางพฤกษศาสตร์โดย รศ.      ครบเวลา 2 ชั่วโมง ล้างเซลล์และเติม 0.33% HCl ใน

           ศุภชัย ติยวรนันท์ สาขาวิชาเภสัชเวทและพิษวิทยา   isopropanol นำาไปวัดค่าการดูดกลืนแสงที่ 537 nm
           คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น และเก็บ   และความยาวคลื่นอ้างอิงที่ 650 nm และคำานวณเป็น
           ตัวอย่างยางนาไว้ในห้องปฏิบัติการเภสัชเวทและ   ค่า IC  [18]
                                                           50
           พิษวิทยา คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น
           และในการเตรียมสารสกัดเริ่มโดยนำาส่วนต่าง ๆ ของ  3. ก�รทดสอบฤทธิ์ต้�นเชื้อร�
           ยางนามาทำาความสะอาด แล้วบดให้ละเอียด จากนั้น     3.1 การเพาะเลี้ยงเซลล์

           นำาไปแช่สกัดด้วยเมทานอล เป็นเวลา 24 ชั่วโมง แล้ว     การทดลองนี้แบ่งเชื้อทั้งหมด 2 กลุ่มคือเชื้อ
           นำาสารละลายที่ได้ไปกรองและระเหยแห้งตัวทำาละลาย  ราก่อโรคกลากได้แก่ Trichophyton mentag-
           ด้วยเครื่องระเหยแบบสูญญากาศ แล้วนำาไปทำาให้เป็น  rophytes ATCC9533, Trichophyton rubrum

           ผงแห้งด้วยเครื่องทำาแห้งแบบแช่เยือกแข็ง     ATCC MYA4438, Microsporum gypseum
                                                       ATCC MYA4604 และ Epidermophyton floc-
           2. ก�รทดสอบฤทธิ์ต้�นมะเร็ง                  cosum ATCC15694 เพาะเลี้ยงเชื้อรา T. mentag-

                2.1 การเพาะเลี้ยงเซลล์                 rophytes ในอาหาร potato dextrose broth (PDB)
                เซลล์ Human hepatocellular carcinoma   บ่มที่อุณหภูมิ 28  C เป็นเวลา 7 วัน เพาะเลี้ยงเชื้อ
                                                                     °
           (HepG2) เซลล์ cervical adenocarcinoma (HeLa)   รา T. rubrum, M. gypseum และ E. floccosum
           และ เซลล์ African green monkey kidney (Vero)   ในอาหาร Sabourad dextrose broth (SDB) บ่มที่

           จะถูกเพาะเลี้ยงในอาหาร DMEM ที่มีการเติม 10%   อุณหภูมิ 28  C เป็นเวลา 5 วัน และกลุ่มเชื้อราก่อ
                                                                 °
           fetal bovine serum (FBS) และเซลล์ human     รังแค ได้แก่ Malassezia furfur ATCC14521 เพาะ
           acute T cells leukemia cells line (Jurkat) จะ  เลี้ยงเชื้อราใน modified Dixon’s broth (MDB) บ่ม

           ถูกเพาะเลี้ยงในอาหาร RPMI ที่มีการเติม 10% fetal   ที่อุณหภูมิ 28  C เป็นเวลา 2 วัน
                                                                  °
           bovine serum (FBS) โดยทุกเซลล์จะถูกเพาะเลี้ยง     3.2 การทดสอบฤทธิ์ต้านเชื้อรา
           ในตู้เพาะเลี้ยงเซลล์ด้วยอุณหภูมิ 37 C ที่มีก๊าซ     การทดสอบฤทธิ์ต้านเชื้อราก่อโรคกลากด้วยวิธี
                                          °
           คาร์บอนไดออกไซด์ความเข้มข้น 5%              broth macrodilution (โดยทดสอบในหลอดทดลอง
                2.2 การทดสอบความเป็นพิษในเซลล์มะเร็ง   ปริมาตรรวม 2 มิลลิลิตร/หลอดทดลอง) และทดสอบ
                การศึกษาความเป็นพิษของเซลล์ใช้วิธี Neutral   ฤทธิ์ต้านเชื้อราก่อรังแคด้วยวิธี broth microdilution

           red uptake assay โดยนำาเซลล์มาเพาะเลี้ยงในถาด  (โดยทดสอบในถาดหลุดชนิด 96 หลุม ปริมาตรรวม
           หลุมชนิด 96 หลุม (96 well plate) เป็นเวลา 24   200 ไมโครลิตร/หลุม) เริ่มจากการเตรียมสารแขวน
                                                                     ้
           ชั่วโมง แล้วเซลล์จะถูกทดสอบด้วยการเติมสารสกัด  ตะกอนเชื้อราในนำาปราศจากเชื้อให้มีความขุ่นเท่ากับ
           ความเข้มข้นต่าง ๆ คือ 10-500 µg/ml บ่มต่อเป็น  McFarland No. 0.5 แล้วนำาสารแขวนตะกอนที่ได้
           เวลา 24 ชั่วโมง จากนั้นล้างเซลล์และเติม neutral   มาผสมกับอาหารเลี้ยงเชื้อราที่เหมาะสมให้มีปริมาณ
   85   86   87   88   89   90   91   92   93   94   95