Page 153 - journal-14-proceeding
P. 153

บทคัดยอประกวดผลงานวิชาการประจําปการแพทยแผนไทย การแพทยพื้นบาน และการแพทยทางเลือกแหงชาติ ครั้งที่ 14


                                   PP60G0028G        การทดสอบประสิทธิภาพเบื้องตนของสารสกัดจากลูกขี้กาใน

                                   การยับยั้งแบคทีเรียกอโรคบางชนิด


                                      2
                         1
               นูรีฮัน มะแซ สายใจ วัฒนเสน
               1
                โรงพยาบาลเบตง อําเภอเบตง จังหวัดยะลา 95110
               2 โปรแกรมวิชาชีววิทยาและชีววิทยาประยุกต คณะวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยราชภัฏสงขลา

               หลักการและเหตุผล ในปจจุบันการนําสารสกัดจากธรรมชาติมาใชประโยชนในการผลิตเครื่องสําอางไดรับความนิยม

               จากผูใชเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากการพัฒนาของเทคโนโลยีอุตสาหกรรมเครื่องสําอาง ซึ่งไดพัฒนาเปนที่ยอมรับทั้งในและ
               ตางประเทศ ทั่งยังเปนอีกหนึ่งทางเลือกสําหรับผูที่รักสุขภาพ ที่หลีกเลี่ยงการใชสารเคมีที่อาจกอปญหาสุขภาพ
               เพิ่มขึ้นตามลําดับ ไดแกการกอใหเกิดการระคายเคืองหรือแพสารเคมี ทําใหมีการหันกลับ มาสนใจธรรมชาติและสิ่งที่
               เปนธรรมชาติมากขึ้น โดยขี้กาแดง (Gymnopetalum integrifolim Kurz.) เปนสมุนไพรจากธรรมชาติอีกชนิดหนึ่งที่
               มีสรรพคุณหลากหลาย โดยเนื้อและเมล็ดของผลขี้กาแดง พบสารสําคัญ 3 ชนิดที่ไดจากการแยกและสามารถหาสูตร
               โครงสรางไดคือ ของผสมกรดคารบอกซิลิกโซตรงยาว, ของผสม (...)-sito-sterol-3-O-(...)-D-glucopyranoside และ
               stigmasterol-3-O-(...)-D-glucopyranoside  สําหรับสารที่เหลืออีกหนึ่งชนิดนั้นยังไมสามารถหาสูตรโครงสรางได
               ซึ่งหนึ่งในสารสําคัญดังกลาวเปนสารประกอบของกรดที่สามารถพบเจอในครีมที่ใชรักษาสนเทาแตกได ดวยเหตุนี้ ทํา
               ใหผูวิจัยสนใจที่จะพัฒนาสารจากผลขี้กาแดงมาเปนสารใหความชุมชื้นแกผิว


               วัตถุประสงค เพื่อศึกษาประสิทธิภาพการใชสารสกัดผลขี้กาแดงในการยับยั้งเชื้อแบคทีเรียทั้งแกรมลบคือ
               Escherichia coli Salmonella Typhimurium   และแกรมบวกคือ Staphylococcus aureus

               วิธีดําเนินงาน  นําแบคทีเรียกอโรคระบบทางเดินอาหาร 3 ชนิดไดแก Escherichia coli  Staphylococcus
               aureus และ Salmonella Typhimurium  มาเลี้ยงใหเปนเชื้อบริสุทธิ์บนอาหารแข็ง จากนั้นนําเชื้อบริสุทธิ์ของแต
               ละชนิด 2-3 โคโลนี มาเลี้ยงในอาหารเหลว nutrient broth  นําไปบมที่อุณหภูมิ 37 องศาเซลเซียส ดวยอัตราการ
               เขยาที่ความเร็วรอบ 150 รอบตอนาที เปนเวลา 24 ชั่วโมง นําไปปรับความขุนใหได 0.5 McFarland  จากนั้นใชไม

               พันสําลีที่ปราศจากเชื้อจุมเชื้อแบคทีเรียที่ตองการบิดใหแหงพอหมาด ๆ กับขางหลอด จากนั้นนําไปเกลี่ย (swab) ให
               ทั่วผิวหนาอาหาร nutrient agar  ทิ้งไวใหผิวหนาอาหารแหงประมาณ 3-5 นาที  นํากระดาษกรองวงกลม (disc)
               ขนาดเสนผานศูนยกลาง 6 มิลลิเมตร ที่ผานการฆาเชื้อแลวมาหยดตัวอยางสารสกัดปริมาตร 10  ไมโครลิตรตอ disc
               ทิ้งไวใหแหงที่อุณหภูมิหอง จากนั้นนําแผน disc ที่ไดไปทดสอบประสิทธิภาพของสารสกัดในการยับยั้งแบคทีเรีย โดย
               นําแผน disc ของสารสกัดที่ได มาวางลงบนผิวหนาอาหารที่ทําการเกลี่ยเชื้อแบคทีเรียทดสอบไวแลวขางตนกดเบา ๆ
               เพื่อใหติดกับผิวหนาอาหาร จากนั้นนําไปบมไวที่อุณหภูมิ 37 องศาเซลเซียส เปนเวลา 24 ชั่วโมง ตรวจผลการ
               ทดสอบโดยวัดบริเวณสวนใสนํามาคํานวณหาบริเวณการยับยั้ง (inhibition zone) จากสูตร inhibition zone = เสน
               ผานศูนยกลางของโซน disc และโซนใส – เสนผานศูนยกลางของแผน disc


               ผลการศึกษา  จากการทดสอบฤทธิ์ของสารสกัดจากลูกขี้กาในการยับยั้งการเจริญของแบคทีเรียเบื้องตนพบวาที่
               ตัวอยางสารสกัดปริมาตร 10  ไมโครลิตรตอ disc  สามารถยับยั้งการเจริญของเชื้อที่ทดสอบไดทุกชนิดโดยสามารถ
               ยับยั้งการเจริญของเชื้อ Salmonella  Typhimurium  ไดดีที่สุดโดยมีบริเวณการยับยั้งเทากับ 2.54 มิลลิเมตร
               รองลงมาไดแก เชื้อ Escherichia coli   และเชื้อ Staphylococcus aureus  ซึ่งมีบริเวณการยับยั้งเทากับ 2.17
               มิลลิเมตร และ 1.84 มิลลิเมตร ตามลําดับ




                                                         151
   148   149   150   151   152   153   154   155   156