Page 73 - J Trad Med 21-1-2566
P. 73

J Thai Trad Alt Med                                    Vol. 21  No. 1  Jan-Apr  2023  53




                           อภิปร�ยผล                    ขณะที่การตรวจพิสัยการเคลื่อนไหวของคอ พบการ
                 กลุ่มผู้เข้าร่วมวิจัยที่โหนกแก้มข้างที่เป็นโรค  จ�ากัดการเคลื่อนไหวท่า extension และ lateral

            สูงกว่าข้างปกติเมื่อเงยหน้ามองเพดาน สัมพันธ์กับ  bending ในผู้เข้าร่วมวิจัยบางรายของกลุ่มนี้ ผลดัง
            ค่าเฉลี่ยองศาการเงยหน้าสูงกว่าข้างปกติจากการ  กล่าวสอดคล้องกับการวินิจฉัย secondary myofas-
            วัดมุมด้วยเครื่องมือวัดมุม แต่ผลการตรวจทางรังสี  cial pain ซึ่งผู้ป่วยจะมีพยาธิสภาพทางกล้ามเนื้อร่วม

            วินิจฉัยไม่สอดคล้องตามทฤษฎีทางหัตถเวชกรรม   กับ cervical spondylosis [19-20,32-37]  ซึ่งสัมพันธ์กับการ
            ไทย เนื่องจากตรวจไม่พบหินปูนเกาะกระดูกคอในผู้  ศึกษาของ Chen และคณะที่ได้วินิจฉัยผู้เข้าร่วมวิจัยที่

            เข้าร่วมวิจัยกลุ่มนี้ ขณะที่กลุ่มผู้เข้าร่วมวิจัยที่โหนก  มีอาการปวดหลังตอนล่างเรื้อรัง (n = 126) ด้วยกลุ่ม
            แก้มข้างที่เป็นโรคต�่ากว่าข้างปกติเมื่อเงยหน้ามอง  อาการ secondary myofascial pain syndrome
            เพดานสัมพันธ์กับค่าเฉลี่ยองศาการเงยหน้าต�่ากว่า  (ร้อยละ 81.3) โดยพบความเสี่ยงสูงเป็นเพศหญิงแต่

            ข้างปกติจากการวัดมุมด้วยเครื่องมือวัดมุม แต่ผล  ไม่สัมพันธ์กับดัชนีมวลกาย การประกอบอาชีพและ
            การตรวจทางรังสีวินิจฉัยไม่สอดคล้องตามทฤษฎีทาง  ช่วงเวลาของอาการปวด [38]

            หัตถเวชกรรมไทย เนื่องจากข้างที่เป็นโรคตรวจไม่พบ     ผลการตรวจทางรังสีวินิจฉัยพบความสูงของ
            ภาวะกระดูกคอทรุดในผู้เข้าร่วมวิจัยกลุ่มนี้เช่นกัน  ปล้องกระดูกสันหลังสมมาตรกันทุกราย (ร้อยละ
                 การตรวจทางรังสีวินิจฉัยพบพยาธิสภาพ     100) แม้การตรวจด้วยการสังเกตองศาการเงยหน้า

            ของกระดูกคอในผู้เข้าร่วมวิจัยผู้ป่วยโรคลมปลาย  จะพบโหนกแก้มข้างที่เป็นโรคสูงหรือต�่ากว่าข้างปกติ
            ปัตฆาตสัญญาณ 4 หลัง จ�านวน 167 ราย (ร้อยละ   ซึ่งสอดคล้องกับการวัดองศาด้วยเครื่องมือวัดมุมที่
            91.25) ขณะที่ผลทดสอบวินิจฉัยพบค่าความไว และ  พบค่าเฉลี่ยองศาการเงยหน้าระหว่างข้างที่เป็นโรคสูง

            ค่าความแม่นย�า ร้อยละ 91.25 แสดงให้เห็นว่าผู้เข้า  หรือต�่ากว่าข้างปกติ จึงสรุปได้ว่าความแตกต่างของ
            ร่วมวิจัยที่ตรวจพบโหนกแก้มข้างที่เป็นโรคสูงหรือ  ระดับโหนกแก้มขณะเงยหน้าไม่สัมพันธ์กับความสูง
            ต�่ากว่าข้างปกติด้วยการสังเกตซึ่งสัมพันธ์กับค่าเฉลี่ย  ของปล้องกระดูกสันหลัง เนื่องจากการตรวจทางรังสี

            องศาการเงยหน้าสูงหรือต�่ากว่าข้างปกติจากการวัด  วินิจฉัยพบความสูงของปล้องกระดูกสันหลังสมมาตร
            มุมด้วยเครื่องมือวัดมุมนั้น สอดคล้องกับการตรวจ  กัน สอดคล้องกับหนังสือและต�าราทางหัตถเวชกรรม

            พบพยาธิสภาพของกระดูกคอจากภาวะความผิด        ไทยที่ระบุต�าแหน่งพยาธิสภาพของโรคลมปลาย
            ปกติต่าง ๆ เช่น degenerative change of cervical   ปัตฆาตที่มัดกล้ามเนื้อ เส้นเอ็น เยื่อหุ้มกระดูก และ
                                                                                  [1-6]
            vertebrae, slight hyperlordosis, reverse cervical   ริมหัวต่อกระดูก ยกเว้นตัวกระดูก  และสอดคล้อง
            curve, reverse spondylolisthesis, decrease lor-  กับหนังสือและต�าราทางออร์โธปีดิกส์ [19-20,33-34]  ที่ได้
            dotic cervical curve, hyperlordosis of cervical   อธิบายปุ่มกระดูกงอก จากภาวะกระดูกคอเสื่อม

            curve และ intervertebral foramen narrowing   จะพอกตัวบริเวณด้านหน้าหรือด้านหลังของปล้อง
            เป็นต้น ทั้งนี้ยังสัมพันธ์กับการตรวจพบ จุดกดเจ็บ  กระดูก จึงไม่มีผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงต่อความ
            บริเวณบ่า ต้นคอ และสะบักบนกล้ามเนื้อ trapezius,   สูงของปล้องกระดูกสันหลังข้างที่เป็นโรคให้สูงหรือ

            levator scapulae, rhomboid และ supraspinatus   ต�่ากว่าข้างปกติได้
   68   69   70   71   72   73   74   75   76   77   78