Page 203 - J Trad Med 21-1-2566
P. 203
J Thai Trad Alt Med Vol. 21 No. 1 Jan-Apr 2023 183
สามารถดูดซึมยาได้โดยตรง ส่งผลให้ยาออกฤทธิ์ได้ สมุนไพรที่น�ามาใช้มากที่สุด เนื่องจากรากเป็นส่วนของ
[6]
ดีและมีประสิทธิผลในการรักษาโรค ซึ่งไม่สอดคล้อง พืชที่มีการสะสมของสารส�าคัญต่าง ๆ มาก จึงนิยมน�า
[7]
กับการศึกษาของชินพัฒน์ เฉริมรัมย์ ที่ท�าการศึกษา มาใช้ สอดคล้องกับการศึกษาของบุญเรือง วงอนันท์,
[13]
หลักการใช้สมุนไพรในคัมภีร์วิถีกุฏโรค ที่พบว่าวิธีการ เรือน สมณะ และประชุมพร เลาห์ประเสริฐ พบว่า
ใช้ยาที่พบมากที่สุดคือการกิน (47%) รองลงมาคือการ รากเป็นส่วนของพืชที่มีการน�ามาใช้ประกอบเป็นยา
ทา (39%) และการอาบ (5%) การพอก (5%) การรม สมุนไพรมากที่สุด รสยาที่พบมากที่สุด คือ ฝาด 34
(2%) และการเป่า (2%) ทั้งนี้น่าจะเกิดจากในคัมภีร์วิถี ชนิด (10.03%) รองลงมา คือ เมาเบื่อ 23 ชนิด (8.81%)
กุฏโรค สาเหตุของโรคส่วนใหญ่เกิดจากความผิดปกติ และ ขม 21 ชนิด (8.05%) ซึ่งสอดคล้องกับหลักการ
ของธาตุภายในร่างกาย การใช้ยากินจึงพบมากกว่าการ ของรสยาสมุนไพร กล่าวคือ ตามสรรพคุณของรสยา
ใช้ยาทา ดังนั้นการใช้ยารักษาโรคผิวหนังโดยเฉพาะ 9 รส อธิบายไว้ว่า รสฝาดมีฤทธิ์ในการสมาน จึงเหมาะ
[8]
ที่มีสาเหตุมาจากธาตุภายในร่างกายที่ไม่สมดุล จึงควร ส�าหรับบาดแผลที่เกิดบริเวณผิวหนัง และรสเมาเบื่อ
มีการใช้ควบคู่กันระหว่างยากินและยาทาเพื่อให้เกิด มีสรรพคุณในการแก้น�้าเหลืองเสียซึ่งโรคผิวหนังบาง
[14]
ผลสูงสุด ชนิดเป็นแผลเรื้อรังรักษาไม่หาย
จากต�ารับยาสมุนไพรรักษาโรคผิวหนัง จ�านวน ภาพรวมของโครงสร้างต�ารับยารักษาโรค
133 ต�ารับ มีสมุนไพรทั้งสิ้น 262 ชนิด โดยสมุนไพร ผิวหนัง จะนิยมใช้สมุนไพรรสฝาดมากที่สุด รองลง
ส่วนใหญ่อยู่ในวงศ์ Leguminosae จ�านวน 14 มาเป็นสมุนไพรรสเมาเบื่อ ซึ่งสอดคล้องกับหลักการ
ชนิด ซึ่งสอดคล้องกับ วิญญู วงศ์วิวัฒน์ และชฎาพร ของรสยาตามหลักการของแพทย์แผนไทย กล่าวคือ
[9]
เกลี้ยงจันทร์ พบว่า วงศ์ของพืชสมุนไพรที่น�ามา สรรพคุณของรสฝาดคือช่วยสมาน โดยกลไกการ
ประกอบต�ารับยารักษาโรคสะเก็ดเงินมากที่สุด 3 ออกฤทธิ์นั้นรสฝาดจะเข้าไปจับกับเสมหะท�าให้เสมหะ
[15]
อันดับแรก คือ วงศ์ Apiaceae Acanthaceae และ งวดลงเป็นเม็ดเล็ก ๆ กระจายตัว ซึ่งอาการของ
Leguminosae โดยสมุนไพรที่มีค่าความถี่ในการใช้ โรคผิวหนัง มักอยู่ในรูปของบาดแผลที่มีน�้าเลือด
มากที่สุดคือ ข้าวเย็นเหนือ (4.02) อธิบายได้ว่า ข้าว น�้าเหลืองหรือของเสียสะสมอยู่ ดังนั้นการใช้รสฝาด
เย็นเหนือมีฤทธิ์ต้านการอักเสบ (anti–inflammatory เข้าไปรักษาจึงมีผลท�าให้น�้าเลือดน�้าเหลืองแห้งลง
activity) [10-11] สอดคล้องกับการศึกษาของ Inamul- ส่วนในด้านรสเมาเบื่อมีสรรพคุณเด่นในเรื่องของการ
[12]
lah Khan ที่ท�าการทดลองใช้สารสกัดข้าวเย็นเหนือ แก้พิษ คือการเข้ากระท�าเหมือนน�าพิษไปสู้กับพิษ ซึ่ง
ในการยับยั้งการอักเสบจากการบวมน�้าที่อุ้งเท้าหนูที่ พิษในที่นี้คือสิ่งที่กระท�าให้ร่างกายผิดปกติมักอยู่ใน
เกิดจากคาราจีแนนได้อย่างมีนัยส�าคัญทางสถิติ (p รูปเสมหะคือตะกรัน ซึ่งน�้าเหลืองที่เกิดจากบาดแผล
[15]
< 0.05) และสอดคล้องกับการศึกษาของ ชินพัฒน์ เรื้อรัง ก็ถือว่าเป็นรูปแบบตะกรันชนิดหนึ่ง การใช้รส
เฉริมรัมย์ พบว่า จากการวิเคราะห์ค่าความถี่ในการ ยาเมาเบื่อจึงมีผลท�าให้การขับออกของตะกรัน (พิษ)
[7]
ใช้พืช สมุนไพร (FR) พบว่า ข้าวเย็นเหนือ และข้าวเย็น มากยิ่งขึ้น จึงท�าให้บาดแผลของโรคผิวหนังต่าง ๆ
ใต้ มีค่า FR สูงที่สุด เท่ากับ 4.36 รากเป็นส่วนของพืช เหล่านั้นหายเร็วยิ่งขึ้น