Page 202 - J Trad Med 21-1-2566
P. 202
182 วารสารการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ ทางเลือก ปีที่ 21 ฉบับที่ 1 มกราคม-เมษายน 2566
เทศ รองลงมาจะเป็นรสขม เช่น ขี้กาแดง ชุมเห็ด 6 กลุ่มรส โดยจะมีการใช้สมุนไพรที่มีรสเมาเบื่อมาก
เทศ นอกจากนี้บางต�ารับยังใช้รสเปรี้ยวร่วมด้วย เช่น ที่สุด เช่น ทองพันชั่ง ขันทองพยาบาท รองลงมาจะ
มะนาว เป็นรสเค็ม เช่น เหงือกปลาหมอ แสมทะเล นอกจาก
3.5 กลุ่มอาการภูมิแพ้ นี้บางต�ารับยังใช้รสเปรี้ยวร่วมด้วย เช่น มะยม
จากการศึกษาต�ารับยาสมุนไพรรักษาโรค 3.9 กลุ่มอาการพิษจากสัตว์
กลุ่มอาการภูมิแพ้ทั้ง 7 ต�ารับ พบว่า สามารถจ�าแนก จากการศึกษาต�ารับยาสมุนไพรรักษาโรค
สมุนไพรออกได้จ�านวน 6 กลุ่มรส โดยจะมีการใช้ กลุ่มอาการพิษจากสัตว์ ทั้ง 2 ต�ารับ พบว่า สามารถ
สมุนไพรที่มีรสขมมากที่สุด เช่น เพกา ผักขวง รอง จ�าแนกสมุนไพรออกได้จ�านวน 6 กลุ่มรส โดยจะมี
ลงมาจะเป็นรสเผ็ด, รสฝาด, รสหวาน เช่น พริกชี้ฟ้า, การใช้สมุนไพรที่มีรสขมมากที่สุด เช่น หางปลาช่อน
ก�ายาน, ผักปลัง ตามล�าดับ นอกจากนี้บางต�ารับยังใช้ โคกกระสุน รองลงมาจะเป็นรสเผ็ดร้อน เช่น หอมแดง
รสจืดร่วมด้วย เช่น เสลดพังพอนตัวเมีย พิมเสน นอกจากนี้บางต�ารับยังใช้รสจืดร่วมด้วย เช่น
3.6 กลุ่มอาการอักเสบ เสลดพังพอนตัวเมีย
จากการศึกษาต�ารับยาสมุนไพรรักษาโรค 3.10 กลุ่มไม่ทราบสาเหตุอาการของโรคที่แน่ชัด
กลุ่มอาการอักเสบทั้ง 23 ต�ารับ พบว่า สามารถจ�าแนก จากการศึกษาต�ารับยาสมุนไพรรักษาโรค
สมุนไพรออกได้จ�านวน 8 กลุ่มรส โดยจะมีการใช้ กลุ่มไม่ทราบสาเหตุอาการของโรคที่แน่ชัดทั้ง 16
สมุนไพรที่มีรสฝาดมากที่สุด เช่น ขมิ้นอ้อย นางแย้ม ต�ารับ พบว่า สามารถจ�าแนกสมุนไพรออกได้จ�านวน
รองลงมาจะเป็นรสขม เช่น หญ้าแพรก ก้างปลาเครือ 6 กลุ่มรส โดยจะมีการใช้สมุนไพรที่มีรสขมมากที่สุด
นอกจากนี้บางต�ารับยังใช้รสเปรี้ยวร่วมด้วย เช่น เช่น สะเดา ว่านเพชรหึง รองลงมาจะเป็นรสเมาเบื่อ
มะขามป้อม เช่น ขอบชะนางแดง ขอบชะนางขาว นอกจากนี้บาง
3.7 กลุ่มอาการบาดแผล ต�ารับยังใช้รสหวานร่วมด้วย เช่น ค�าฝอย
จากการศึกษาต�ารับยาสมุนไพรรักษาโรค
กลุ่มอาการบาดแผลทั้ง 9 ต�ารับ พบว่า สามารถจ�าแนก บทวิจ�รณ์
สมุนไพรออกได้จ�านวน 9 กลุ่มรส โดยจะมีการใช้ ในการศึกษาครั้งนี้สามารถรวบรวมต�ารับ
สมุนไพรที่มีรสฝาดมากที่สุด เช่น ไพล มังคุด รองลง ยาสมุนไพรรักษาโรคผิวหนังได้ทั้งหมดจ�านวน 133
มาจะเป็นรสเผ็ดร้อน เช่น ขมิ้นชัน พริกไทย นอกจาก ต�ารับ มีวิธีการใช้ที่พบมากที่สุด คือ การทา 72 ต�ารับ
นี้บางต�ารับยังใช้รสเค็มร่วมด้วย เช่น เหงือกปลาหมอ (54.13%) การกิน 41 ต�ารับ (30.83%) การอาบ 14
3.8 กลุ่มอาการความผิดปกติของระบบภายใน ต�ารับ (10.53%) การพ่น 3 ต�ารับ (2.26%) การแช่ 1
ร่างกาย ต�ารับ (0.75%) การพอก 1 ต�ารับ (0.75%) และการ
จากการศึกษาต�ารับยาสมุนไพรรักษาโรค ล้างแผล 1 ต�ารับ (0.75%) อธิบายได้ว่าเนื่องจากการ
กลุ่มอาการความผิดปกติของระบบภายในร่างกายทั้ง ทาเป็นวิธีการใช้ยาที่นิยมมากที่สุดในการรักษาโรค
1 ต�ารับ พบว่า สามารถจ�าแนกสมุนไพรออกได้จ�านวน ผิวหนัง เนื่องจากเป็นการใช้เฉพาะที่ท�าให้ร่างกาย