Page 311 - วารสารการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ ทางเลือก ปีที่ 19 ฉบับที่ 2 พฤษภาคม-สิงหาคม 2564
P. 311

J Thai Trad Alt Med                                   Vol. 19  No. 2  May-Aug  2021  541




            กลุ่มแคนนาบินอยด์ในผู้ป่วยมะเร็งที่ได้รับเคมีบำาบัด  เกิดการติดยาได้ นอกจากแพทย์สั่ง หากใช้เป็นประจำา
            สามารถลดอาการคลื่นไส้ อาเจียนได้ [12,14]    ควรประเมินผลการรักษาเป็นระยะ และควรปรึกษา

                 ข้อห้ามใช้  ห้ามใช้ในผู้ที่เคยแพ้กัญชา [15]  แพทย์ก่อนหยุดใช้ยา เพราะจำาเป็นต้องปรับลดขนาด
                 คำาเตือน                               ยาลงทีละน้อยเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดอาการถอนยา
                 1. หลีกเลี่ยงการใช้กัญชาในสตรีมีครรภ์ สตรี     6. ควรใช้กัญชาด้วยความระมัดระวังในผู้ป่วยที่

            ให้นมบุตร รวมถึงสตรีวัยเจริญพันธุ์ที่มิได้คุมกำาเนิด  ได้รับการรักษาร่วมกับยากล่อมประสาทหรือยาที่ออก
            หรือสตรีที่วางแผนจะตั้งครรภ์                ฤทธิ์ทางจิตอื่น ๆ เนื่องจากเสริมฤทธิ์กดประสาทส่วน
                 2.  อาจทำาให้ง่วงซึมจึงไม่ควรขับขี่ยานพาหนะ  กลางหรือเพิ่มผลกระทบทางจิตประสาท

            หรือทำางานเกี่ยวกับเครื่องจักรกลหรือทำางานที่เสี่ยง     7. ควรใช้กัญชาด้วยความระมัดระวังในผู้ป่วย
            อันตราย [15]                                ที่มีประวัติของการใช้สารเสพติดรวมถึงผู้มีประวัติติด
                 ข้อควรระวัง                            สุรา

                 1.  ไม่ควรใช้กัญชาที่มีปริมาณสารออกฤทธิ์เดล     8. หากมีอาการแพ้ยา เช่น มีผื่น ปากบวม
            ทา-9-เททระไฮโดรแคนนาบินอลเด่น (higher levels   ตาบวม หน้าบวม ให้หยุดใช้ยาและปรึกษาแพทย์หรือ

                9
            of d -THC with little if any CBD) ในบุคคลที่อายุ  เภสัชกร [15]
              ่
            ตำากว่า 25 ปี ยกเว้นในกรณีที่แพทย์พิจารณาแล้วว่า      ขนาดและวิธีใช้  -
            ผู้ป่วยได้รับประโยชน์มากกว่าเสี่ยง               หมายเหตุ

                 2.  ไม่ควรใช้กัญชาในผู้ป่วยที่มีโรคหลอดเลือด     1.  พระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522
            หัวใจหรือหลอดเลือดสมองที่รุนแรง เนื่องจากอาจ  กำาหนดให้ “กัญชา’’ เป็นยาเสพติดให้โทษประเภทที่
                              ่
            ทำาให้ความดันเลือดตำาบางครั้งอาจทำาให้ความดัน  5 ห้ามมิให้ผู้ใดผลิต จำาหน่าย นำาเข้า ส่งออก หรือมีไว้
            เลือดสูง เป็นลมหมดสติ หัวใจเต้นเร็วผิดปกติ กล้าม  ในครอบครอง เว้นแต่รัฐมนตรีจะอนุญาตโดยความ
            เนื้อหัวใจตาย และโรคหลอดเลือดสมอง           เห็นชอบของคณะกรรมการเป็นราย ๆ ไป ตลอดจน

                 3. ไม่ควรใช้กัญชาในผู้ป่วยที่มีภาวะการทำางาน  การเสพยาเสพติดให้โทษดังกล่าวมีความผิดตาม
            ของตับหรือไตบกพร่องรุนแรง                   กฎหมาย
                                                               [16]
                 4. ไม่ควรใช้กัญชาที่มีปริมาณสารออกฤทธิ์เดล     2.  ประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง ระบุ

            ทา-9-เททระไฮโดรแคนนาบินอลเด่น (higher levels   ชื่อยาเสพติดให้โทษ ในประเภท 5 พ.ศ. 2563 ระบุว่า
            of d -THC with little if any CBD) โดยเฉพาะอย่าง  กัญชา (cannabis) พืชในสกุล Cannabis และวัตถุ
                9
                                                                                            ้
            ยิ่งกัญชาที่มีสารเดลทา-9-เททระไฮโดรแคนนาบินอล  หรือสารต่าง ๆ ที่มีอยู่ในพืชกัญชา เช่น ยาง นำามัน
            ความเข้มข้นสูงในผู้ป่วยที่มีประวัติความผิดปกติทาง  ยกเว้นวัตถุหรือสารดังต่อไปนี้ เฉพาะที่ได้รับอนุญาต
            จิตเวช (เช่น โรคจิต โรคจิตเภท ภาวะวิตกกังวล และ  ให้ผลิตในประเทศ ไม่จัดเป็นยาเสพติดให้โทษใน

            ความผิดปกติทางอารมณ์) หรือมีประวัติครอบครัว  ประเภท 5 (1) เปลือกลำาต้นเส้นใยกิ่งก้านและราก
            เป็นโรคจิตเภท                               (2) ใบซึ่งไม่มียอดหรือช่อดอกติดมาด้วย (3) สารสกัด
                 5. ไม่ควรใช้ติดต่อกันเป็นเวลานานเพราะอาจ  ที่มีสารแคนนาบิไดออล (cannabidiol, CBD) เป็นส่วน
   306   307   308   309   310   311   312   313   314   315   316