Page 15 - วารสารการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก ปีที่ 18 ฉบับที่ 2 พฤษภาคม-สิงหาคม (วารสารเสริม) 2563
P. 15
15
Journal of Thai Traditional & Alternative Medicine Vol.18 No.2 May-August (Supplement) 2020
emR2R63 : การศึกษาประสิทธิผลของตำรับกลีบบัวแดงในผู้ที่มีอาการนอนไม่หลับ
อารีวรรณ ต้นทัพไทย, กัญญารัตน์ ระลึกชอบ, นภัสชญา เกษรา, ปวัชสรา คัมภีระธัม
กลุ่มงานการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร อ.เมือง จ.ปราจีนบุรี
หลักการและเหตุผล การนอนไม่หลับส่งผลต่อคุณภาพชีวิตของคนทั่วโลกมากกว่าร้อยละ 45 ของประชากร
ทั้งหมด ในขณะเดียวกันประเทศไทยก็ประสบปัญหาการป่วยจากการนอนไม่หลับถึงร้อยละ 7 ของประชากร
โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศรได้รับตำรับสมุนไพรพื้นบ้าน “กลีบบัวแดง” มาใช้ในผู้ที่มีปัญหาการนอนไม่หลับ
ตั้งแต่ปี 2560 โดยตำรับกลีบบัวแดงประกอบด้วย กลีบบัวหลวงสีแดง บัวบก และพริกไทย
วัตถุประสงค์ เพื่อศึกษาประสิทธิผลและความปลอดภัยของตำรับกลีบบัวแดงในผู้ที่มีอาการนอนไม่หลับ
วิธีดำเนินการ การศึกษานี้เป็นการวิจัยเชิงทดลองแบบ Actual Use Research ดำเนินการที่กลุ่มงาน
การแพทย์ แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร ระหว่างวันที่ 1 พฤษภาคม 2560 –
5 มกราคม 2563 ในกลุ่มตัวอย่างที่มีอาการนอนไม่หลับ คือ ประเมินคุณภาพการนอนหลับที่ดัดแปลงมาจากแบบวัด
ดัชนีคุณภาพการนอนหลับของ มหาวิทยาลัยพิตส์เบิร์ก (Pittsburgh Sleep Quality Index [PSQI]) ได้มากกว่า 5
คะแนนขึ้นไป อายุระหว่าง 20-70 ปี จำนวน 50 คน โดยอาสาสมัครจะได้แคปซูลกลีบบัวแดง โดยกินครั้งละ 2
แคปซูล (ขนาด 400 มิลลิกรัม/แคปซูล) วันละ 2 ครั้ง ก่อนอาหารเช้า และเย็น เป็นเวลาต่อเนื่อง 4 สัปดาห์ เครื่องมือ
ในการเก็บข้อมูล ได้แก่ แบบสอบถามข้อมูลส่วนบุคคล การใช้ยานอนหลับ คุณภาพการนอนหลับ และสมุดบันทึก
ประจำตัวสำหรับบันทึกอาการไม่พึงประสงค์ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ สถิติพรรณนา และ และ Paired
t-test
ผลการศึกษา อาสาสมัครจำนวน 50 คน อายุเฉลี่ย 48.48±14.31 ปี เป็นเพศหญิง 33 คน (ร้อยละ 66.0)
เป็นเพศชาย 17 คน (ร้อยละ 34.0) มีธาตุเจ้าเรือนเป็นวาตะมากที่สุด 26 ราย (ร้อยละ 52.0) รองลงมาเป็นธาตุเจ้า
เรือนเสมหะ และธาตุเจ้าเรือนปิตตะ-วาตะ จำนวน 11 ราย (ร้อยละ 22.0) และ 5 ราย (ร้อยละ 10.0) ตามลำดับ
อาสาสมัครจำนวน 34 คน (ร้อยละ 68.0) มีดัชนีมวลกายอยู่ในเกณฑ์ปกติ และมี 11 คน (ร้อยละ 24.0) มีภาวะอ้วน
ระดับ 1 และ 2 อาสาสมัครส่วนใหญ่ (ร้อยละ 76.0) ไม่มีประวัติกินยานอนหลับมาก่อน PSQI ก่อนเริ่มกินตำรับกลีบ
บัวแดง 12.22±3.12 เมื่อกินแล้ว พบว่าค่า PSQI เท่ากับ 8.66±2.23, 7.12±3.23, 6.26±2.72 และ 5.30±2.61
ในสัปดาห์ที่ 1, 2, 3 และ 4 ตามลำดับ โดยค่า PSQI ลดลงอย่างมีนัยสำคัญตั้งแต่สัปดาห์แรกของการกินตำรับกลีบบัว
แดง (p<0.01) ส่วนอาการไม่พึงประสงค์หลังการกินตำรับกลีบบัวแดง พบว่ามี 5 ราย (ร้อยละ 10.0) ใน 3 สัปดาห์
แรก และลดลงเหลือ 3 ราย (ร้อยละ 6.0) ในสัปดาห์ที่ 4 โดยอาการไม่พึงประสงค์ที่พบ ได้แก่ ปัสสาวะบ่อย หน้า
มืด/วิงเวียน ท้องผูก ร้อนท้อง และแน่นหน้าอก/แสบร้อนยอดอก
ข้อสรุป ตำรับกลีบบัวแดงทำให้อาสาสมัครมีคุณภาพในการนอนหลับดีขึ้น ตั้งแต่สัปดาห์แรก และมีความ
ปลอดภัยดี ถึงแม้อาสาสมัครจะพบอาการไม่พึงประสงค์ แต่ไม่รุนแรง เนื่องจากอาสาสมัครอยู่ร่วมโครงการจนจบ แต่
อย่างไรก็ตามในอนาคตจำเป็นต้องเพิ่มขนาดกลุ่มตัวอย่างให้มากขึ้น และศึกษาในกลุ่มอาสาสมัครที่มีประวัติการใช้ยา
นอนหลับเพื่อดูประสิทธิผลในการใช้ทดแทนยานอนหลับต่อไป