Page 231 - วารสารกรมการแพทย์แผนไทยฯ ปีที่ 17 ฉบับที่ 3
P. 231
J Thai Trad Alt Med Vol. 17 No. 3 Sep-Dec 2019 581
บวชเรียนต่อยอดภูมิปัญญ�หมอย�พื้นบ้�น สมุนไพรรักษาโรค แหล่งสำาคัญได้แก่ ตำาราสมุนไพร
เมื่ออายุครบ 20 ปีบริบูรณ์ย่างเข้า 21 ปีบ่าวเสริฐ ของหลวงพ่อพัน สิริจนฺโท (จันทสิริ หรือจันทศิริ) เจ้า
จับได้ใบดำา ไม่ต้องไปเป็นทหารเกณฑ์ ต่อมาเมื่ออายุ อาวาสวัดบรรพตพิสัย (ชาวบ้านเรียก วัดในเขา) ตำาบล
เข้าวัยเบญจเพส 25 ปีจึงขอลาบวชเป็นพระที่วัดแหลม บางมะพร้าว อำาเภอหลังสวน ผู้เป็นวิปัสสนาจารย์และ
ทราย ซึ่งเป็นวัดพระอุปัชฌาจารย์ในตำาบลพะโต๊ะ เกจิอาจารย์ระดับตำานานของเมืองไทยผู้ได้รับสมญา
อำาเภอพะโต๊ะ จังหวัดชุมพร แต่ได้กลับมาพำานักประจำา นามว่า “อริยสงฆ์แห่งลุ่มแม่นำ้าหลังสวน” จังหวัด
ที่วัดใหม่นพคุณซึ่งเป็นวัดใกล้บ้านในตำาบลนาขา ชุมพร
อำาเภอหลังสวนนั้นเอง ช่วงที่อยู่ในสมณเพศ พระเสริฐ การรักษาโรคต่าง ๆ ด้วยสมุนไพรบำาบัดและ
สอบได้นักธรรมตรี ทั้งยังสามารถท่องจำาและสวด คาถาอาคมซึ่งเรียนรู้จากตำารายาสมุนไพรของหลวง
พุทธมนต์เจ็ดตำานานได้ขึ้นใจ ท่านพบว่าคาถารักษา พ่อพัน สิริจนฺโท ได้แก่ การปัดซางเด็ก (ไข้ตัวร้อนใน
่
กระดูกที่รำาเรียนจากพ่อเฒ่าแดงยาวล้วนย่อมาจาก เด็ก) ปัดเริม (โรคไข้ชนิดหนึ่ง มียอดเม็ดใสหรือขุ่นผุด
บทพุทธมนต์ทั้งสิ้น (อาทิเช่น คาถาพระโมคคัลลาน์ ขึ้นตามตัว ปวดแสบปวดร้อน) สูญฝี ลำาบอง (โรคไข้
ประสานกระดูก ซึ่งมาจากเรื่องราวที่พระโมคคัลลานะ ชนิดหนึ่งมีอาการบวม อักเสบ ปวดตามข้อต่าง ๆ
อัครสาวกเบื้องซ้ายถูกกลุ่มโจรรุมทุบตีจนร่างแหลก ภายในข้อมีนำ้าเป็นเมือกข้น) และ รวด (ภาษาถิ่นใต้
เหลว แต่พระเถระได้เสกคาถาประสานกระดูกพยุง หมายถึง ปรวด คือเนื้อที่เป็นโรค มีลักษณะเป็นก้อน
สังขารไปกราบลาพระพุทธเจ้าก่อนมรณภาพ) ท่านจึง ฝีแข็งอยู่ใต้ผิวหนัง เจ็บปวดมาก อาจเกิดจากการถูก
มีความเชื่อมั่นในคุณพระรัตนตรัยว่าสามารถเยียวยา หนาม หรือเสี้ยนตำาหรือเงี่ยงปลาแทงเข้าไปตรงจุดนั้น)
รักษาโรคภัยไข้เจ็บได้ ระหว่างบวชอยู่นั้น พระเสริฐ หมอพระเสริฐขณะอายุราว 30 ปีใช้วิธียืมตำารับตำารา
ได้ยินกิตติศัพท์ว่ามีครูหมอผู้เชี่ยวชาญสมุนไพรอยู่ที่ ของหลวงพ่อพัน (ซึ่งมรณภาพไปก่อนหน้านั้นเมื่อปี
ตำาบลพ้อแดง ในอำาเภอหลังสวน ท่านจึงย้ายไปพำานัก 2497 มาคัดลอกแล้วนำามาศึกษาผสมผสานกับการ
ที่วัดต้นกุล เพื่อจะได้เรียนวิชาหมอสมุนไพรกับตา เรียนรู้จากตำาราของอาจารย์ต่าง ๆ ท่านจึงมีความรู้ใน
หมอพริ้มซึ่งอาศัยอยู่ใกล้วัดแห่งนั้นเอง การรักษาโรคด้วยสมุนไพรมากขึ้น
ศาสตร์สมุนไพรบำาบัดที่เรียนจากตาหมอพริ้ม หมอพระเสริฐไม่อิ่มในความรู้เพียงเท่านั้น ท่าน
ได้แก่ 1) สมุนไพรบำาบัดซางเด็ก 2) สมุนไพรบำาบัดโรค ยังตั้งใจเรียนแก้พิษงูกัดจากหลวงพ่อรอด วัดต้นกุล
มุตกิต มุตฆาต โรคสตรี และ 3) ยาธาตุคูณหาร อัน อำาเภอหลังสวน เพราะหลังสวนชุกชุมด้วยงูกะปะ งู
เป็นศาสตร์การคูณธาตุ ดูการพร่องของ ธาตุดิน นำ้า ลม แมวเซา และงูพิษอื่น ๆ มีชาวบ้านถูกงูพิษกัดปีละ
ไฟ ของแต่ละคนแล้วจึงตั้งตำารับยารักษาต่อไป หลาย ๆ คน นอกจากนี้ท่านยังเรียนวิชารักษาจักขุโรค
หมอพระเสริฐมีความคิดว่าหากจะเป็นหมอที่ กรรมวิธีตัดต้อเนื้อ ตัดต้อหิน ตัดต้อกระจกและต้อลม
ชำานาญควรต้องมีความรู้เรื่องการรักษาโรคต่าง ๆ ด้วย จากครูหมอพระชื่อดังแห่งอำาเภอหลังสวน 2 องค์ คือ
ยาสมุนไพร ให้กว้างขวางออกไปอีก ดังนั้นหากรู้ว่าวัด พระเทพวงศาจารย์ (จันทร์ โกสโล) วัดขันเงิน อันเป็น
ไหนมีตำารับตำารายาดี ก็จะเดินทางไปตามวัดเหล่านั้น วัดเก่าแก่สมัยกรุงศรีอยุธยาอยู่ในตำาบลวังตะกอ และ
ในอำาเภอหลังสวนหลายแห่งซึ่งเป็นแหล่งเรียนรู้ยา หลวงพ่อชบ วัดประสาทนิกร ตำาบลขันเงิน