Page 217 - วารสารกรมการแพทย์แผนไทยฯ ปีที่ 17 ฉบับที่ 3
P. 217
J Thai Trad Alt Med Vol. 17 No. 3 Sept-Dec 2019 567
(sennoside F), เรอิดินเอ (rheidin A), เรอิดินบี แล้ว ล�ำไส้ยังไม่มีกำรเคลื่อนไหว อำจบ่งถึงภำวะ
(rheidin B), เรอิดินซี (rheidin C) นอกจำกนั้นในโกฐ รุนแรงที่อำจเกิดอันตรำยได้ กำรใช้ติดต่อกันเป็น
น�้ำเต้ำยังมีสำรกลุ่มแทนนิน (tannins) ด้วย [2-3,6] เวลำนำนกว่ำที่ก�ำหนด อำจท�ำให้ล�ำไส้เกิดควำม
ข้อบ่งใช้ ใช้เป็นยำถ่ำย ยำระบำยส�ำหรับบ�ำบัด เคยชินได้ [6-7,10]
[6-7]
อำกำรท้องผูกเป็นครั้งครำว 2. ไม่ควรใช้ในผู้ป่วยโรคล�ำไส้อุดตัน คอดตีบ
ต�ำรำสรรพคุณยำไทยว่ำโกฐน�้ำเต้ำมีสรรพคุณ ขำดควำมตึงตัว หรืออยู่ในภำวะขำดน�้ำและอิเล็ก-
ขับลมลงสู่คูถทวำร ท�ำให้อุจจำระปัสสำวะเดินสะดวก โทรไลต์อย่ำงรุนแรง [6-7,10]
เป็นยำระบำยชนิด “รู้เปิดรู้ปิด” แพทย์ตำมชนบทน�ำ 3. ไม่ควรใช้ในผู้ป่วยที่มีอำกำรท้องผูกเรื้อรัง
โกฐน�้ำเต้ำมำนึ่งให้สุก แล้วตำกแดดให้แห้ง ผสมเป็น หรือล�ำไส้อักเสบ เช่น ไส้ติ่งอักเสบ ล�ำไส้ใหญ่อักเสบ
ยำระบำย ใช้แก้อำกำรท้องผูก โรคริดสีดวงทวำร โกฐ มีแผล กลุ่มอำกำรล�ำไส้ระคำยเคือง (irritable bowel
่
น�้ำเต้ำเป็นโกฐชนิดหนึ่งในสำมชนิดที่ต�ำรำแพทย์แผน syndrome) หรือในเด็กอำยุต�ำกว่ำ 10 ขวบ [6-7,10]
ไทยจัดอยู่ใน “พิกัดโกฐพิเศษ” ร่วมกับโกฐกะกลิ้งและ 4. ไม่ควรใช้ในสตรีระหว่ำงตั้งครรภ์หรือให้นม
โกฐกักกรำ [1-3] บุตร เว้นแต่จะอยู่ภำยใต้กำรควบคุมของแพทย์ [6-7,10]
ข้อมูลจำกกำรศึกษำวิจัยพบว่ำ สำรส�ำคัญในโกฐ 5. กำรใช้โกศน�้ำเต้ำในขนำดแรกอำจท�ำให้เกิด/
น�้ำเต้ำ โดยเฉพำะสำรเซนโนไซด์ทั้ง 6 ชนิด (senno- มีอำกำรปวดมวนไม่สบำยในท้องได้ หำกมีอำกำรนี้ ควร
sides A-F) และสำรเรอิโนไซด์ทั้ง 4 ชนิด (rheino- ลดขนำดยำลง [10]
sides A-D) ออกฤทธิ์กระตุ้นกำรบีบตัวของล�ำไส้ใหญ่ 6. กำรใช้โกฐน�้ำเต้ำเกินขนำดอำจท�ำให้เกิด
ช่วยเร่งกำรขับกำกอำหำรออกจำกล�ำไส้ใหญ่ และเพิ่ม อำกำรปวดเฉียบและมวนเกร็งในล�ำไส้ใหญ่และ
[6]
กำรซึมผ่ำนของของเหลวผ่ำนเยื่อเมือกล�ำไส้ใหญ่ อุจจำระเหลวเหมือนน�้ำ
ท�ำให้มีปริมำณน�้ำในล�ำไส้ใหญ่มำกขึ้น จึงแสดงฤทธิ์ ข้อควรระวัง
เป็นยำถ่ำย โดยจะมีฤทธิ์ฝำดสมำนตำมมำหลัง 1. ไม่ควรใช้โกฐน�้ำเต้ำติดต่อกันนำนเกิน 1-2
[8-9]
กำรถ่ำยอุจจำระอันเนื่องจำกฤทธิ์ของแทนนินในโกฐ สัปดำห์ เนื่องจำกอำจท�ำให้เกิดภำวะเสียสมดุลของ
น�้ำเต้ำ [1-3,6] สำรอิเล็กโทรไลต์ เช่น กำรเพิ่มกำรสูญเสียโพแทส-
ข้อห้ามใช้ ห้ำมใช้โกฐน�้ำเต้ำในผู้ป่วยที่มีอำกำร เซียม ซึ่งอำจไปมีผลเพิ่มฤทธิ์ของไกลโคไซด์ที่แสดง
ปวดเกร็งหรือปวดเฉียบในช่องท้อง ไตอักเสบ หรือ ฤทธิ์ต่อหัวใจ (cardiac glycoside) และยำแก้ภำวะ
มีอำกำรปวดท้อง คลื่นไส้อำเจียนโดยไม่ทรำบ หัวใจเสียจังหวะ หำกใช้ยำเหล่ำนี้ร่วมกับโกศน�้ำเต้ำ [6,10]
สำเหตุ [6-7,10] 2. กำรใช้โกฐน�้ำเต้ำร่วมกับยำขับปัสสำวะกลุ่ม
คำาเตือน ไทอะไซด์ (thiazide diuretics) ยำกลุ่มคอร์ทิโค-
1. ควรใช้โกฐน�้ำเต้ำเฉพำะเมื่อไม่สำมำรถแก้ สเตียรอยด์ (corticosteriod) หรือชะเอมเทศ จะท�ำให้
[6,10]
อำกำรท้องผูกได้ด้วยกำรปรับเปลี่ยนโภชนำกำรหรือ ร่ำงกำยสูญเสียโพแทสเซียมมำกขึ้น
ใช้ยำระบำยชนิดเพิ่มกำก เมื่อใช้โกฐน�้ำเต้ำแล้วมีเลือด ขนาดและวิธีใช้ ยำเตรียมที่มีอนุพันธ์ของสำร
[6,10]
ออกทำงทวำรหนัก หรือเมื่อใช้ในขนำดสูงสุดที่แนะน�ำ ไฮดรอกซีแอนทรำซีน 10-30 มิลลิกรัม กินวันละ