Page 201 - วารสารกรมการแพทย์แผนไทยฯ ปีที่ 17 ฉบับที่ 3
P. 201

J Thai Trad Alt Med                                    Vol. 17  No. 3  Sep-Dec 2019  551




                          ไม่เล่นเบี้ยกินเหล้าเมากัญชา       ฝิ่นฝามันสูบบ้างหรือไม่
                               ่
                          จะสูงตำาดำาขาวสักคราวใคร           ตูยังไม่เห็นแก่ตาว่าตามจริง [26]


                 (2) ตอนขุนแผนขึ้นเรือนขุนช้าง ใช้คาถาสะกดคนในบ้าน มีบ่าวขุนช้างบางคน
                          “หลงปลุกเพื่อนกันหั่นกัญชา         มือเช็ดชี้ตาอยู่จำาเปรอะ’’ [26]


                 มีข้อสังเกตเรื่อง “ขี้ตา’’ เพราะนักสูบกัญชาบอกว่าส่วนที่นำามาสูบคือ ดอกตัวเมียที่เรียกว่า กะหลี่ หรือ กะ
            เต็น ที่ตากแห้งแล้ว “ส่วนอื่นของกัญชามันพอจะสูบได้ แต่ไม่ดี สูบแล้วปากคอพังหมด คนสูบเป็นอาชีพเขาบอก
            เลยว่า ‘ก้านไอ – ใบเสลด – เม็ดขี้ตา’ หมายถึงว่า หากกัญชาตากแห้งมี ก้าน-ใบ-เม็ด ติดมาต้องคัดออก เพราะ

            ก้านกัญชาหน้าตามันคล้าย ๆ ก้านพลู ถ้าเอามาสูบจะคันคอไม่หยุด ส่วนใบกัญชาเอามาสูบมันจะมีเสลดมาก
            ครืด ๆ คราด ๆ ขากเสลดจนไม่ต้องทำาอะไร แล้วเม็ดกัญชาขนาดเม็ดพริกไทยแต่ผิวเขียว ๆ มัน ๆ นั่นถ้าติดปน

            สูบเข้าไปด้วย ขี้ตาจะเกรอะกรัง’’ [6]


                 (3) ตอนขุนแผนยกทัพไปตีเชียงใหม่ ขุนแผนไม่เอาทหารเกณฑ์ไป เอาแต่เพื่อนนักโทษด้วยกัน 35 คน

            ไปร่วมรบ ทหารนอกนั้นใช้คาถาอาคมเสกเอา มีฉากตอนยกทัพ ดังนี้
                               โห่ร้องฆ้องลั่นมาหึ่งหึ่ง     นายจันสามพันตึงเป็นกองหน้า

                          กองหลังสีอาดราชอาญา                พวกทหารสามสิบห้าต่างคลาไคล
                          บ้างคอนกระสอบหอบกัญชา              ตุ้งก่าใส่ย่ามตามเหงื่อไหล
                          บ้างเหล้าใส่กระบอกหอกคอนไป         ล้าเมื่อไรใส่อึกไม่อื้ออึง

                          บ้างห่อใบกระท่อมตะพายแล่ง          เงี่ยนยาหน้าแห้งตะแคงขึง
                          ถุนกระท่อมใส่ห่อพอตึงตึง           ค่อยมีแรงเดินดึ่งถึงเพื่อนกัน [25]


                 (4) ตอนพระไวยถูกเสน่ห์ ศรีมาลาส่ง “อ้ายทิด” ข้าเก่าไปส่งข่าวพ่อ (พระยาพิจิตร) ระหว่างเดินทาง

                               ทั้งหมากพลูบุหรี่มีทุกอย่าง   ลายฉลางคาดพุงหม้อตุ้งก่า
                          ครั้นเสร็จสรรพแล้วจับหอกละว้า      เอาย่ามใหญ่ใส่บ่ารีบคลาไคล

                          ครั้นแดดร้อนผ่อนพักชักตุ้งก่า      เมากัญชางกเงิ่นเดินหัวร่อ
                          เสียงแกรกกรากก็กลัวจนตัวงอ         ใบไม้สวบควบห้อตะบึงไป [25]

                   พอไปถึงพระพิจิตรถามว่า
                               ครานั้นจึงท่านพระพิจิตร       เห็นอ้ายทิดขึ้นมาทำาหน้าจ๋อย

                          แกด่าว่าน่าเฆี่ยนสักแปดร้อย        ดูโคลนคล่อยช่างพาขึ้นมาเลอะ
                          นี่อะไรในถุงอ้าวตุ้งก่า            อ้ายทิดสูบกัญชาจนตาเปรอะ
                                     ่
                          มันช่างเมายังคำาทำาหยำาเยอะ        นี่เที่ยวเซอะมาทำาไมอ้ายขี้คุก [25]
   196   197   198   199   200   201   202   203   204   205   206