Page 132 - วารสารกรมการแพทย์แผนไทยฯ ปีที่ 17 ฉบับที่ 2
P. 132

270 วารสารการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ ทางเลือก     ปีที่ 17  ฉบับที่ 2  พฤษภาคม-สิงหาคม 2562




             ไม่รับประทานผัก ริดสีดวงทวารมักเกิดตามมาหลัง  ตามอาการหลักแล้วเสริมด้วยยารักษาโรคเรื้อรังไป
             จากท้องผูกเรื้อรัง มีอาการขับถ่ายลำาบาก มีติ่งเนื้อ  ด้วย เช่น ผู้ป่วยเบาเหวานที่เป็นไข้ หมอประวิทย์ จะ
             ยื่นออกมา หรือมีเลือดไหลออกมาพร้อมกับอุจจาระ    จ่ายยารักษาไข้โดยจะเพิ่มสมุนไพรรักษาเบาหวานไป

             กลุ่มยาหลักที่ใช้รักษาท้องผูกและริดสีดวงทวาร จะ  ในตำารับยานั้นด้วย เป็นต้น  กลุ่มยาหลักที่ใช้จะแตก
                                   ้
             เป็นรสเปรี้ยวเพื่อช่วยเพิ่มนำาให้มวลอุจจาระ ทำาให้  ต่างกัน ถ้าเป็นยาละลายไขมัน หรือละลายลิ่มเลือด
             อุจจาระไม่แห้งแข็ง และขับถ่ายได้ง่ายขึ้น    จะมีตัวยารสสุขุมร้อนเป็นหลัก เพื่อช่วยกระจายลม
                 2.5 กลุ่มโรคนิ่วและระบบทางเดินปัสสาวะ   และปรับโลหิตให้ไหลเวียนได้ดีขึ้น ถ้าเป็นยาเบาหวาน
                 กลุ่มโรคนี้สาเหตุมักเกิดจากพฤติกรรมบาง  ก็จะใช้ยารสขมเป็นหลัก เพื่อลดความข้นเหนียวของ

             อย่างของผู้ป่วย เช่น การกลั้นปัสสาวะเป็นเวลานานซึ่ง  เลือด เป็นต้น
             ส่งผลให้เกิดนิ่วในทางเดินปัสสาวะได้จะมีอาการเจ็บ

             เสียวเวลาปัสสาวะ ปัสสาวะไม่สุด ปัสสาวะกะปริบกะ  3. ตำ�รับย�สมุนไพรต�มกลุ่มโรค 7 กลุ่ม
             ปรอย เป็นต้น กลุ่มยาหลักจะเป็นยารสจืด ช่วยในการ     ตำารับยาสมุนไพรที่รวบรวมจากตำารายาของ
             ขับปัสสาวะ และขับนิ่วออกมาทางปัสสาวะด้วยตำารับ  หมอประวิทย์ แก้วทอง เป็นตำารับยาที่หมอประวิทย์

             ยาในกลุ่มโรคนี้ เช่น ยาขับนิ่วในกระเพาะปัสสาวะ,   ศึกษาจากตำารายาหลายเล่ม แล้วนำามาใช้รักษาผู้ป่วย
             แก้ต่อมลูกหมากโต, ยาแก้ไตเสีย เป็นต้น       ซึ่งเมื่อพบว่าตำารับยาใดรักษาแล้วได้ประสิทธิผลที่ดี
                 2.6 กลุ่มโรคผิวหนัง                     หมอประวิทย์จึงรวบรวมมาไว้เฉพาะในตำารายาเล่มนี้

                 ในกลุ่มนี้ สาเหตุของแต่ละโรคมีที่มาแตกต่าง  มีตำารับยาทั้งสิ้น 99 ตำารับ โดยแบ่งตำารับยาสมุนไพร
             กัน บางรายอาจเกิดจากอุบัติเหตุ เช่น นำ้าร้อนลวก บาง  เหล่านี้ตามกลุ่มโรค 7 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มโรคลม 26
             รายอาจเกิดจากการไม่รักษาความไม่สะอาด เช่น รังแค   ตำารับ, กลุ่มโรคไข้ 12 ตำารับ, กลุ่มโรคแม่และเด็ก 18

             เหา เป็นต้น ซึ่งการวินิจฉัยหมอประวิทย์ จะซักประวัติ   ตำารับ, กลุ่มโรคระบบทางเดินอาหาร 16 ตำารับ, กลุ่ม
             และพิจารณาจากรอยโรคบนผิวหนังที่สามารถสังเกต  โรคนิ่วและระบบทางเดินปัสสาวะ 6 ตำารับ, กลุ่มโรค

             เห็นได้  กลุ่มยาหลักเป็นรสเมาเบื่อ เพราะมีสรรพคุณ  ผิวหนัง 14 ตำารับ, กลุ่มโรคเรื้อรัง 7 ตำารับ ซึ่งหมอ
             ในการขับพิษ และช่วยรักษาโรคผิวหนังต่าง ๆ ได้ อาจ  ประวิทย์จะเลือกจ่ายตำารับยาโดยพิจารณาจากอาการ
                                                                                        ้
             มีการใช้ยารสฝาดช่วยในการสมานแผลด้วยตำารับยา  วิธีการปรุงยาคือการนำาสมุนไพรมาต้มเอานำาดื่ม ตำารับ
             ที่ใช้ เช่น ประดงเลือด, สะเก็ดเงิน, นำ้าเหลืองเสีย,   ยาสมุนไพรที่ใช้บ่อยมากที่สุดคือ ตำารับยาสมุนไพรใน
             งูสวัด, โรคผิวหนัง (คันทุกชนิด), ยาพอกแก้นำ้าร้อน  กลุ่มโรคลม โดยเป็นยาแก้อัมพฤกษ์ อัมพาต และยา

             ลวก, ยาเหา, นำ้ากัดเท้า เป็นต้น             หมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท ซึ่งให้ประสิทธิผล
                 2.7 กลุ่มโรคเรื้อรังต่าง ๆ              การรักษาที่ดี จึงมีการบอกต่อจากผู้ที่หายป่วยหรือมี
                 ผู้ป่วยโรคเรื้อรังมักจะรับการรักษากับแพทย์  อาการดีขึ้น ทำาให้จำานวนผู้ป่วยที่มารับการรักษาทั้ง

             แผนปัจจุบันอยู่แล้ว ส่วนใหญ่จึงมักมาด้วยอาการ   2 โรคนี้มากกว่าโรคอื่น ๆ อย่างเด่นชัด ส่วนตำารับยา
             อื่น เช่น โรคลม โรคผิวหนัง หรือไข้ เป็นต้น เมื่อ  สมุนไพรที่ใช้ในกลุ่มโรคที่ 2.2-2.7 เป็นตำารับที่ได้ใช้ได้
             วินิจฉัยแล้วพบว่าผู้ป่วยมีโรคเรื้อรังด้วย ก็จะจ่ายยา  ผลจริงแต่ในระหว่างการเก็บข้อมูลพบผู้ป่วยจำานวน
   127   128   129   130   131   132   133   134   135   136   137