Page 83 - วารสารปีที่17ฉบับที่1
P. 83

J Thai Trad Alt Med                                    Vol. 17  No. 1  Jan-Apr 2019  73




            ขนาดตัวอย่างน้อย (5 และ 1 คนตามลำาดับ) จึงไม่  การช่วยขับประจำาเดือนและทำาให้อาการประจำาเดือน
            พบความแตกต่างอย่างมีนัยสำาคัญทางสถิติ จึงควรมี  ผิดปกติของผู้เข้าร่วมวิจัยส่วนใหญ่หายหรือดีขึ้นได้

            การศึกษาเพิ่มเติมในกลุ่มตัวอย่างที่มากขึ้น ส่วนกลุ่ม  อย่างไรก็ตาม เพื่อให้เข้าใจถึงกลไกการออกฤทธิ์ที่แท้
            ประจำาเดือนขาด พบว่าอาการไม่หายและไม่ดีขึ้นหลัง  จริงของยาตำารับนี้และสามารถเลือกใช้ยาให้เหมาะสม
            ใช้ยาประสะไพล อย่างไรก็ตามยังไม่สามารถสรุปได้ว่า   กับผู้ป่วยมากขึ้น ควรมีการศึกษาฤทธิ์ทางเภสัชวิทยา

            ยาประสะไพลมีประสิทธิผลหรือไม่ ในการรักษาภาวะ  หรือกลไกการออกฤทธิ์ของยาประสะไพลต่อภาวะ
            ประจำาเดือนขาด เนื่องจากมีผู้เข้าร่วมวิจัยในกลุ่มนี้  ประจำาเดือนผิดปกติเพิ่มเติม
            เพียง 1 คนซึ่งมีภาวะประจำาเดือนขาดมานาน 1 ปี จึง     เมื่อติดตามผลของยาประสะไพลต่อกลุ่มอาการ

            เป็นการยากที่จะรักษาภาวะนี้ด้วยยาสมุนไพรและเห็น  ก่อนมีประจำาเดือนได้แก่ เจ็บคัดเต้านม อารมณ์
            ผลในการศึกษาระยะสั้น ดังนั้นจึงควรมีการศึกษาใน  หงุดหงิด ปวดท้องน้อย มีสิว ปวดเมื่อยหลัง ท้องอืด
            ผู้เข้าร่วมวิจัยกลุ่มนี้เพิ่มเติม เมื่อพิจารณาฤทธิ์ทาง  ท้องเฟ้อและหิวบ่อย พบว่าหลังรับประทานยาประสะ

            เภสัชวิทยาของประสะไพลต่อภาวะประจำาเดือนผิด  ไพลไป 2 รอบเดือน จำานวนคนที่มีอาการก่อนมีประจำา
            ปกติพบว่ายังมีข้อมูลจำากัด คือ มีเพียงการศึกษาของ  เดือนลดลงอย่างมีนัยสำาคัญทางสถิติ ซึ่งอาจเนื่องจาก

            สมศักดิ์ นวลแก้ว ซึ่งทดสอบฤทธิ์ทางเภสัชวิทยาและ  ยาประสะไพลทำาให้ผู้เข้าร่วมวิจัยที่ภาวะประจำาเดือน
            รายงานว่าสารสกัดประสะไพลไม่มีฤทธิ์คล้ายฮอร์โมน  ผิดปกติมีอาการดีขึ้น หรือหายจากอาการผิดปกติ จึง
                     [8]
            เอสโตรเจน  แต่พบว่าสารสกัดประสะไพลสามารถ    อาจส่งผลไปถึงกลุ่มอาการก่อนมีประจำาเดือนด้วย แต่
            ยับยั้งการหดตัวของมดลูกได้ โดยสารที่สกัดจาก   ปัจจุบันยังไม่มีข้อมูลมาอธิบายว่าเหตุใดยาประสะ-
            เอทานอลจะมีความแรงมากที่สุด ส่วนสารสกัดจาก  ไพลจึงสามารถบรรเทาหรือรักษากลุ่มอาการก่อนมี

            เฮกเซน (Hexane extract 25 ไมโครกรัม/มิลลิลิตร)   ประจำาเดือนได้ จึงควรมีการศึกษาเพิ่มเติมถึงผลของ
            จะมีความแรงมากที่สุดในการลดการอักเสบผ่านการ  ประสะไพลในรักษาหรือป้องกันการเกิดกลุ่มอาการนี้
            ยับยั้งเอนไซม์ cyclooxygenase (COX) โดยสามารถ  เนื่องจากเป็นกลุ่มอาการที่จัดว่าเป็นปัญหาสำาคัญอย่าง

            ยับยั้งเอนไซม์ COX-1 และ COX-2 ได้ร้อยละ 64.4   หนึ่งที่รบกวนชีวิตประจำาวันของผู้ป่วยจนทำาให้ต้องมา
                                                                [13]
            และ 84.5 ตามลำาดับ ซึ่งฤทธิ์ที่กล่าวมาข้างต้นไม่  พบแพทย์  จากข้อมูลหลักฐานเชิงประจักษ์ทางการ
            สามารถใช้อธิบายผลของยาประสะไพลในการรักษา    แพทย์ในปัจจุบัน พบว่ายาที่แนะนำาให้ใช้สำาหรับการ

            ภาวะประจำาเดือนผิดปกติได้ แต่เมื่อพิจารณารสยา  รักษากลุ่มอาการก่อนมีประจำาเดือน คือ ยาในกลุ่ม
            ตามหลักการแพทย์แผนไทย พบว่า ตำารับประสะไพล   ยับยั้งการเก็บกลับของสารซีโรโตนินแบบจำาเพาะ
            ประกอบด้วยตัวยารสร้อนฝาด เผ็ดร้อนและร้อนปร่า   (selective serotonin reuptake inhibitors) และ

            ทำาให้ทั้งตำารับออกฤทธิ์ไปในทางร้อน เมื่อรับประทาน  ยาคุมกำาเนิดชนิดรับประทาน  ซึ่งเป็นยาที่มีอาการ
                                                                              [13]
            จึงทำาให้ความร้อนในร่างกายและในเลือดเพิ่มขึ้น   ไม่พึงประสงค์และข้อจำากัดในการใช้หลายอย่าง เช่น

            เลือดจึงเหลวขึ้น ทำาให้เลือดในร่างกายรวมทั้งเลือด  มีผลต่อความดันโลหิต มีข้อควรระวังในผู้ป่วยโรค
            ประจำาเดือนไหลดีขึ้นตามหลักการทางฟิสิกส์ของเหลว   ในระบบหลอดเลือดและหัวใจ ดังนั้นจึงเป็นการดีที่
            จึงอาจใช้คุณสมบัติของรสยาอธิบายผลของตำารับใน  ผลการศึกษานี้ จะเป็นข้อมูลเบื้องต้นให้แพทย์หรือผู้
   78   79   80   81   82   83   84   85   86   87   88