Page 192 - Acrobat J Trad-21-3-2566
P. 192

J Thai Trad Alt Med                                    Vol. 21  No. 3  Sep-Dec  2023  675




            การวิจัยในหลอดทดลองพบว่ามีการต้านเชื้อจุลชีพ  ฤดูกาล เป็นต้น
            ต่าง ๆ เช่น Escherichia coli, Staphylococcus      ดังนั้น การศึกษานี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาการ

            epidermidis, Staphylococcus aureus, Salmo-  ชักน�าแคลลัสและการผลิตสาร Rosmarinic acid ของ
            nella typhimurium, Salmonella abony, Proteus   ปอบิด เพื่อเป็นแหล่งวัตถุดิบที่มีคุณภาพ ทดแทนแหล่ง
            vulgaris, Micrococcus luteus, Aspergillus niger   ที่ได้จากธรรมชาติเพื่อน�าไปพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์

                              [4-6]
            และ Candida albican  จากรายงานการศึกษาองค์  ต่าง ๆ เพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจเชิงพาณิชย์ต่อไป
            ประกอบทางเคมีของปอบิด พบว่า มีสารกลุ่ม glyco-
            sides, phytosterol, saponins และ flavonoids             ระเบียบวิธีศึกษำ

            เช่น rosmarinic acid, 4’-O-β-D-glucopyranosyl-
            rosmarinic acid, helisterculins A, helister-  1. วัสดุ
            culin B, helisoringallic acid, coumaric acid,      1.1  พืชสมุนไพร

            β-sitosterol, betulinic acid, oleanolic acid,         ท�าการเก็บตัวอย่างต้นปอบิด Helicteres
            daucosterol, cucurbitacin B, isocucurbitacin   isora L. จากจังหวัดตาก ตัวอย่างดังกล่าวผ่านการ

            B, sanguinarine, berberine chloride และ mus-  พิสูจน์ชื่อทางวิทยาศาสตร์น�ามาเก็บไว้เป็นแหล่ง
            cimol เป็นต้น [7-11]  สาร rosmarinic acid (RA) ถูก  อ้างอิงพรรณไม้ในห้องพิพิธภัณฑ์พืช ของกรม
                                        [12]
            น�ามาใช้ในอาหารและเครื่องส�าอาง  มีการศึกษา  วิทยาศาสตร์การแพทย์ รหัส DMSC 5270 น�าฝัก
                                           [13]
            ทางเภสัชวิทยาพบว่าช่วยต้านเชื้อไวรัส  ต้านเชื้อ    ปอบิดมาแยกเอาเมล็ดออก เมล็ดจะมีลักษณะสี
                  [14]
            HIV-1  ต้านเชื้อแบคทีเรีย ต้านการอักเสบ และ  น�้าตาล น�าเมล็ดที่ได้แช่น�้าทิ้งไว้ 1 คืน จากนั้นน�าไป
                 [15]
            มะเร็ง  เป็นต้น นอกจากนั้นมีผู้ศึกษาพบว่ามีฤทธิ์  เพาะลงในกระบะปลูก ต้นกล้าจะเริ่มงอกใช้ระยะ
            ต่อต้านอนุมูลอิสระดีกว่าวิตามินอีหรืออนุพันธ์ของ  เวลาประมาณ 3-4 เดือน จากนั้นน�าต้นกล้าไปปลูก
                           [16]
            วิตามินอี (Trolox)  แสดงให้เห็นว่าสารส�าคัญใน   ลงในแปลงปลูกของสถาบันวิจัยสมุนไพร กรม
            ปอบิดมีศักยภาพในการน�าไปใช้ประโยชน์ อย่างไร  วิทยาศาสตร์การแพทย์ จังหวัดนนทบุรี (Figure
            ก็ตามแหล่งวัตถุดิบที่ได้จากธรรมชาติอาจให้สาร  1) เมื่ออายุต้นได้ 3 เดือน ตัดส่วนตาข้างไปเพาะ
            ส�าคัญที่ไม่สม�่าเสมอ จากปัจจัยทางด้านสายพันธุ์   เลี้ยงเนื้อเยื่อ และเมื่อต้นปอบิดอายุได้ 1 ปี 3 เดือน

            สภาพภูมิอากาศ ลักษณะภูมิประเทศ รวมถึงวิธีการ  เก็บส่วนฝักเพื่อใช้ในการตรวจหาปริมารสารส�าคัญ
            ปลูก ท�าให้ได้วัตถุดิบมีสารส�าคัญต�่า การใช้วิธีทาง  ต่อไป
            ห้องปฏิบัติการด้วยการเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อพืชในรูปของ     1.2  เครื่องมือ

            แคลลัส (callus culture) นับว่าเป็นวิธีหนึ่งที่น่าสนใจ         เครื่องชั่งไฟฟ้าความละเอียด 0.1-0.01
            น�ามาใช้เป็นแหล่งผลิตสารทุติยภูมิทดแทนการสร้าง  มิลลิกรัม (Sartorius รุ่น AX224) เครื่องวัดค่าความ

            สารดังกล่าวที่ได้จากตามธรรมชาติ เทคนิคดังกล่าว  เป็นกรด-ด่าง (GonDO รุ่น PL-700 PCS) เครื่องนึ่ง
            สามารถควบคุมสภาวะในห้องทดลองได้ สามารถ      ฆ่าเชื้อแบบออโตเคลฟ (Zealway รุ่น FD 80 R) ตู้
            ผลิตสารได้ต่อเนื่องโดยไม่ขึ้นกับสภาพแวดล้อม   ปราศจากเชื้อแบบ ClassII (BIOBASE รุ่น BSC-
   187   188   189   190   191   192   193   194   195   196   197