Page 231 - วารสารการแพทย์แผนไทย ปีที่ 21 ฉบับที่ 2
P. 231
J Thai Trad Alt Med Vol. 21 No. 2 May-Aug 2023 447
เนื่องจากประชาชนจ�านวนมากใช้กัญชาเพื่อรักษาโรค ข้อสรุป
[13]
อยู่แล้ว ดังนั้นการพัฒนาบริการคลินิกัญชาจะเพิ่ม จากการศึกษานี้ กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่มีความ
การเข้าถึงกัญชาทางการแพทย์ในระบบสาธารณสุข พร้อมและมีทัศคติต่อการจัดบริการคลินิกกัญชา
และช่วยสร้างความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับ ทางการแพทย์อยู่ ในระดับสูง แต่เมื่อศึกษาการจัด
กัญชาทางการแพทย์ให้แก่ประชาชนได้อีกทางหนึ่ง ตั้งคลินิกกัญชาในโรงพยาบาลเชิงประจักษ์แล้ว พบ
ปัจจัยที่สัมพันธ์ในงานวิจัยนี้พบว่า ปัจจัย ว่า โรงพยาบาลแม่ข่ายขนาดใหญ่กว่าสามารถจัด
ระดับทัศนคติต่อการจัดบริการคลินิกกัญชา และ ตั้งและจัดบริการได้อย่างเต็มรูปแบบ ในขณะที่โรง-
ทัศนคติด้านแผนพัฒนาระบบสุขภาพ (Service พยาบาลชุมชนในจังหวัดน่าน จัดตั้งคลินิกกัญชาได้
plan) มีความสัมพันธ์กับการจัดตั้งคลินิกกัญชาใน จ�านวน 11 แห่ง (ร้อยละ 78.5) จาก 14 แห่ง และพบว่า
โรงพยาบาลซึ่งเป็นไปตามสมมติฐานปัจจัยทัศนคติ ร้อยละ 23.8 จัดตั้งแล้วแต่ยังจัดบริการได้ไม่เต็ม
มีผลต่อพฤติกรรมการจัดตั้ง และพบว่า ไม่มีปัจจัย ที่ ไม่ได้สั่งจ่ายผลิตภัณฑ์กัญชา ทั้งนี้เนื่องจาก
ใดที่สัมพันธ์กับการสั่งจ่ายผลิตภัณฑ์กัญชาในคลินิก ศักยภาพองค์กร และข้อจ�ากัดทางด้านทรัพยากร
กัญชาทางการแพทย์ ทั้งนี้ กลุ่มตัวอย่างที่เป็นแพทย์ โดยเฉพาะด้านบุคลากรทั้งอัตราก�าลังและสมรรถนะ
ผู้มีอ�านาจในการสั่งจ่ายผลิตภัณฑ์กัญชา มีจ�านวน 14 นอกจากนี้ พบว่า ระดับทัศนคติต่อการจัดบริการ
ราย ตัวอย่างมีจ�านวนไม่มากพอ จึงเป็นข้อจ�ากัดของ คลินิกกัญชาโดยรวม และทัศนคติด้านแผนพัฒนา
งานวิจัย เนื่องจากแพทย์ที่ปฏิบัติในโรงพยาบาลชุมชน ระบบสุขภาพ (Service plan) สาขากัญชาทางการ
มีน้อย เพิ่งผ่านการอบรม และคลินิกเพิ่งด�าเนินการจัด แพทย์มีความสัมพันธ์กับการจัดตั้งคลินิกกัญชา
ตั้ง จึงยังไม่มีความพร้อมในการสั่งจ่าย สอดคล้องกับ ในโรงพยาบาล ชี้ให้เห็นว่าหากต้องการสนับสนุน
การศึกษาของ พรอส์กและคณะที่ระบุว่า จ�านวนแพทย์ สถานพยาบาลให้สามารถจัดตั้งและด�าเนินการรักษา
ในแคนาดามีน้อยกว่าร้อยละ 20 ที่ได้รับการอนุมัติให้ ผู้ป่วยด้วยผลิตภัณฑ์กัญชาทางการแพทย์อย่างมี
[1]
มีอ�านาจสั่งจ่ายผลิตภัณฑ์กัญชาทางการแพทย์ และ ประสิทธิผล จ�าเป็นต้องปรับเปลี่ยนทัศนคติ มุมมอง
ได้เสนอแนะการพัฒนาส่งเสริมคลินิกกัญชาทางการ การรักษากัญชาในเชิงบวก และพัฒนาการจัดบริการ
แพทย์ว่า รูปแบบการจัดบริการในระยะเริ่มแรก คลินิกผ่านแผนพัฒนาระบบสุขภาพ สาขากัญชา
ควรค�านึงถึงผู้ป่วยเป็นศูนย์กลางที่ส�าคัญที่สุดและ ทางการแพทย์ ซึ่งจะช่วยให้การขับเคลื่อนงานอย่างมี
ต้องการความร่วมมือจากสหวิชาชีพทางการแพทย์ ทิศทางและเป้าหมายได้ชัดเจนได้ดียิ่งขึ้น อีกทั้งควร
ในการดูแล การสนับสนุน และการศึกษาการบูรณา มีการวิจัยทางคลินิกด้านประสิทธิผลการรักษาด้วย
การความเชี่ยวชาญทางคลินิกร่วมกับการบริหารและ ผลิตภัณฑ์กัญชา ที่เป็นหลักฐานเชิงประจักษ์เพื่อ
การสนับสนุนด้านการศึกษาควบคู่ไป อีกทั้งยังต้อง สร้างความเชื่อมั่นในการใช้ผลิตภัณฑ์กัญชารักษา
ติดตามตรวจสอบอย่างใกล้ชิดในข้อบังคับกฎหมาย ผู้ป่วยต่อไป
ที่อาจมีการเปลี่ยนแปลง