Page 230 - วารสารการแพทย์แผนไทย ปีที่ 21 ฉบับที่ 2
P. 230
446 วารสารการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ ทางเลือก ปีที่ 21 ฉบับที่ 2 พฤษภาคม-สิงหาคม 2566
อภิปร�ยผล ศึกษาว่า สารสกัดกัญชาสามารถช่วยเพิ่มคุณภาพชีวิต
การศึกษาการจัดบริการคลินิกกัญชาทางการ ของผู้ป่วย ช่วยลดระดับความปวด และสามารถน�ามา
แพทย์ในโรงพยาบาลรัฐ จังหวัดน่านนี้ได้เก็บ เป็นการรักษาทางเลือกให้กับผู้ป่วยที่รับการรักษาตาม
ข้อมูลกลุ่มตัวอย่างบุคลากรทางการแพทย์ที่รับผิด วิธีมาตรฐานแล้วไม่ได้ผล แต่การศึกษาวิจัยยังไม่
[10]
ชอบคลินิกกัญชาทางการแพทย์ในโรงพยาบาลรัฐ แพร่หลาย ส่งผลต่อความเชื่อมั่นของแพทย์ในการใช้
ครอบคลุมทุกพื้นที่ในจังหวัด พบว่า โรงพยาบาล และการสั่งจ่ายผลิตภัณฑ์กัญชาทางการแพทย์ ทั้งนี้
ขนาดใหญ่ระดับแม่ข่ายมีความพร้อมในการจัด ผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรม มีสิทธิปฏิเสธที่จะสั่งจ่าย
ตั้งและพร้อมให้บริการคลินิกกัญชาได้มากกว่าโรง ผลิตภัณฑ์กัญชาหากเห็นว่ามีเหตุผลทางคลินิกไม่
พยาบาลขนาดเล็กเนื่องจากโรงพยาบาลเครือข่ายมีข้อ เพียงพอหรือไม่มีหลักฐานสนับสนุนการใช้ผลิตภัณฑ์
จ�ากัดทรัพยากรต่าง ๆ โดยเฉพาะบุคลากร แม้ว่ากลุ่ม หรือยังไม่ได้รับการรับรองต�ารับจากส�านักงานคณะ
ตัวอย่างส่วนใหญ่ร้อยละ 95.0 จะรับทราบนโยบายเป้า กรรมการอาหารและยา จึงไม่ควรใช้ผลิตภัณฑ์กัญชา
หมายการจัดตั้งให้บริการคลินิกกัญชาทางการแพทย์ เป็นทางเลือกอันดับแรกในการรักษาโรคและภาวะใด ๆ
[11]
และกระแสการตื่นตัวของสังคมต่อเรื่องการรักษาโรค ของผู้ป่วย ในขณะที่แนวปฏิบัติในประเทศไทย
ด้วยกัญชามีสูง แต่ยังพบว่าการจัดบริการคลิกนิกกัญ ค่อนข้างมีข้อจ�ากัดการใช้ผลิตภัณฑ์กัญชาทางการ
ชาทางการแพทย์ท�าได้ไม่เต็มที่ แพทย์ ซึ่งแตกต่างกับการศึกษาของคอร์รูนและคณะ
ความรู้เกี่ยวกับการใช้และสั่งจ่ายผลิตภัณฑ์ (2017) ที่ท�าการวิจัยผู้ป่วยที่ใช้กัญชาทางการแพทย์
กัญชาของแพทย์ส่วนใหญ่มีความรู้ในระดับปาน ในรัฐวอชิงตัน สหรัฐอเมริกา พบว่า กลุ่มตัวอย่างมี
กลาง เป็นข้อค�าถามการประยุกต์การใช้ความรู้กับ แนวโน้มที่จะใช้กัญชาทดแทนยาที่ต้องสั่งโดยแพทย์
ผู้ป่วยที่ต้องการใช้ผลิตภัณฑ์กัญชาเพื่อการรักษา โดยเฉพาะร้อยละ 61 ของใบสั่งยาใช้กัญชาเพื่อลด
ทั้งนี้ เนื่องจากแพทย์ปฏิบัติการส่วนใหญ่เป็นแพทย์ ความเจ็บปวดร้อยละ 58 ใช้เพื่อความวิตกกังวล และ
ที่ใช้ทุนจบใหม่มีประสบการณ์การรักษาและระยะเวลา ร้อยละ 50 ใช้เพื่อจัดการกับภาวะซึมเศร้า [12]
การท�างานยังน้อย ประกอบกับเป็นระยะเริ่มแรกโรง- จากการศึกษาสถานการณ์การใช้กัญชาทางการ
พยาบาลเพิ่งจัดตั้งคลินิกกัญชา ระบบการจัดบริการ แพทย์ในประเทศไทยของสาวิตรี อัษณางค์กรชัยและ
ยังท�าได้ไม่เต็มที่ จึงมีผู้มารับบริการน้อยและไม่มี คณะ (2564) พบว่า ผู้ให้ข้อมูลในภาคกลางและภาคใต้
หลักฐานเชิงประจักษ์เพียงพอ ส่งผลต่อการตัดสินใจ ระบุว่า ได้ผลิตภัณฑ์กัญชามาจากผู้ค้ายาในตลาดมืด
สั่งจ่ายผลิตภัณฑ์กัญชาของแพทย์ เป็นสัดส่วนสูงสุด (ร้อยละ 77.8 และร้อยละ 80.4) ผู้ใช้
อย่างไรก็ตาม แม้จะมีการศึกษาวิจัยเชิงประจักษ์ ส่วนใหญ่ได้รับผลิตภัณฑ์กัญชาจากแหล่งนอกระบบ
ประสิทธิผลของยาน�้ามันกัญชาอยู่บ้าง เช่น มีการ สาธารณสุขและใช้กัญชาเพื่อรักษาโรคหรืออาการเจ็บ
ศึกษาประสิทธิผลของสารสกัดกัญชา คลินิกกัญชา ป่วยหลายชนิดที่อยู่นอกเหนือข้อแนะน�าของกระทรวง
ทางการแพทย์ โรงพยาบาลล�าปาง พบว่า ข้อบ่งใช้ส่วน สาธารณสุขหรือไม่มีหลักฐานทางวิชาการสนับสนุน
ใหญ่ร้อยละ 53 เป็นการรักษาแบบประคับประคอง ประสิทธิผล แต่ผู้ใช้ส่วนใหญ่กลับมองเห็นเฉพาะด้าน
รองลงมารักษาภาวะปวดร้อยละ 40 และมีข้อสรุปการ บวกของกัญชาและผลของการใช้กัญชาเพื่อรักษาโรค