Page 99 - วารสารการแพทย์แผนไทย ปีที่ 20 ฉบับที่ 3 กันยายน-ธันวาคม 2565
P. 99

J Thai Trad Alt Med                                    Vol. 20  No. 3  Sep-Dec  2022  513




            ข้าวเย็นใต้และหนอนตายหยากจากจังหวัดเพชรบูรณ์      2.2 การทดสอบฤทธิ์ความเป็นพิษต่อเซลล์
            รากนมแมวจากจังหวัดล�าปาง เหง้าพุทธรักษาจาก  มะเร็ง

            จังหวัดสุพรรณบุรี รวมจ�านวนสมุนไพรทั้งสิ้น 6      เซลล์ที่ใช้ในการทดลองมีจ�านวน 2 ชนิด ได้แก่
            ชนิดโดยหัวข้าวเย็นเหนือจะถูกน�าไปตรวจสอบเทียบ  เซลล์มะเร็งรังไข่ (SKOV-3) ATCC HTB-77 ซึ่ง
            สายพันธุ์และขอเลขอ้างอิงจากพิพิธภัณฑ์พืชสิรินธร   จะถูกเพาะเลี้ยงในอาหาร Dulbecco’s Modified

            กรมวิชาการเกษตร มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เลข  Eagle Medium (DMEM) และเซลล์มะเร็งมดลูก
            อ้างอิง SKP A062041305 หนอนตายหยาก นมแมว    (HEC-1-A) ATCC HTB112 ถูกเพาะเลี้ยงในอาหาร
            และพุทธรักษาถูกน�าไปตรวจสอบเทียบสายพันธุ์และ  McCoy’s 5a medium โดยอาหารที่เพาะเลี้ยงเซลล์

            ขอเลขอ้างอิงจากพิพิธภัณฑ์สมุนไพร กรมการแพทย์  ทั้งสองชนิดจะมีการเติม 10% fetal bovine serum
            แผนไทยและการแพทย์ทางเลือกโดยมีเลขอ้างอิงคือ   (FBS), 50 IU/mL เพนนิซิลินและ 50 µg/mL
            TMM-c No.1000643, TMM No.0006005 และ        สเตรปโตมัยซิน เซลล์จะถูกเพาะเลี้ยงในตู้บ่มที่

            TMM No.0006006 ตามล�าดับ                    อุณหภูมิ 37˚ซ. ที่มีความเข้มข้นคาร์บอนไดออกไซด์ 5%
                                                             การทดสอบฤทธิ์ความเป็นพิษต่อเซลล์มะเร็ง
            2. วิธีกำรศึกษำ                             จะใช้เทคนิค sulphorhodamine B (SRB)  โดย
                                                                                          [17]
                 2.1 การสกัดสาร                         ท�าการเพาะเลี้ยงเซลล์ลงในเพลท 96 หลุม โดยใส่
                                                                                      5
                 น�าสมุนไพรมาล้างท�าความสะอาด หั่นเป็นชิ้น  เซลล์ SKOV-3 ที่ความหนาแน่น 1 5 10  เซลล์/หลุม
            เล็ก ๆ แล้วน�าไปอบแห้งด้วยตู้อบลมร้อนที่อุณหภูมิ   ส�าหรับเซลล์ HEC-1-A ใส่ที่ความหนาแน่น 5 5 10 4
            50˚ซ. หลังจากนั้นน�าสมุนไพรชั่งอย่างละเท่า ๆ กัน   เซลล์/หลุม ท�าการบ่ม 24 ชั่วโมง จากนั้นท�าการเตรียม

            บดผสมเป็นต�ารับ แล้วจึงท�าการสกัดสารจากต�ารับ  สารสกัดที่ความเข้มข้น 10 mg/mL โดยที่สารสกัดชั้น
            และสมุนไพรเดี่ยวโดยใช้ตัวท�าละลาย 2 ชนิด ได้แก่   เอทานอลจะละลายด้วย dimethylsulphoxide ใน
            การน�าสมุนไพรไปแช่สกัดด้วยเอทานอล (95%) เป็น  ขณะที่สารสกัดชั้นน�้าจะละลายด้วยน�้า deionized

            เวลา 3 วัน หลังจากนั้นท�าการกรอง แล้วน�าของเหลว  water แล้วน�าไปกรองผ่านกระดาษกรองขนาด 0.22
            ที่ได้ไประเหยตัวท�าละลายออกด้วยเครื่องระเหยแห้ง  µm จากนั้นท�าการเจือจางสารสกัดให้มีความเข้ม
            แบบสุญญากาศ ท�าซ�้าอีกสองครั้ง แล้วน�าไประเหยตัว  ข้นต่าง ๆ กัน โดยเตรียมแบบเจือจางลดลง 2 เท่า

            ท�าละลายออกจนแห้ง ส�าหรับวิธีที่สองคือน�าสมุนไพร  (serial 2-fold dilution) และใช้อาหารเลี้ยงเซลล์ใน
            ไปต้มกับน�้าให้เดือด 15 นาที แล้วกรองเอาแต่น�้า ท�า  การเจือจาง แล้วจึงท�าการเติมสารสกัดที่ความเข้มข้น
            เช่นนี้ซ�้าอีกสองครั้ง จากนั้นน�าน�้าที่กรองได้ทั้งสามครั้ง  ต่าง ๆ ลงไปหลุมละ 100 µL ท�าการบ่มต่ออีก 72

            มาต้มเคี่ยวให้เหลือหนึ่งในสามส่วน แล้วน�าไปท�าให้  ชั่วโมง หลังจากนั้นท�าการล้างเซลล์ด้วย phosphate
            แห้งด้วยเครื่องท�าแห้งแบบแช่เยือกแข็ง หลังจากนั้น  buffer saline ที่ปราศจากเชื้อแล้วเติมอาหารใหม่

            น�าสารสกัดที่ได้เก็บไว้ที่อุณหภูมิ -20˚ซ. จนกว่าจะ  ลงไป จากนั้นบ่มต่ออีก 72 ชั่วโมง แล้วท�าการตรึง
            น�าไปทดสอบ                                  เซลล์ด้วย 40% trichloroacetic acid บ่มเป็นเวลา
                                                        1 ชั่วโมง แล้วย้อมด้วยสี 0.4% SRB บ่ม 30 นาที
   94   95   96   97   98   99   100   101   102   103   104