Page 163 - วารสารการแพทย์แผนไทย ปีที่ 19 ฉบับที่ 3
P. 163

J Thai Trad Alt Med                                    Vol. 19  No. 3  Sep-Dec  2021  709




            design 1 เรื่อง (คิดเป็นร้อยละ 25) งานวิจัยทั้ง 4   ที่ได้รับการดูแลแบบปกติร่วมกับมณีเวชสามารถลด
            เรื่อง ใช้วิธีการนั่งท่าผีเสื้อ (คิดเป็นร้อยละ 100) โดย  เวลาในระยะคลอดได้มากกว่ากลุ่มตัวอย่างที่ได้รับ

            มีการใช้รูปภาพแสดงวิธีการนั่งท่ามณีเวชประกอบการ  การดูแล ผลการศึกษานำาสู่การปรับปรุงการปฏิบัติ
            สอนนั่ง และให้นั่งท่าผีเสื้อก่อนหรือหลังการนอนรอ  โดยสร้างเป็นแนวปฏิบัติการดูแลแบบผสมผสาน
            คลอดแบบปกติแต่ละท่านาน 20 นาที นอนรอพักก่อน  ด้วยศาสตร์มณีเวชในหญิงตั้งครรภ์ครรภ์แรกเน้นให้

            ทำาท่าใหม่ 20 นาทีซึ่งสามารถสรุปผลการศึกษาดังนี้  ผู้คลอด พยาบาล แพทย์และญาติผู้คลอดมีส่วนร่วม
            คือเรื่องที่ 1 การบูรณาการการดูแลและส่งเสริมสุข  และมีการประเมินผลด้วยการศึกษาแบบกึ่งทดลอง
            ภาพหญิงเจ็บครรภ์คลอดและหลังคลอดด้วยศาสตร์   พบว่า กลุ่มทดลองมีคะแนนความเจ็บปวดลดลงและ

                                               [14]
            การแพทย์แผนไทยโรงพยาบาลสุราษฎร์ธานี  ได้    มีระยะเวลาคลอดลดลงอย่างมีนัยสำาคัญทางสถิติ เมื่อ
            รับการปรับสมดุลโครงสร้างร่างกายแบบมณีเวชและ  เปรียบเทียบระหว่างกลุ่มควบคุมกับกลุ่มทดลอง พบ
            การดูแลด้วยศาสตร์การแพทย์แผนไทย ประกอบ      ความพึงพอใจมีค่าคะแนนที่ใกล้เคียงกันคือ ร้อยละ

            ด้วย การนวด ประคบสมุนไพร การอบสมุนไพรและ    86 และร้อยละ 88 ตามลำาดับงานวิจัยเรื่องที่ 3 การ
                    ้
            การอาบนำาสมุนไพร ควบคู่กับการดูแลรักษาตามปกติ  นั่งท่าผีเสื้อต่อการเปิดปากมดลูกในขณะรอคลอดใช้
            ผลการศึกษา พบว่า ค่าเฉลี่ยคะแนนความเจ็บปวด  รูปภาพแสดงวิธีการนั่งท่ามณีเวชประกอบการสอน
                                                          [7]
            ขณะมดลูกหดรัดตัวของหญิงเจ็บครรภ์คลอด หลัง   นั่ง  ผลการศึกษาพบว่า ค่าเฉลี่ยเวลาเปิดของปาก
            เข้าโครงการของกลุ่มทดลอง น้อยกว่ากลุ่มควบคุม    มดลูกในกลุ่มนั่งท่าผีเสื้อแบบมณีเวช และกลุ่มควบคุม

            ค่าเฉลี่ยอาการและอาการแสดงความเหนื่อยล้าของ  เท่ากับ 19.6 และ 29.4 นาทีต่อเซนติเมตร ตามลำาดับ
            หญิงเจ็บครรภ์คลอดของกลุ่มทดลองภายหลังเข้า   และงานวิจัยเรื่องที่ 4 การนั่งรอคลอดท่าผีเสื้อแบบ

                                                                                              [8]
            ร่วมโครงการน้อยกว่ากลุ่มควบคุม ค่าเฉลี่ยความ  มณีเวชต่อการเจ็บครรภ์ในระยะปากมดลูกเปิดเร็ว
            เหนื่อยล้าของหญิงหลังคลอดวันที่ 1 และวันที่ 2 ของ  ผลการศึกษาพบว่าการนั่งท่าผีเสื้อมีระดับคะแนนปวด
            กลุ่มทดลองภายหลังเข้าร่วมโครงการน้อยกว่ากลุ่ม  การเจ็บครรภ์คลอดทั้งอาการปวดท้องและปวดหลัง

            ควบคุมและมีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำาคัญ   ลดลงอย่างมีนัยสำาคัญ ค่าเฉลี่ยการปวดหลังลดลง
            ทางสถิติ งานวิจัยเรื่องที่ 2 การพัฒนาการดูแลแบบ  ร้อยละ 33 ค่าเฉลี่ยอาการปวดท้องลดลง ร้อยละ 23
            ผสมผสานด้วยศาสตร์มณีเวชในหญิงครรภ์แรก       ไม่พบความผิดปกติการเต้นของหัวใจทารกและไม่พบ

            โรงพยาบาลสุราษฎร์ธานี ประเมินผลศึกษาผลลัพธ์เกี่ยว   การหดรัดตัวที่มากผิดปกติของมดลูก
            กับความเจ็บปวด ระยะเวลาการคลอด และความพึง        สามารถสรุปการศึกษาประสิทธิผลการใช้ศาสตร์
            พอใจหญิงเจ็บครรภ์คลอดครรภ์แรก เครื่องมือในการ  มณีเวชในการดูแลรักษาสุขภาพที่ได้ผลลัพธ์ที่ดีมี

            ศึกษาประกอบด้วย 1) คำาถามใช้สัมภาษณ์ผู้เชี่ยวชาญ   ทั้งหมด 11 เรื่อง ซึ่งการดูแลรักษาแบบมณีเวชผลลัพธ์
            มณีเวช จำานวน 5 ข้อ 2) คู่มือการปฏิบัติ มณีเวช 8 ท่า    ที่ดีสรุปได้ดังนี้

            3) แบบบันทึกข้อมูลส่วนบุคคล 4) คะแนนความเจ็บปวด      1.  วิธีการบริหารร่างกายแบบมณีเวช ท่ายืน 5
            เป็นตัวเลข และ 5) แนวปฏิบัติการใช้ศาสตร์มณีเวช  ท่า และท่านอน 3 ท่า ซึ่งมีงานวิจัย 5 เรื่อง ใช้การบริหาร
            ในการดูแลหญิงเจ็บครรภ์คลอดพบว่ากลุ่มตัวอย่าง  ร่างกายแบบมณีเวช โดยแต่ละท่าจะมีการบริหาร
   158   159   160   161   162   163   164   165   166   167   168