Page 121 - วารสารกรมการแพทย์แผนไทยฯ ปีที่ 18 ฉบับที่ 2
P. 121

J Thai Trad Alt Med                                   Vol. 18  No. 2  May-Aug  2020  343




              ในการรักษาพระอาการประชวรของเจ้านายไม่ระบุว่า     วันอังคาร ขึ้น 12 คำ่า เดือน 10
              เป็นพระองค์ใด                                   เวลาโมงเช้า  บรรทมตื่น ไปพระบังคลหนักเป็น
                     สภาพของเอกสาร: เอกสารชำารุดขาดตรง    พระเสมหะเปลวมีสายพระโลหิตน้อย ๆ 1 ครั้ง

              ขอบทางด้านซ้ายจากการถูกแมลงกัดทำาลายทำาให้      เวลาโมงเช้า  เสวยพระโอสถทรงปัด แล้วบรรทม
              เนื้อความของเอกสารช่วงด้านข้างซ้ายตกหล่นขาด  หลับ

              หายไป                                           เช้า 2 โมงครึ่ง  บรรทมตื่น ไปพระบังคลหนัก
                   ต้นฉบับตัวเขียนจดหมายเหตุพระอาการไข้   เป็นมูลโคตั้งกองมีเสมหะน้อย 1 ครั้ง
              ไม่ทราบพระองค์ใด เป็นสมุดไทยเขียนด้วยดินสอ      เช้า 3 โมงครึ่ง  ไปพระบังคลหนักเป็นองค์มี

              สันนิษฐานว่าบันทึกขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 5 เนื่องจาก  เสมหะน้อย เสวยพระอาหารสวยถ้วยฝาขนาดน้อย
              จัดอยู่ในหมวดจดหมายเหตุรัชกาลที่ 5 และปรากฏ  กล้วยหักมุกเผา 2 องค์
                                                ่
              วันเดือนปีที่บันทึก เป็นวันอังคาร ขึ้น 12 คำา เดือน      เที่ยง  เสวยพระโอสถทิพโอสถ
              10 ซึ่งในสมัยที่รัชกาลที่ 5 ทรงครองราชย์คือตั้งแต่     บ่ายโมง  ไปพระบังคลหนักเป็นองค์มีพระ
              ปี พ.ศ. 2411-พ.ศ. 2453 เมื่อตรวจสอบกับปฏิทิน   เสมหะน้อย 1 ครั้ง

              100 ปี แล้วเป็นไปได้ 2 วัน คือ วันอังคารที่ 6 เดือน      บ่าย 2 โมง  ปรอท 99 บรรทมหลับ
              กันยายน พ.ศ. 2413 และวันอังคารที่ 22 กันยายน      บ่าย 3 โมง  บรรทมตื่น ไปพระบังคลหนักเป็น
              พ.ศ. 2417  และข้อความที่ปรากฏในเอกสารเขียน  พระเสมหะเปลวมีสายพระโลหิตน้อย ๆ 1 ครั้ง
                       [3]
              ด้วยตัวอักษรไทย ภาษาไทย ในสมัยรัตนโกสินทร์ รูป     บ่าย_โมง  ไปพระบังคลหนัก เป็นพระเสมหะ
              อักษรที่ปรากฏจึงมีลักษณะที่แตกต่างจากรูปอักษร  เปลวมีสายพระโลหิตน้อย ๆ 1 ครั้ง เสวยพระโอสถ
              และอักขรวิธีในปัจจุบันเนื่องจากคนเขียนในสมัย  แดงทับทิม บรรทมหลับ

              โบราณมีลักษณะเฉพาะเป็นเอกลักษณ์ของตนเองใน       ทุ่มหนึ่ง  บรรทมตื่น ไปพระบังคลหนักเป็นพระ
              แต่ละคน เป็นยุคสมัยที่การศึกษาอักษรและภาษาไทย  เสมหะเปลวมีสายพระโลหิตน้อย ๆ 1 ครั้ง เสวยพระ

              ของคนไทยยังไม่มีการประกาศใช้พจนานุกรม  ใน   อาหารสวยถ้วยฝาขนาดน้อย กล้วยกลั่น 2 องค์
                                                  [4]
              เอกสารจดหมายเหตุพระอาการไข้ไม่ทราบพระองค์       ทุ่มครึ่ง ไปพระบังคลหนักเป็นพระเสมหะเปลว
              ใด จึงพบการสะกดคำาตามเสียงที่ได้ยิน เช่น คำาว่า   มีสายพระโลหิตน้อย ๆ 1 ครั้ง

              บันทม พระบังคน ซึ่งคำาที่เขียนตามเสียงเหล่านี้ความ     3 ทุ่มครึ่ง  ไปพระบังคลหนักเป็นพระเสมหะมี
              หมายเหมือนกันเพียงแต่สะกดต่างกัน รวมถึงการใส่  สายพระโลหิตน้อย ๆ 1 ครั้ง

              วรรณยุกต์ ในเอกสารโบราณสมัยก่อนยังบันทึกตาม     4 ทุ่ม  บรรทมหลับ
              เสียงอ่านจึงต้องทำาความเข้าใจความหมายและบริบท     5 ทุ่มครึ่ง  บรรทมตื่น ไปพระบังคลหนักเป็น
              ของคำานั้นเพื่อให้ได้ข้อความที่ถูกต้องที่สุด   พระเสมหะเปลวมีสายพระโลหิตน้อย ๆ 1 ครั้ง บรรทม

                   1.2 คำาถ่ายถอดเป็นภาษาไทยปัจจุบัน จดหมาย   หลับ
              เหตุรัชการที่ 5 เรื่อง พระอาการไข้ไม่ทราบพระองค์     1 ยาม  บรรทมตื่น ไปพระบังคลหนักเป็นพระ
              ใด                                          เสมหะเปลวมีสายพระโลหิตน้อย ๆ 1 ครั้ง เสวยพระ
   116   117   118   119   120   121   122   123   124   125   126