Page 195 - วารสารกรมการแพทย์แผนไทยฯ ปีที่ 17 ฉบับที่ 3
P. 195
J Thai Trad Alt Med Vol. 17 No. 3 Sep-Dec 2019 545
ประเทศไทยกำาหนดให้การปลูก นำาเข้า ส่งออก ต่อจิตประสาทอย่างกัญชาในพิธี พิธีกรรมดังกล่าว
ซื้อขาย จำาหน่าย หรือสูบกัญชา รวมทั้งบ้องกัญชา หรือ ในสมัยอยุธยา กระทำาในวัดพระศรีสรรเพชญ์และ
เครื่องมืออื่นที่ใช้สูบกัญชาเป็นสิ่งผิดกฎหมาย โดย ต่อมาย้ายไปทำาในวิหารวัดพระมงคลบพิตร ในสมัย
ตราเป็นพระราชบัญญัติตั้งแต่วันที่ 26 เมษายน พ.ศ. กรุงเทพฯ กระทำาในวัดพระศรีรัตนศาสดาราม
้
2477 ประกาศในราชกิจจานุเบกษา เมื่อ 5 พฤษภาคม นอกจากพิธีดังกล่าวแล้ว ยังมีพิธีดำานำา ลุยเพลิง
พ.ศ. 2477 ด้วยเหตุผลว่ากัญชา “ให้โทษร้ายแรงแก่ผู้ ในการสืบพยานของคู่ความในคดี ก็มีคำาสัจจาธิษฐาน
้
้
สูบ’’ ทั้งนี้กฎหมายให้ใช้บังคับเมื่อพ้นกำาหนด 90 วัน ในพิธีดำานำาลุยเพลิง โองการดำานำา โองการลุยเพลิง
นับแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป และ และคำาแช่งพยาน ซึ่งประสงค์ให้คู่กรณีรับรู้คำาสาป
[9]
“บรรดาผู้ที่ได้ปลูกกัญชาไว้ก่อนวันพระราชบัญญัติ แช่งด้วยสติสัมปชัญญะทั้งสิ้น จึงไม่ควรให้ผู้เข้าร่วม
นี้ ให้จัดการเก็บและจำาหน่ายให้หมดสิ้นไปภายใน พิธีหรือผู้เกี่ยวข้องเสพยาที่มีฤทธิ์ต่อจิตประสาท เช่น
กำาหนดหนึ่งปี นับแต่วันใช้พระราชบัญญัตินี้’’ กัญชา หรือ สารเสพติดอื่น ๆ และก็ไม่ปรากฏหลักฐาน
[7]
ชีวิตคนไทยสมัยก่อนที่เกี่ยวข้องกับกัญชา จึง ว่ามีการใช้กัญชาในพิธีกรรมดังกล่าวนั้น
น่าจะถูกกระทบสำาคัญโดยผลของกฎหมายฉบับนี้
ตั้งแต่วันที่ 5 สิงหาคม พ.ศ. 2477 ซึ่งกฎหมายเริ่มมี 2. กัญช�ในเอกส�รประวัติศ�สตร์
ผลบังคับใช้ ทั้งนี้สมัยนั้นเขียนกัญชา เป็น “กันชา’’ 2.1 กัญชาในศิลาจารึก
และให้ “หมายความตลอดถึงทุกส่วนของต้นกันชา ในศิลาจารึกต่าง ๆ เช่น ศิลาจารึกพ่อขุน
รวมทั้งวัตถุต่าง ๆ ที่อยู่ในต้นกันชา เช่น ใบ ดอก ยอด รามคำาแหง (จารึกหลักที่ 1) ปรากฏในด้านที่ 2 กล่าว
ผล ยาง และลำาต้น เป็นต้น’’ ถึงการสร้าง “ป่าหมาก ป่าพลู .... ป่าพร้าว .... ป่าลาง
หมากม่วง ... หมากขาม ... ไร่นา’’ ด้านที่ 3 ก็กล่าวถึง
1. ก�รใช้กัญช�ในท�งพิธีกรรม “ป่าหมากพร้าว ป่าหมากลาง ... มีไร่นา ... ป่าพร้าว ป่า
[10]
ขณะที่บางประเทศ และบางวัฒนธรรมในอดีต มี ลาง ... ป่าม่วง ป่าขาม ... ปลูกไม้ตาล’’ ไม่กล่าวถึง
การนำากัญชาไปใช้ในพิธีกรรมบางอย่าง เช่น ที่ปรากฏ กัญชาเลย (ลาง คือ ขนุน)
[8]
คัมภีร์อาถรรพเวท ของศาสนาพราหมณ์ แต่ไม่ ศิลาจารึกวัดศรีชุม (จารึกหลักที่ 2) ด้านที่ 1
ปรากฏหลักฐานการนำากัญชามาใช้ในพิธีกรรมสำาคัญ กล่าวถึง “... ลูกหมากรากไม้ ปลูกพระศรีมหาโพธิ ...’’
้
ในวิถีชีวิตคนไทยสมัยก่อน เช่น พิธีถือนำาพิพัฒน์สัต ด้านที่ 2 กล่าวถึง “... สวนหมาก สวนพลู ไร่นา ... แพะ
้
ยา หรือพิธีถือนำาพระพิพัฒนสัจจา หรือ อีกชื่อหนึ่งว่า และหมู หมา เป็ด ไก่ ทั้งห่าน นกหก ปลา เนื้อ ฝูงสัตว์
พิธีศรีสัจจปานกาล ซึ่ง “สัจจปาน’’ หรือ “สัตยบาล’’ ทั้งหลาย’’ ไม่กล่าวถึงกัญชาเช่นกัน
[10]
้
ก็คือ นำาสัตยสาบาล พิธีดังกล่าวจะมีการอ่าน “โองการ ศิลาจารึกนครชุม (จารึกหลักที่ 3) กล่าวถึงต้นไม้
้
แช่งนำา’’ ซึ่งเป็นการสาปแช่งคนที่ไม่ถือคำาสัตย์สาบาน ไว้ต้นเดียวในด้านที่ 1 คือต้นพระศรีมหาโพธิ กล่าวถึง
้
ให้มีอันเป็นไปต่าง ๆ โดยน่าเชื่อว่า โองการแช่งนำามีมา “ปลูกหมากพร้าวหมากลางทุกแห่ง ... ข้าวเหลือเกลือ
[9]
แต่ก่อนยุคกรุงศรีอยุธยา คำาสาปแช่งต่าง ๆ ประสงค์ ทุน’’ ในด้านที่ 2 (ข้าวเหลือเกลือทุน หมายถึง มี
[10]
จะให้ผู้เข้าร่วมพิธีรับรู้ จึงไม่ควรมีการใช้สารที่มีฤทธิ์ เสบียงอาหารเหลือเก็บไว้) ไม่กล่าวถึงกัญชา ศิลาจารึก