Page 121 - วารสารการแพทย์แผนไทย ปีที่ 20 ฉบับที่ 2 พฤษภาคม-สิงหาคม 2565
P. 121
J Thai Trad Alt Med Vol. 20 No. 2 May-Aug 2022 319
ไม่ถูกวิธี จึงเกิดผลเสียหรือเกิดโทษมากกว่า มีบาง โรคต่าง ๆ นั้น ส่วนใหญ่ได้ข้อมูลจากการได้ยิน ได้
คนต้องเข้าไปรักษาที่โรงพยาบาล ส่วนการใช้รักษา ฟัง จากบุคคลอื่นพูดต่อ ๆ กันมา และความเชื่อใน
แบบประเภทอื่น ๆ ไม่ค่อยมีคนรู้จัก นอกจากการน�า ตัวบุคคลที่ถูกกล่าวถึง จะเห็นได้จากการที่มีประชาชน
ไปสูบหรือกินเพื่อประโยชน์อื่นที่ไม่ใช่การรักษาหรือ บางส่วนไปขอรับแจกกัญชาที่ผ่านการสกัดด้วย
บรรเทาอาการเจ็บป่วย นอกจากนี้ยังให้ข้อมูลว่า มี ความร้อน แล้วน�ามาผสมน�้ามันมะพร้าวบรรจุอยู่ใน
ประชาชนในพื้นที่บางส่วนแสดงอาการไม่ยอมรับ แคปซูล เพื่อน�ามาใช้ในการรักษาหรือบรรเทาอาการ
การน�ากัญชามาใช้ทางการแพทย์ จากการศึกษาจะ เจ็บป่วยด้วยโรคต่าง ๆ ของตนหรือญาติ ทั้งที่ผู้แจก
เห็นได้ว่าประชาชนส่วนใหญ่ยังมีการรับรู้ข่าวสาร ได้อธิบายไว้แล้วว่าสามารถน�าไปใช้ได้กับบางโรคหรือ
ที่เกี่ยวข้องกับการน�าเอากัญชาไปรักษาโรคจากสื่อ บางอาการเท่านั้น ส่วนการรับรู้เกี่ยวกับ โทษของกัญชา
ต่าง ๆ น้อย และไม่ครบทุกด้าน ซึ่งเป็นไปตามสถานะ ประชาชนส่วนใหญ่มีความรู้ถึงโทษของกัญชาอยู่ใน
ทางสังคมของแต่ละคน สอดคล้องกับการศึกษาของ เกณฑ์ระดับปานกลาง ซึ่งผลการศึกษา พบว่า ผู้ที่มี
[12]
จิราภา สันประเทียบ ที่ศึกษาทัศนคติของประชาชน ความรู้เกี่ยวกับกัญชา ไม่มีใครรู้โทษที่แท้จริง แต่กลุ่ม
ที่มีต่อการใช้พืชเศรษฐกิจ “กัญชา’’ ในการรักษาโรค ที่มีความรู้ถึงโทษของกัญชา ส่วนใหญ่เป็นเรื่องของ
มะเร็ง ในพื้นที่จังหวัดสระแก้ว พบว่า ประชาชนให้ โทษทางกฎหมาย เช่น ถูกจับติดคุก และบางคนรู้ว่า
ความส�าคัญด้านความรู้เพิ่มเติม เกี่ยวกับกัญชาสูงสุด การใช้กัญชาในการประกอบอาหาร จะท�าให้อาหารมี
ความรู้ด้านสรรพคุณทางยา ข้อกฎหมาย/ข้อบังคับ รสชาติดีขึ้น อีกส่วนหนึ่งรู้ว่าการใช้น�้ามันกัญชาแบบ
และวิธีการใช้/ผลข้างเคียง หยดใต้ลิ้นอาจท�าให้เสียชีวิตได้ ผลการศึกษาความ
2. การยอมรับในการใช้กัญชารักษาโรค สัมพันธ์ พบว่า 3.1 ความสัมพันธ์ระหว่างการรับรู้การ
ประชาชนมีการยอมรับในระดับปานกลาง และจาก ใช้กัญชารักษาโรค มีความสัมพันธ์เชิงบวกกับการใช้
การสัมภาษณ์ประธาน อสม.ให้ข้อมูลว่า ประชาชนบาง กัญชารักษาโรคทั้ง 3 ด้าน ในระดับปานกลาง ได้แก่
ส่วน ยังมีความลังเลไม่แน่ใจว่าจะรักษาได้จริงหรือ มีความสัมพันธ์กับสถานการณ์ที่เกี่ยวข้องกับการ
ไม่ โดยส่วนหนึ่งมีทัศนคติว่า กัญชาเป็นพืชที่เป็นยา ใช้กัญชารักษาโรคในบริบทภายนอก, สถานการณ์ที่
เสพติดให้โทษต่อร่างกาย น�าไปรักษาโรคไม่ได้ แต่ใน เกี่ยวข้องกับการใช้กัญชารักษาโรคภายในตัวบุคคล
ขณะที่คนกลุ่มใหญ่ มีทัศนคติว่ากัญชาเป็นสมุนไพรที่ และมีความสัมพันธ์กับการสนองตอบในการรับรู้การ
มีประโยชน์ และเชื่อว่ากัญชาสามารถรักษาโรคได้ จึง ใช้กัญชารักษาโรคในระดับปานกลาง และ 3.2 ความ
มีความตั้งใจที่จะศึกษาการน�ากัญชาไปรักษาโรคให้ สัมพันธ์ระหว่างการยอมรับกับการใช้กัญชารักษาโรค
แก่คนอื่นหรือญาติ และมีความตั้งใจที่จะแนะน�าคน จากการศึกษาพบว่า การยอมรับการใช้กัญชารักษาโรค
ที่รู้จัก ให้ใช้กัญชารักษาโรคอีกด้วย ซึ่งผลการศึกษา มีความสัมพันธ์เชิงบวกกับการใช้กัญชารักษาโรคใน
อยู่ในระดับปานกลางทั้งหมด ด้านการยอมรับว่าการใช้กัญชารักษาเป็นประโยชน์กับ
3. การใช้กัญชารักษาโรคของประชาชน ใน ร่างกาย และด้านการมีพฤติกรรมปฏิบัติตามในระดับ
ด้านการใช้สารสกัดจากกัญชา ที่น�ามาใช้ในการรักษา ปานกลาง