Page 98 - วารสารการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ ทางเลือก ปีที่ 19 ฉบับที่ 2 พฤษภาคม-สิงหาคม 2564
P. 98

328 วารสารการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ ทางเลือก      ปีที่ 19  ฉบับที่ 2  พฤษภาคม-สิงหาคม 2564




           ดังกล่าวแสดงให้เห็นว่าตำารับยาศุขไสยาศน์ สามารถ  ช่วงตื่นนอนให้เหมาะสม จากการตัดการทำางาน
           ทำาให้กลุ่มตัวอย่างมีการนอนหลับที่ดีขึ้น ทั้งนี้อาจจะ  ของแขนงประสาทส่วนเยื่อหุ้มสมองออกจากสิ่งเร้า

           เป็นผลมาจากฤทธิ์ทางเภสัชวิทยาของสารสำาคัญของ  ภายนอก ยับยั้งการกระตุ้นจากสิ่งเร้าภายนอกทำาให้
           สมุนไพรในตำารับยาศุขไสยาศน์ที่มีฤทธิ์ต้านอาการ  รู้สึกกระปรี้กระเปร่าเมื่อตื่นนอน [16]
                                    [10]
                                                 [11]
                             [9]
           วิตกกังวล ได้แก่ ดีปลี  สะเดา  และลูกจันทน์        ด้านความปลอดภัย พบว่ากลุ่มตัวอย่างร้อยละ
           และช่วยให้นอนหลับ ได้แก่ สารทีเอชซี (delta-  38.34 เกิดอาการไม่พึงประสงค์จากการใช้ตำารับยา
           9-tetrahydrocannabinol, THC) ที่มีฤทธิ์ช่วย  ศุขไสยาศน์ โดยอาการไม่พึงประสงค์ที่พบมากที่สุด 3
           ผ่อนคลายและระงับประสาทในกัญชา [12-13]  และสาร  อันดับแรก ได้แก่ อาการแสบร้อนกลางอก อาการเวียน

                                    [14]
           โชกาออล (shogaols) ในขิงแห้ง นอกจากนี้ ตาม  ศีรษะ และอาการปากแห้ง คอแห้ง ทั้งนี้ อาการไม่พึง
           หลักการทางการแพทย์แผนไทยเรื่องสรรพคุณเภสัช   ประสงค์ดังกล่าวที่เกิดขึ้นน่าจะมีสาเหตุจากสมุนไพร
           ตำารับยาศุขไสยาศน์ มีรสประธานของตำารับคือ สุขุม  จำานวน 7 ชนิดที่มีจำานวน 47 ส่วนใน 78 ส่วนของตำารับ

           ออกร้อน รสยาทั้งตำารับ รสเมาเบื่อ เจือร้อนออกหอม   หรือคิดเป็นร้อยละ 60.26 ได้แก่ ดีปลี 11 ส่วน ขิงแห้ง
           จึงสามารถเข้าระบบลมปลายประสาท กระตุ้นให้ระบบ  10 ส่วน พริกไทย 9 ส่วน ลูกจันทน์ 7 ส่วน เทียนดำา

           ประสาททำางานดีขึ้น                          5 ส่วน สมุลแว้ง 4 ส่วน และการบูร 1 ส่วน ซึ่งเป็น
                ด้านคุณภาพชีวิต 5 มิติและภาวะสุขภาพ ผล  สมุนไพรที่มีรสเผ็ดร้อนจึงอาจจะทำาให้เกิดอาการข้าง
           การศึกษาพบว่าคะแนนเฉลี่ยของกลุ่มตัวอย่างก่อน   เคียงดังกล่าวต่อระบบทางเดินอาหารได้

           รับประทานตำารับยาศุขไสยาศน์เท่ากับ 0.821 ± 0.19       นอกจากนี้ เมื่อวิเคราะห์วิธีการบริหารยาเปรียบ
           และ 83.43  ± 14.07 คะแนนตามลำาดับ หลัง      เทียบระหว่างการบริหารยาด้วยการละลายผงยาใน
                                                        ้
           รับประทานตำารับยาศุขไสยาศน์ ครบ 4 สัปดาห์ คะแนน  นำาอุ่น เปรียบเทียบกับการบริหารยาด้วยการใช้ผง
                                                              ้
           คุณภาพชีวิต 5 มิติและภาวะสุขภาพเฉลี่ยมีค่าเท่ากับ   ยาผสมนำาผึ้งปั้นเป็นลูกกลอน พบว่า กลุ่มตัวอย่าง
                                                                                      ้
           0.903 ± 0.11 และ 89.27 ± 11.45 คะแนน ซึ่งเพิ่มขึ้น  ที่มีการบริหารยาด้วยการใช้ผงยาผสมนำาผึ้งปั้นเป็น
           อย่างมีนัยสำาคัญทางสถิติ ทั้งนี้คะแนนเฉลี่ยที่เพิ่มขึ้น  ลูกกลอนเกิดอาการแสบร้อนกลางอกน้อยกว่ากลุ่ม
                                                                                   ้
           ของกลุ่มตัวอย่างหลังได้รับประทานยาศุขไสยาศน์น่า  ที่บริหารยาด้วยการละลายผงยาในนำาอุ่น ทั้งนี้ อาจ
                                                               ้
           จะเป็นเพราะกลุ่มตัวอย่างสามารถนอนหลับได้ดีขึ้นจึง  เนื่องจากนำาผึ้งทำาหน้าที่เป็นสารยึดเกาะประสานผง
           ทำาให้รู้สึกกระปรี้กระเปร่า สดชื่น รู้สึกได้ว่าตนเองพัก  ยาให้เป็นลูกกลอน ประกอบกับมีรสหวาน จึงทำาให้
           ผ่อนได้อย่างเต็มที่และพร้อมที่จะทำางานหรือดำาเนิน  การรับประทานยาแบบลูกกลอนสามารถลดอาการ
           ชีวิตต่อไป ซึ่งสอดคล้องกับการศึกษาของซู้หงษ์    เผ็ดร้อนของผงยาที่ผ่านลงไปจากปากไปถึงกระเพาะ

           ดีเสมอ (2554) ที่พบว่าการนอนหลับที่ไม่มีคุณภาพ  อาหารได้ จึงทำาให้อาการแสบร้อนกลางอกและอาการ
           ในผู้ที่เป็นมะเร็ง มีผลกระทบต่อทั้งด้านร่างกาย จิตใจ   ปากแห้ง คอแห้งจากการบริหารยารูปแบบนี้ ทำาให้เกิด

                        [15]
           และคุณภาพชีวิต  และ Shneerson (2005) กล่าว  อาการข้างเคียงน้อยกว่าการบริหารยาแบบละลายผง
                                                            ้
           ว่าการนอนหลับเป็นช่วงที่ร่างกายใช้กักเก็บพลังงาน   ยาในนำาอุ่น นอกจากนี้ ผลเลือดของกลุ่มตัวอย่าง
                                                                                 ้
           การนอนหลับจะช่วยปรับพฤติกรรมของมนุษย์ใน     จำานวน 13 รายที่มีการเจาะเลือดซำาหลังรับประทาน
   93   94   95   96   97   98   99   100   101   102   103