Page 2 - จุลสารกรมการแพทย์แผนไทยฯ ปีที่3 ฉบับที่ 9 ประจำเดือน กันยายน 2563
P. 2

ภญ. พิมพรรณ  ลาภเจริญ


            หัวใจและหลอดเลือด เป็นอวัยวะที่ส�ำคัญของร่ำงกำย ในปัจจุบันกลุ่มโรคหัวใจและหลอดเลือดจัดเป็นปัญหำทำงสำธำรณสุขที่ส�ำคัญทั่วโลก
        รวมถึงเป็นกลุ่มโรคที่เป็นสำเหตุของกำรเสียชีวิตในล�ำดับต้นของประเทศไทย และยังมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นทุกปี ปัจจัยเสี่ยงของกลุ่มโรคดังกล่ำว ได้แก่
        ภำวะไขมันในเลือดผิดปกติ โรคควำมดันโลหิตสูง โรคอ้วน กำรสูบบุหรี่  ดื่มสุรำ และไม่ออกก�ำลังกำย ในบทควำมนี้จึงขอแนะน�ำสมุนไพร
                ที่หำได้ง่ำยในครัวเรือน เพื่อช่วยดูแลสุขภำพของหัวใจและหลอดเลือด


            กระเทียม  (Allium sativum L.)  กำรรับประทำนกระเทียมช่วยลดควำมเสี่ยงต่อกำรเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือดได้

        เนื่องจำกในกระเทียมมีสำร ajoene มีฤทธิ์ลดกำรเกำะกลุ่มกันของเกล็ดเลือด ป้องกันกำรอุดตันของหลอดเลือด และ
        ต้ำนกำรเกิดลิ่มเลือดได้ อีกทั้งมีกำรศึกษำ  พบว่ำ  กำรรับประทำนกระเทียมมีผล
        ลดระดับคอเลสเตอรอล และไตรกลีเซอไรด์ได้ นอกจำกนี้กระเทียมยังมีฤทธิ์ลดควำมดันเลือดด้วย
        อย่ำงไรก็ดี กำรรับประทำนกระเทียมปริมำณสูงอย่ำงต่อเนื่อง จะเพิ่มควำมเสี่ยงต่อกำรเกิดเลือดออก
        หลังกำรผ่ำตัด ดังนั้น ควรหยุดรับประทำนกระเทียมก่อนผ่ำตัดหรือถอนฟันล่วงหน้ำอย่ำงน้อย 7 วัน
        และควรหลีกเลี่ยงกำรรับประทำนกระเทียมในปริมำณมำกตอนท้องว่ำง เนื่องจำกกระเทียมมีฤทธิ์ร้อน
                                     [1 - 5 ]
        จึงอำจระคำยเคืองในกระเพำะอำหำรได้




            ขิง  (Zingiber officinale L.)   จัดเป็นสมุนไพรที่มีฤทธิ์ร้อน                                                      ชาเขียว  (Camellia sinensis)
        ช่วยกระตุ้นกำรไหลเวียนเลือด ในขิงมีสำรออกฤทธิ์ทำงเภสัชวิทยำ                                                        ในชำเขียวมีสำรส�ำคัญหลำยชนิด
        หลำยชนิด เช่น gingerol และ shogaol มีผลลดระดับไขมันในเลือด                                                      เช่น Epigallocatechin-3-gallate
        ลดระดับน�้ำตำลในเลือด และบรรเทำอำกำรอักเสบได้   ที่ผ่ำนมำมีกำร                                                     (EGCG) มีฤทธิ์ต้ำนอนุมูลอิสระ
        วิจัยพบว่ำ กำรรับประทำนขิงในปริมำณไม่มำก (น้อยกว่ำ 2 กรัมต่อวัน)                                  ลดระดับควำมดันเลือด   ลดระดับคอเลสเตอรอล
                                                     [6 - 7 ]
        มีผลลดระดับคอเลสเตอรอล และระดับไตรกลีเซอไรด์ในเลือดได้   และไขมันเลว (low-density lipoprotein cholesterol; LDL-C) และ
                                                               มีส่วนช่วยป้องกันกำรแข็งตัวของหลอดเลือดได้  นอกจำกนี้  มีกำรศึกษำ
                                                               ในประเทศญี่ปุ่นที่พบว่ำกำรดื่มชำเขียวเป็นประจ�ำมีควำมสัมพันธ์กับ
                                                               กำรลดอัตรำกำรตำยจำกโรคหัวใจและหลอดเลือด   รวมถึงสำรออกฤทธิ์

                                                               ในชำเขียวยังช่วยต้ำนอนุมูลอิสระได้ดีอีกด้วย อย่ำงไรก็ตำม
                                                               ควรรับประทำนชำเขียวในปริมำณที่เหมำะสมเนื่องจำกกำรดื่มชำเข้มข้น
                                                               ในปริมำณมำกอำจท�ำให้ท้องผูก  นอนไม่หลับ ลดกำรดูดซึมวิตำมินบี 1
                                                                                     [8 - 10 ]
                                                               และธำตุเหล็กเข้ำสู่ร่ำงกำยได้



      เอกสารอ้างอิง
      1.  ธนิดำ ขุนบุญจันทร์. ส�ำนักกำรแพทย์พื้นบ้ำนไทย กรมกำรแพทย์แผนไทยและกำรแพทย์ทำงเลือก กระทรวงสำธำรณสุข. สมุนไพรพื้นบ้ำน ลดไขมันในเลือด ตำมภูมิปัญญำของหมอพื้นบ้ำน.2554
      2.  Mousa SA. Antithrombotic effects of naturally derived products on coagulation and platelet function. Methods in molecular biology (Clifton, NJ). 2010;663:229-40.
      3.  Zeng T, Guo FF, Zhang CL, Song FY, Zhao XL, Xie KQ. A meta-analysis of randomized, double-blind, placebo-controlled trials for the effects of garlic on serum lipid
        profiles. Journal of the science of food and agriculture. 2012;92(9):1892-902
      4.  Stabler SN, Tejani AM, Huynh F, Fowkes C. Garlic for the prevention of cardiovascular morbidity and mortality in hypertensive patients. The Cochrane database of
        systematic reviews. 2012(8):Cd007653.
      5.  Ang-Lee MK, Moss J, Yuan CS. Herbal medicines and perioperative care. Jama. 2001;286(2):208-16.
      6.  Saravanan, G.,P.Ponmurugan, M.A. Deepa, et al. 2014.Antiobesity action of gingerol: effect on lipid profile, insulin, leptin, amylase and lipase in male obese rats
        induced by a high-fat diet. J. Sci. Food Agric. 94: 2972–2977.
      7.  Pourmasoumi M, Hadi A, Rafie N, Najafgholizadeh A, Mohammadi H, Rouhani MH. The effect of ginger supplementation on lipid profile: A systematic review and
        meta-analysis of clinical trials. Phytomedicine. 2018;43:28-36. doi:10.1016/j.phymed.2018.03.043
      8.  Hartley L, Flowers N, Holmes J, et al. Green and black tea for the primary prevention of cardiovascular disease. Cochrane Database Syst Rev. 2013;2013(6):CD009934.
        Published 2013 Jun 18. doi:10.1002/14651858.CD009934.pub2
      9.  Momose Y, Maeda-Yamamoto M, Nabetani H. Systematic review of green tea epigallocatechin gallate in reducing low-density lipoprotein cholesterol levels of
        humans. Int J Food Sci Nutr. 2016;67(6):606-613. doi:10.1080/09637486.2016.1196655
      10. Mineharu Y,  Koizumi A,  Wada Y,  Iso H,  Watanabe Y,  Date C et al. JACC study Group. Coffee, green tea, black tea and oolong tea consumption and risk of
        mortality from cardiovascular disease in Japanese men and women. Journal of Epidemiology and Community Health 2010;65:230‐40.
   1   2   3   4