Page 61 - ภาพนิ่ง 1
P. 61

Journal of Thai Traditional & Alternative Medicine   Vol. 10 No. 1 January-April 2012   55





          ยาว 20–25 เซนติเมตร รูปกระสวยถึงรูปไข่  องค์ประกอบทางเคมี ไพลมีองค์ประกอบเคมีเป็น
                                                                                       7,8
          กว้าง 3-4 เซนติเมตร ยาว 10-15 เซนติเมตร ใบ น้ำมันระเหยง่ายไม่น้อยกว่าร้อยละ 0.8  โดย
          ประดับเรียงซ้อนกันแน่น สีน้ำตาลขอบสีเขียว องค์ประกอบเคมีของน้ำมันระเหยง่ายอาจแตก
          อ่อน รูปไข่ ยาว 3-3.5 เซนติเมตร ผิวมีขนนุ่ม  ต่างกันไปตามแหล่งที่มา แต่โดยทั่วไปมักมีสาร
          ปลายแหลม  ใบประดับย่อยยาว  1-1.5  กลุ่มมอโนเทอร์พีน (monoterpene) เป็นหลัก
          เซนติเมตร กลีบเลี้ยงโคนติดกันเป็นหลอด สีขาว  เช่น  แอลฟา-ไพนีน  ( -pinene),  ซาบินีน
          ยาวประมาณ 1.2 เซนติเมตร กลีบดอกสีเหลือง (sabinene), แอลฟา-เทอร์พินีน ( -terpinene),
          อ่อน  โคนติดกันเป็นหลอดยาวประมาณ  6  แกมมา-เทอร์พินีน ( -terpinene), เทอร์พีน-
          เซนติเมตร ปลายแยกเป็นสามแฉก เกสรเพศผู้ 4-ออล (terpenen-4-ol) นอกจากนั้นไพลยังมี
          เป็นหมันที่เปลี่ยนไปเป็นกลีบปากยาวประมาณ 6  สารสีเหลืองเคอร์คูมิน  (curcumin),
          เซนติเมตร รูปเกือบกลม สีขาว ปลายแยกเป็น 2  อนุพันธ์แนฟโทควิโนน  (naphthoquinone
          แฉก  และจะแยกออกลึกขึ้นเมื่อดอกใกล้โรย  derivatives), อนุพันธ์บิวทานอยด์ (butanoid
          เกสรเพศผู้เป็นหมันที่เหลือรูปขอบขนาน สีเดียว derivatives)  หลายชนิด  ที่สำคัญได้แก่
          กับกลีบปาก ขนาบสองข้างของโคนกลีบปากและ (อี)-4-(3,4-ดีเมทอกซีเฟนิล)บิว-3-อีน-1-ออล
          เชื่อมเป็นแผ่นเดียวกัน เกสรเพศผู้ที่สมบูรณ์มี 1  [(E)-4-(3,4-dimethoxyphenyl)but-3-en-1-ol
          อัน ก้านเกสรเพศผู้สั้นมาก อับเรณูเป็นหงอนยาว หรือสารดี  (D)],  (อี)-1-(3,4-ดีเมทิลเฟนิล)
          และโค้งหุ้มก้านยอดเกสรเพศเมีย ที่ยาวขึ้นไป บิวทาไดอีน [(E)-1-(3,4-dimethylphenyl)
          เหนืออับเรณู รังไข่อยู่ใต้วงกลีบ ยาวประมาณ 2  butadiene หรือ สารดีเอ็มพีบีดี (DMPBD)],
          มิลลิเมตร มี 3 ช่อง แต่ละช่องมีออวุลจำนวนมาก  อนุพันธ์ไซโคลเฮกซีน  (cyclohexene
          ผล แบบผลแห้งแตก รูปกลม 1, 3-6              derivatives) เช่น ซีส-3-(3,4-ไดเมทอกซีเฟนิล)
          ถิ่นกำเนิดและการกระจายพันธุ์ พืชชนิดนี้มีเขต -4-[(อี)-3,4-ไดเมทอกซีสไตริล]ไซโคลเฮก-1-
          การกระจายพันธุ์ทั่วไปในแถบเอเซียตะวันออก อีน [cis-3-(3,4)-dimethoxyphenyl)-4-[(E)-3,
                                              6
                 5, 6
          เฉียงใต้   อาจเป็นพืชพื้นเมืองของอินเดีย  ใน 4-dimethoxystyryl]cyclohex-1-ene]  3, 8
          ประเทศไทยพบได้ทั่วไป มีปลูกตามบ้านทั่วไป ข้อบ่งใช้ ใช้ภายนอกแก้อาการฟกช้ำ บวม เคล็ด
          สำหรับใช้ทำยา                              ขัดยอก
                                                           8
          ลักษณะเครื่องยา  เหง้าแห้งรูปร่างไม่แน่นอน       ตำราสรรพคุณยาไทยว่าไพลมีรสฝาดขื่น
          ค่อนข้างแบน แตกแขนงเป็นแง่งคล้ายนิ้วมือ ยาว  เอียน สรรพคุณขับลม ขับระดู แก้ลำไส้อักเสบ
          3-7 เซนติเมตร หนา 1-2 เซนติเมตร ผิวนอกสี ขับเลือดร้าย แก้ระดูขาว เป็นต้น ใช้ภายนอกโดย
          เหลืองแกมสีเทา หรือสีน้ำตาลอ่อนแกมสีเทา ไม่ การทาถูนวดแก้เคล็ดขัดยอก สมานแผล แก้ปวด
          เรียบ มีรอยย่นตามยาว และมีข้อปีเห็นได้ชัดเจน  เมื่อยกล้ามเนื้อ  1, 2, 8
          แง่งมักมีส่วนใบที่ลดรูปเป็นเกล็ดเหลืออยู่ ส่วน    ข้อมูลจากการศึกษาวิจัยพรีคลินิกและคลินิก
          บนอาจพบรอยแผลเป็นจากต้นหรือตา เนื้อแน่น  พบว่าสารสกัดไพลมีฤทธิ์ต้านการอักเสบ 10-13
          รอยหักสีขาวแกมสีเหลืองอมส้ม มีเม็ดละเอียด มี ข้อห้ามใช้ ห้ามทาบริเวณขอบตาหรือบริเวณที่
          เนื้อเยื่อชั้นในสุดของคอร์เทกซ์เป็นวงชัดเจน มี เป็นเนื้อเยื่ออ่อน หรือบริเวณที่มีบาดแผลหรือ
          มัดท่อลำเลียงและเซลล์น้ำมันสีเหลืองกระจายอยู่ เป็นแผลเปิด 8
          ทั่วไป ในบางครั้งอาจพบเป็นแว่น หั่นตามยาว คำเตือน  ไพลอาจทำให้เกิดการระคายเคือง
                                                                                    8
          หรือเฉียง หนา 2-5 มิลลิเมตร สีเหลืองอมเขียว  ผิวหนัง และเกิดอาการแพ้ที่ผิวหนังได้
          ผิวนอกสีน้ำตาลอ่อน 3
   56   57   58   59   60   61   62   63   64   65   66