Page 182 - วารสารการแพทย์แผนไทย ปีที่ 21 ฉบับที่ 2
P. 182
398 วารสารการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ ทางเลือก ปีที่ 21 ฉบับที่ 2 พฤษภาคม-สิงหาคม 2566
Figure 1 Cannabis sativa L. roots
สารกลุ่มโมโนเทอร์พีน (monoterpene) เช่น คาร์โวน
(carvone) และไดไฮโดรคาร์โวน (dihydrocarvone)
มีฤทธิ์ต้านแบคทีเรีย ต้านเชื้อรา ต้านการอักเสบ ต้าน
มะเร็ง สารอะโทรปีน (atropine) มีฤทธิ์คลายกล้าม
เนื้อตา และขยายหลอดลมในปอด [2]
จากข้อมูลการศึกษาทางวิทยาศาสตร์ข้างต้น
แสดงถึงฤทธิ์ทางชีวภาพของรากกัญชาที่น่าสนใจ
หลายชนิด มีศักยภาพสามารถน�าไปพัฒนาต่อยอด
เป็นผลิตภัณฑ์ยารักษาโรคหรือผลิตภัณฑ์เครื่อง Figure 2 Chemical structure of Friedelin
ส�าอางได้ ท�าให้ข้อมูลในการควบคุมคุณภาพทางเคมี
ของรากกัญชาเป็นสิ่งจ�าเป็น ปัจจุบันการพัฒนาราก chromatography (HPTLC) และในปีพ.ศ. 2564
[3]
กัญชาเพื่อประโยชน์ทางการแพทย์ จ�าเป็นต้องมีการ มีรายงานการวิเคราะห์ฟริเดลีนในสารสกัดรากกัญชา
ศึกษาการพัฒนาสารสกัด การแยกสารบริสุทธิ์ เพื่อ ด้วยวิธี GC-MS/FID
[4]
ให้เป็นพืชที่สามารถใช้ประโยชน์ทางการแพทย์ได้ การศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ที่จะพัฒนาวิธี
อย่างเหมาะสม และในการน�ารากกัญชามาเป็นองค์ วิเคราะห์ปริมาณฟริเดลีนในรากกัญชาด้วยวิธีเดนซิ-
ประกอบในการปรุงต�ารับยานั้น จ�าเป็นต้องมีข้อมูล โทเมทรีโครมาโทกราฟีผิวบาง เพื่อใช้เป็นแนวทางใน
ปริมาณสารส�าคัญ แต่ปัจจุบันข้อมูลดังกล่าวยังมีอยู่ การประเมินคุณภาพวัตถุดิบของรากกัญชาที่พบใน
น้อย ในปีพ.ศ. 2560 มีรายงานการพัฒนาวิธีวิเคราะห์ ประเทศไทย และใช้ในการวิจัยและพัฒนาต�ารับยา
ปริมาณฟริเดลีนในสารสกัดและต�ารับยาสมุนไพร และผลิตภัณฑ์จากสมุนไพรที่มีรากกัญชาเป็นส่วน
มะค่าไก่ด้วยวิธี high performance thin layer ผสม เพื่อเพิ่มมูลค่าของรากกัญชาทางเศรษฐกิจต่อไป