Page 167 - วารสารการแพทย์แผนไทย ปีที่ 21 ฉบับที่ 2
P. 167

J Thai Trad Alt Med                                   Vol. 21  No. 2  May-Aug  2023  383




            กลีบประดับ (bracts) มี 2 ขนาด ส่วนโคนประกอบ  ลมพิษ โรคผิวหนัง และยังมีสารต้านอนุมูลอิสระใน
            ด้วยกลีบประดับขนาดใหญ่ จะมีสีแดงขลิบขาวเรียง  ปริมาณที่สูง ประกอบด้วยฟีนอลิก 462.51 มิลลิกรัม

            ซ้อนกันอยู่และจะบานออก กลีบประดับขนาดเล็ก   GAE/100 กรัม, เบต้า-แคโรทีน 2.096 ไมโครกรัม/
            อยู่ส่วนบนของช่อดอกมีสีเดียวกับกลีบประดับขนาด  100 กรัม, วิตามินอี 62.031 ไมโครกรัม/100 กรัม,
            ใหญ่ กลีบประดับเล็กนี้จะหุบเข้าเรียงเป็นระดับ   วิตามินซี 89.683 ไมโครกรัม/100 กรัม และมีความ

            ภายในกลีบประดับขนาดใหญ่ที่บานออกจะมีดอก     สามารถในการดักจับอนุมูลอิสระ DPPH ได้เป็น
                                                             [4]
            ขนาดเล็กกลีบดอกสีแดง ซึ่งเป็นดอกสมบูรณ์เพศอยู่  อย่างดี
            จ�านวนมาก ดอกบานเต็มที่จะมีขนาดความกว้างดอก      จากรายงานการศึกษาพฤกษเคมีและฤทธิ์ทาง

            ประมาณ 14-16 เซนติเมตร ลักษณะก้านช่อดอกแข็ง   ชีวภาพ พบว่าดาหลามีฤทธิ์ทางชีวภาพที่น่าสนใจ เช่น
            ตั้งตรง ดอกจะพัฒนามาจากหน่อดอกที่แทงออกมา   ฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ  ฤทธิ์ยับยั้งเอนไซม์คอลลาจิ
                                                                        [5-6]
                                                                                              [7]
            จากเหง้าใต้ดิน ลักษณะของหน่อจะมีสีชมพูที่ปลาย  เนส (collagenase) และไทโรซิเนส (tyrosinase)
            หน่อ  (Figure 1) ดาหลาเป็นพืชสมุนไพรที่มีการ  เป็นต้น Haleagrahara และคณะ (ค.ศ. 2010) พบ
                [2]
            ปลูกมาเป็นระยะเวลานานแล้วในภาคใต้ของไทย ซึ่ง  ว่าสารฟีนอลิกและแอนโทไซยานิน ที่พบในดาหลา

                                                                                              [5]
            เดิมได้มีการน�าหน่ออ่อนและดอกมาใช้เป็นผักส�าหรับ  มีความสามารถในการเป็นสารต้านอนุมูลอิสระสูง
            ประกอบอาหารพื้นเมือง คือ ข้าวย�า และเชื่อกันว่าเป็น  Chan และคณะ (ค.ศ. 2011) ได้รายงานผลการ
            สมุนไพรที่สามารถรักษาโรคกระเพาะอาหารได้อีกด้วย   ศึกษาพบว่าองค์ประกอบทางเคมีที่ส�าคัญของดาหลา

            แต่ปัจจุบันมีการน�ามาปลูกเพื่อใช้ประโยชน์ในการ  คือ คาเฟอิลควินิคแอซิด (caffeoylquinic acid),
                                                   [3]
            เป็นไม้ตัดดอก และปลูกตกแต่งเป็นพืชสวนประดับ    คลอโรจีนิคแอซิด (chlorogenic acid) , เควอซิทิน
            มีรายงานจากงานวิจัยว่าดาหลาเป็นพืชสมุนไพรที่มี  (quercetin) และไอโซเควอซิทิน (iso-quercetin)
                                                                                              [6]
            ประโยชน์มาก เนื่องจากมีสรรพคุณทางยา ช่วยแก้  Nithitanakool และคณะ (ค.ศ. 2014) พบว่าสารฟี


























                                     Figure 1  Etlingera elatior (Jack) R.M. Smith
   162   163   164   165   166   167   168   169   170   171   172